เชื่อว่าหลายคนกำลังตัดสินใจที่จะซื้อรถยนต์ไฟฟ้าหรือกำลังมีความคิดที่จะเปลี่ยนรถที่มีอยู่ ขณะนี้ได้มีวิจัยล่าสุดในสหรัฐอเมริกาที่ระบุว่าการใช้รถยนต์ไฟฟ้านั้นสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่า
รถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมดอาจมีราคาแพงกว่าในตอนแรก แต่เมื่อซื้อแล้ว จะช่วยประหยัดต้นทุนได้มากเมื่อเทียบกับเครื่องยนต์สันดาปหรือรถน้ำมันนั่นเอง จากข้อมูลของสำนักงานเทคโนโลยียานยนต์ของกระทรวงพลังงาน (DOE) หากเราเปรียบเทียบรถยนต์ขนาดเล็กรุ่นปี 2022 ปรากฎว่าความแตกต่างระหว่างยานพาหนะต่างๆ อาจเป็นหลายพันดอลลาร์ต่อปีตามแต่ละขนาดรถ
รถยนต์ที่ใช้พลังงานแบตเตอรี่หรือพลังงานไฟฟ้า 100% นั้นประหยัดค่าใช้จ่ายที่จะต้องจ่ายให้เชื้อเพลิงอย่างน้ำมัน การใช้รถยนต์ BEV หรือ EV (ระบบไฟฟ้า 100% จึงมีค่าใช้จ่ายต่ำกว่า 1,000 ดอลลาร์ต่อปี (ประมาณ 30,000 บาท)
รถประเภทปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) ที่ยังคงใช้ระบบเชื้อเพลิงน้ำมันอยู่ ยังคงต้องมีค่าใช้จ่าย 1,000-2,000 ดอลลาร์ต่อปี (30,000-60,000 บาท) ซึ่งส่วนใหญ่มีค่าใช้จ่ายมากกว่าที่คาดการณ์ไว้
รถยนต์สันดาปภายใน (ICE) หรือรถน้ำมันที่เราเรียกกันง่ายๆ จะมีค่าใช้จ่ายถึง 2,000-7,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี (60,000-250,000 บาท)
โดยแผนภูมิจากห้องปฏิบัติการพลังงานทดแทนแห่งชาติ จะทำให้เห็นว่า รถยนต์ BEV จะมีค่าใช้จ่ายต่ำกว่ารถยนต์สันดาปที่ใช้น้ำมันเบนซินหรือดีเซลเป็นจำนวนที่ต่าง 6-7 เท่าเลยทีเดียว (1,000$ กับ 6,000-7,000$)
และทำให้เราเห็นได้ว่า รถยนต์ไฟฟ้า 100% ไม่ว่าจะเป็นรถขนาดหรือใหญ่จนถึงรถสปอร์ตที่ใช้พลังงานสูงเพื่อประสิทธิภาพของการขับขี่ ก็ยังประหยัดค่าใช้จ่ายกว่ารถขนาดเล็กที่ใช้เชื้อเพลิงน้ำมันหรือสันดาปอยู่หลายเท่าตัว