อนาคต “แท๊กซี่ EV” จะมาช่วยให้ “ค่าครองชีพและค่าเดินทางในประเทศไทย” ถูกลง
ทายอนาคตได้ว่า “แท๊กซี่ EV” อาจเข้ามาช่วยทำให้ค่าเดินทางหรือค่าครองชีพของคนทั่วโลกลดลงและที่น่าสนใจคือในประเทศไทยที่กำลังพบเจอกับปัญหาค่าครองชีพสูงการเดินทางด้วยแท๊กซี่ EV ในอนาคต อาจเข้ามาช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ได้
ในประเทศได้มี “แท๊กซี่ EV” วิ่งอยู่ตามท้องถนนอยู่แล้ว แต่เราอาจไม่ทันได้สังเกต นั่นคือ BYD E6 ที่เป็น “EV Taxi VIP” ให้บริการตั้งแต่ปี 2561 แล้ว โดยอัตราค่าโดยสารจะคิดตามแอปพลิเคชั่น “Taxi Ok” ซึ่งเป็นของกรมขนส่งทางบก
โดยอยู่ที่ 2 กิโลเมตรแรก 150 บาท กิโลเมตรถัดไป คิดอัตรากิโลเมตรละ 16 บาท ซึ่งยังถือว่าเป็นราคาที่สูงอยู่ถ้าเทียบกับรถแท๊กซี่ทั่วไป
แต่เราได้มีข่าวสารจากฝั่งมาเลเซีย ได้มีการนำ MG5 ไปใช้เป็นแท๊กซี่ EV ให้บริการ โปรแกรมนี้มีชื่อว่า “Teksiku”
ซึ่งมีราคาเช่าให้คนขับแท๊กซี่อยู่ที่ 80 ริงกิต (664 บาทต่อวัน) และ 2400 ริงกิต (19,972 บาท ต่อเดือน)
ซึ่งทาง Teksiku ได้คิดราคาค่าชาร์จไว้ที่ 900 ริงกิตมาเลเซีย (7,488 บาท ต่อเดือน) ซึ่งถ้าเทียบกับค่าแท๊กซี่ทั่วไปที่นั่นจะถูกลงกว่าครึ่งทั้งค่าเช่าและค่าน้ำมัน
ปัจจุบันค่าแท๊กซี่ทั่วไปในประเทศไทยอยู่ที่วันละ 600-1,200 บาท หรือเดือนละ 18,000 - 36,000 บาท และส่วนใหญ่แท๊กซี่มักจะใช้แก๊ส NGV หรือ LPG
แต่ถ้าหากมีรถยนต์ไฟฟ้าเข้ามาทำการตลาดเป็นการให้เช่าแท๊กซี่ EV และยังทำสถานีชาร์จสำหรับแท๊กซี่ อาจทำให้ค่าเช่าและค่าชาร์จไฟฟ้าถูกลงกว่าครึ่ง
แม้ในช่วงแรกของการทำการตลาดอาจยังไม่ส่งผลต่อการเดินทาง แต่ในอนาคตหากมีการแข่งขันกันเกิดขึ้น อาจทำให้ค่าเดินทางโดย “แท๊กซี่ EV” มีราคาถูกลงในอนาคต
ในอนาคตแอปพลิเคชั่น “แท๊กซี่ EV” อาจมีให้บริการเพิ่มมากขึ้นเนื่องจากมีการนำรถ EV เข้ามาทำการตลาดในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง และทำให้คนไทยสามารถเข้าถึงการเดินทางแบบใหม่ๆอย่างแท๊กซี่ไฟฟ้าผ่านโปรโมชั่นต่างๆที่มีการแข่งขันกับขนส่งอื่นๆ
ในประเทศไทยโดยเฉพาะในกรุงเทพมหานคร มีจราจรแออัด รถติด คนขับแท๊กซี่มีความเสี่ยงเพราะแม้จะรถจะติดแก๊ส NGV ก็ยังต้องใช้เชื้อเพลิง
แต่หากเป็นรถแท๊กซี่ EV ขณะจอดจะทำให้ประหยัดแบตเตอรี่และไม่ต้องใช้พลังงานเชื้อเพลิงขณะรถติด และหนึ่งในเหตุผลว่าทำไมอนาคต "รถแท๊กซี่ EV" อาจทำให้ค่าเดินทางถูกลง
ปัจจุบันมีการให้เช่ารถ EV ให้ทดลองใช้กันมากขึ้น แต่หากมีการสนับสนุนให้ผลิตและพัฒนาอย่างเต็มที่ หรือมากกว่านั้นคือ "มีการสนับสนุนด้านการซื้อรถ EV มาใช้ในธุรกิจแท๊กซี่ , มีเงินทุนมาหนุนเพื่อสนับสนุนให้คนใช้มากขึ้น และหากทำได้จะส่งผลต่อค่าครองชีพและค่าเดินทางที่ถูกลงอย่างแน่นอน
