หลังจากมีมาตรการสนับสนุนส่วนลดจากรัฐบาล รถยนต์ไฟฟ้าหรือรถยนต์ EV ก็มียอดขายพุ่งสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด บวกกับพลังงานเชื้อเพลิงน้ำมันมีราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง นักลงทุนและบริษัทต่างๆจึงหันมาสนใจตลาดรถยนต์ไฟฟ้ากันมากยิ่งขึ้น
มาตรการจากรัฐบาลมีส่วนลดการซื้อรถยนต์ไฟฟ้าให้ เป็นส่วนลดสูงถึง 70,000-150,000 บาทต่อคัน จึงไม่แปลกที่รถยนต์ไฟฟ้าจะเข้ามาแย่งส่วนแบ่งทางการตลาด
ยกตัวอย่าง ในปีหน้า เรเว่ ออโตโมทีฟ ที่กำลังจะเข้ามาทำการตลาดในประเทศไทยในรถยนต์ ‘BYD’ ตั้งเป้าเร่งยอดขายปีแรก 10,000 คัน ซึ่งได้ลงทุนกว่า 3,000 ล้านบาท และภายในระยะเวลา 5 ปี บริษัทตั้งเป้ามียอดขายติด 1 ใน 5 บริษัทของตลาดรถยนต์เมืองไทย
ประธานพร พรประภา รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เรเว่ ออโตโมทีฟ กล่าวว่า การขยายเครือข่ายจัดจำหน่าย ปีนี้จะมีการเปิดโชว์รูมและศูนย์บริการ 31 แห่ง ส่วนในปี 2566 จะเพิ่มอีกเท่าตัวเป็น 60-70 แห่ง พร้อมขยายสถานีชาร์จ 1,000 หัวชาร์จในปี 2565
ที่มา : autospinn.com
ขณะนี้ BYD ได้เริ่มเทสไดรฟ์เปิดให้เหล่าอินฟลูเอนเซอร์สายรถยนต์ทดลองขับไปเรียบร้อยแล้ว และจะเปิดตัวรุ่นแรกในไทย BYD Atto 3 รูปทรง SUV ที่จะมาเป็นคู่แข่งกับ MG ZS EV
และตามด้วย ‘BYD Dolphin’ และนี่คือคู่แข่งเจ้า GWM Ora Good Cat โดยตรงเลยก็ว่าได้
และด้วยความน่าเชื่อถือของแบตเตอรี่ BYD นั้นอาจทำให้ใครหลายคนเฝ้ารอ พร้อมด้วยแนวคิดของประธานพร พรประภา ที่หวังจะสนับสนุนผู้ใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าให้เกิดความเชื่อมั่นมากขึ้นด้วยการรับประกันการใช้งาน และความพร้อมของอะไหล่ที่ครอบคลุม
และขณะนี้ อีวีไพรมัส ได้เปิดตัว Volt City EV รถยนต์ไฟฟ้าราคาน่ารัก ที่มีราคาเพียง 300,000-400,000 บาท ยอดจองทะลุ 1,000 คันภายใน 24 ชั่วโมง
และล่าสุดอีวี ไพรมัส ยังได้เตรียมประกาศเลิกขายรถน้ำมันเชื้อเพลิง DFSK Glory และสนับสนุนสิ่งแวดล้อมด้วยการมีส่วนลดพิเศษให้ลูกค้าเดิมที่ใช้ DFSK Glory อยู่สามารถรับสิทธิ์ติดตั้งชุด LPG ในราคาพิเศษเหลือ 30,000 บาท โดยไม่กระทบต่อเงื่อนไขการรับประกัน
จะเห็นได้ว่ามีการเร่งทั้งกำลังผลิตและการทำตลาดในประเทศไทยอย่างรวดเร็ว ทำให้แบรนด์ต่างๆเตรียมขนทั้งเทคโนโลยีและโปรโมชั่นมาแข่งขันกันอย่างดุเดือด
อย่างไรก็ตามรถยนต์ในประเทศไทยยังคงมีตลาดในฝั่งของรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดอยู่เนื่องจากในประเทศไทยยังมีที่ชาร์จไม่แพร่หลายมากนัก สังเกตจากหลากหลายยี่ห้อที่ได้ออกมาตีตลาดรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดในประเทศไทยในปีนี้ เช่น
MG VS 2022 ที่เปิดตัวในไทยเมื่อวันที่ 8 สิงหาคมนี้ ขุมพลังไฮบริด 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 182 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร ชูจุดเด่นด้วยอัตราสิ้นเปลืองทะลุ 25 กม./ลิตร ตามมาตรฐานการทดสอบ NEDC
ค่าย MG ยังได้เตรียมแข่งขันกับรถยนต์ไฟฟ้าค่ายอื่นด้วยรุ่น ‘MG EP Minorchange’ ที่คาดว่าจะเข้าไทยภายในปลายปีนี้ในราคาที่สูงกว่าตัวเดิม
ดังนั้นหากใครที่กำลังคิดจะรอซื้อรถยนต์ไฟฟ้าเป็นรถคันแรกหรือเลือกซื้อเป็นรถคันที่สอง ลองพิจารณาตามนี้ได้เลย
หากรอได้และไม่รีบใช้รถ จีงควรรอไตรมาสหน้าที่แบรนด์ต่างๆจะขนเทคโนโลยีและโปรโมชั่นรวมถึงรุ่นรถยนต์ต่างๆมาให้เลือกสรรกันอย่างเต็มที่ เนื่องจากอาจได้แบตเตอรี่ที่มากขึ้น เทคโนโลยีการใช้งานในชีวิตประจำวันได้ดีกว่ารุ่นแรกๆ
แต่หากใครจะซื้อรถยนต์ไฟฟ้าเป็นคันที่สองก็สามารถพิจารณาเลือกซื้อได้เลย หากมีโปรโมชั่นที่น่าสนใจ เพราะเทคโนโลยีในรถยนต์ไฟฟ้าที่วางจำหน่ายในขณะนี้ก็เริ่มเข้ามาตอบโจทย์สำหรับรถคันที่สองแล้ว
การที่มีการแช่งขันสูงเกิดขึ้นในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ไฮบริด ทำให้ผู้บริโภคสามารถมีตัวเลือกได้มากขึ้น เนื่องจากบริษัทต้องนำเทคโนโลยีมาแข่งขันกันเพื่อชิงตลาด ดังนั้นผู้บริโภคจึงมีโอกาสเลือกรถยนต์ที่เหมาะกับการใช้งานมากขึ้น มีหลากหลายรูปแบบกว่าเดิม และยังได้รับโปรโมชั่นต่างๆจากการแข่งขันกันทำตลาดอีกด้วย ซึ่งถือเป็นข่าวดีสำหรับคนไทยที่จะมีรถทั้งจากจีน , ยุโรป และประเทศอื่นๆเข้ามาตีตลาดแข่งขันกัน