AV Taxi นั้นย่อมาจาก Fully autonomous vehicle หรือแท็กซี่ไร้คนขับนั่นเอง ซึ่งทำให้อนาคตจะไม่ต้องมีคนขับแท็กซี่อีกต่อไป ลดปัญหาการเรียกผ่านแอปฯและถูกปฏิเสธ หรือปัญหาเรื่องมารยาทในการขับขี่ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน และในอนาคตแท็กซี่ไร้คนขับจะมาช่วยแก้ปัญหาชีวิตผู้คน
AV Taxi หรือ Fully Autonomous Vehicle ได้ถูกเริ่มศึกษาและจดสิทธิบัตรในจีนเรียบร้อยโดยบริษัท ไป่ตู้ หรือ Baidu นั่นเอง
Baidu ซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของจีนได้เปิดตัวยานพาหนะคันต่อไปที่จะเข้าร่วมกับบริการแท็กซี่ไร้คนขับที่มีชื่อว่า Apollo Go และได้กล่าวว่ารถรุ่นใหม่ Apollo RT6 มีทักษะการใช้ถนนเหมือนคนขับที่มีประสบการณ์ 20 ปี
พวงมาลัยแบบถอดได้ อาจถูกแทนที่ด้วยที่นั่งเสริม ตู้ขายของอัตโนมัติ โต๊ะทำงาน หรือเครื่องเล่นเกม
รถยนต์รุ่นนี้อัดแน่นด้วยเซ็นเซอร์ 38 ตัว รวมถึง เซ็นเซอร์ตรวจจับแสงและวัดระยะ (Lidar) แปดตัว ,เรดาร์คลื่น 6 มม. (0.2 นิ้ว) หนึ่งตัว, เซ็นเซอร์อัลตราโซนิก 12 ตัว และกล้องถึง 12 กล้อง
และที่น่าสนใจคือขณะนี้ ไปตู้ (Baidu) ได้ทำการจดสิทธิบัตรเพื่อให้รถแท็กซี่ไร้คนขับ สามารถวิ่งได้โดยไม่ต้องมีคนอยู่ที่หลังพวงมาลัย (Safety Driver) อีกต่อไป และในฝั่งจีนยังพัฒนาเลนถนนให้เฉพาะรถยนต์ไร้คนขับวิ่งอีกด้วย ดังนั้นการเดินทางด้วยรถ AV Taxi ในจีนจะสะดวกและรวดเร็วมาก เพียงเรียกผ่านแอปพลิเคชั่น รถจะสามารถมารับได้ตรงเวลา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ปัจจุบันแท็กซี่ก็ยังคงมีปัญหาโดยเฉพาะในประเทศไทย เช่น โรคระบาดโควิด-19 ที่รักษาระยะห่าง , มารยาทของการขับขี่ของคนขับแท็กซี่ และการปฏิเสธงานที่ทำให้การเดินทางเป็นไปอย่างล่าช้า
หากอนาคตในประเทศไทยมี AV Taxi และสามารถทำเลนเฉพาะรถยนต์ไร้คนขับเพื่อให้ใช้ในเมืองได้ ก็จะทำให้การเดินทางมีทางเลือกมากขึ้น คนหันมาใช้แท็กซี่ไร้คนขับมากขึ้น ซึ่งในกรุงเทพมหานครอาจยังไม่สามารถเปลี่ยนแปลงโครงสร้างถนนได้ แต่คาดว่าหากทำในพื้นที่ต่างจังหวัดก็ยังคงเปลี่ยนแปลงได้ทัน
แต่อย่างไรก็ตามก็เริ่มมีการนำแท็กซี่ไฟฟ้าเข้ามาเตรียมใช้ในประเทศไทยกันบ้างแล้ว อย่างน้อยก็จะช่วยลดมลพิษจากการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งคาดว่าในปี 2566 นี้จะมีคนไทยและการขนส่งเชิงพาณิชย์หันมาใช้รถ EV กันมากขึ้น