"รถยนต์ไร้คนขับ" (Autonomous) เทคโนโลยีแห่งอนาคต ในไทยเป็นไปได้ไหม?

รถยนต์ไร้คนขับ (Autonomous) ได้ถูกพัฒนามาอย่างต่อเนื่องและยาวนาน จนในที่สุดหลากหลายค่ายรถยนต์ก็ได้ออกมาประกาศเปิดตัวในด้านการพัฒนาเทคโนโลยีนี้ เช่น

Mercedes Benz EQS ได้เผยถึงเทคโนโลยี Drive Pilot ซึ่งเทคโนโลยีนี้ได้เชื่อมต่อการเดินทางไว้กับ Google Maps และระบบขับขี่อัตโนมัติซึ่งเป็นการขับขี่แบบไร้คนขับระดับ 3 แต่อย่างไรก็ตามกฏหมายของยุโรปยังคงกำหนดความเร็วไว้ที่ 60 กม./ชม. และยังคงมีปัญหาเล็กน้อยคือการวิ่งผ่านอุโมงค์และสิ่งก่อสร้างอยู่

ในฝั่งของ BMW ก็เช่นกัน ได้ประกาศเปิดตัวเทคโนโลยีรถยนต์ไร้คนขับระดับ 3 ภายในปี 2025 หลังจากพัฒนามาตั้งแต่ปี 2021 ซึ่งได้ร่วมงานกับ Qualcomm และ Arrivalr เพื่อพัฒนารถยนต์รุ่น BMW iX และ BMW Series 7 ซึ่งเป็นรุ่นเรือธงของแบรนด์ อีกทั้ง BMW ยังจะใช้เทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นมานี้กับ Mini Cooper และ Rolls-Royce อีกด้วย

แม้แต่ Audi ก็กำลังก้าวสู่ยานยนต์ไร้คนขับ ซึ่ง Thomas Mueller ได้พูดถึงเทคโนโลยีนี้เกี่ยวกับความปลอดภัยที่มากขึ้นจากแต่ก่อน ซึ่งนี่ก็ถือเป็นสัญญาณที่ Audi กำลังจะพัฒนาระบบไร้คนขับกับรถยนต์รุ่นใหม่ๆของค่าย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

• Toyota GR Gupra รถไร้คนขับอัจฉริยะ ดริฟท์เองได้ ไม่ต้องใช้นักแข่ง
• Sony ตั้งฐานผลิตในไทย มุ่งผลิตเซ็นเซอร์ “รถยนต์ไร้คนขับ” ในปี 2025 นี้
• Xiaomi มาแรง เปิดตัวรถยนต์ไร้คนขับ ตั้งเป้าเป็นผู้นำเทคโนโลยีปี 2024

ส่วน Tesla เจ้าของเอกสิทธิ์รถยนต์ไร้คนขับที่มีชื่อว่า 'Autopilot' และ 'Full Self-Driving' ที่โด่งดังมายาวนานตั้งแต่แรก ก็ได้มีการถูกตรวจสอบ จาก NHTSA (สำนักงานบริหารความปลอดภัยการจราจรทางหลวงแห่งชาติ )   ซึ่งต้องการตรวจสอบระบบ Autopilot หรือระบบขับขี่ไร้คนขับของ Tesla ว่ามีผลต่อการเกิดอุบัติเหตุหรือไ ม่

เรื่องที่น่าสนใจก็คือ หาก  NHTSA พิจารณาในการสืบสวนว่าระบบ Autopilot ของ Tesla ไม่ปลอดภัย อาจบังคับให้บริษัทเรียกคืนรถยนต์หรือซ่อมแซมเพื่อแก้ไขข้อบกพร่องด้านความปลอดภัย      

แต่อย่างไรก็ตามความคืบหน้าของการอัปเดต Full Self Driving จะมีการทดสอบเบต้าในวันที่ 10 กันยายน ซึ่งคาดว่าการอัปเดตครั้งนี้จะทำให้ระบบฉลาดและปลอดภัยยิ่งขึ้น 

ทางผู้เขียนได้มีความคิดเห็นเกี่ยวกับเทคโนโลยีรถยนต์ไร้คนขับ ว่ามีทั้งข้อดีและข้อเสีย ซึ่งข้อดีในปัจจุบันหากเทคโนโลยีนี้ได้รับการพัฒนาจนสมบูรณ์แบบ การขับขี่ที่ประมาทหรือรวดเร็วเกินไปจะไม่มีอีกต่อไป และความปลอดภัยบนท้องถนนจะเพิ่มมากขึ้น แต่ในทางกลับกันข้อเสียของเทคโนโลยีก็คือปัจจุบันยังคงมีความผิดพลาดจากระบบเหล่านี้อยู่ ซึ่งยังคงต้องแก้ไขต่อไปเพื่อให้สามารถใช้งานได้จริงอย่างสมบูรณ์แบบ 

อีกหนึ่งเรื่องที่น่าสนใจเกี่ยวกับเทคโนโลยีรถยนต์ไร้คนขับ (Autonomous) ก็คือในอนาคตเราสามารถใช้เทคโนโลยีนี้ในการขนส่ง (Logistic) ไม่ว่าจะเป็นรถบรรทุก , รถขนส่ง การส่งสินค้าต่างๆ อาจไม่ต้องมีคนขับเสมอไป หากเทคโนโลยีสามารถควบคุมการทำงานผ่านระบบ AI ต่างๆเพื่อส่งสินค้าหรือพัสดุถึงลูกค้าได้โดยไม่ต้องใช้มนุษย์ และเมื่อประกอบกับเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า จะทำให้ระบบขนส่งสามารถลดความสิ้นเปลืองทั้งด้านแรงงานและพลังงานได้เป็นอย่างดี

แต่เมื่อมองกลับมาที่ประเทศไทยกับ 'เทคโนโลยีรถยนต์ไร้คนขับ' อาจเป็นไปได้ไม่ง่าย เนื่องจากถนนหนทางในประเทศไทยโดยเฉพาะในกรุงเทพมหานครที่มีความวุ่นวายและแออัด ไม่ว่าจะเป็นถนนที่ขรุขระ , เส้นทางก่อสร้างที่ไม่คาดคิด อาจทำให้ระบบเหล่านี้ไม่สามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัย แต่ในเส้นทาง EEC หรือนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ หรือต่างจังหวัดก็อาจสามารถใช้เทคโนโลยีนี้ช่วยในการเดินทางไกลได้และจะช่วยลดความเหนื่อยล้าในการขับขี่ระยะไกลได้ในอนาคต