SHORT CUT
ทักษิณ ชินวัตร หรือ เศรษฐา ทวีสิน ใครเป็นนายกรัฐมนตรี สร้างความสับสนให้ประชาชนทั่วประเทศไทยไปตามๆ กันจนมีการตั้งคำถามว่าประเทศไทยกำลังมีหลายนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ฉะนั้นจึงต้องมีตัวช่วยคือ เทคโนโลยีระบุตัวตน จะได้ป้องกันความสับสนว่าใครเป็นนายกรัฐมนตรี
อากาศร้อนที่ว่าร้อนแรง ก็ไม่เท่ากับแสงทางการเมืองที่ส่องไปที่เชียงใหม่ ในวันที่ “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี และ “ทักษิณ ชินวัตร” (อดีต)นายกรัฐมนตรี เดินสายไปทั่วภาคเหนือของประเทศไทย
ทำเอาสถานการณ์การเมืองร้อนฉ่า ว่าเอ๊ะเริ่มสงสัยและว่าใครเป็นนายกรัฐมนตรีกันแน่ เพราะตามรัฐธรรมนูญประเทศไทย นายกรัฐมนตรี มีได้แค่ 1 คน นั่นคือเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีตัวจริงจากพรรคเพื่อไทย (พท.)
แต่เมื่อ ทักษิณ ชินวัตร ปิ๊กบ้านเปิ้นที่เจียงใหม่ กลับทำให้รัศมีของนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันของไทยอยู่ใน “สภาวะเศรษฐาหมอง” ในทันที
SPRiNG พาไปชมเทคโนโลยีที่ชื่อว่า “Biometric”เทคโนโลยีที่ใช้เอไอระบุตัวตน ไชในวันที่ประเทศไทยสับสน ว่า “ใครเป็นนายกรัฐมนตรี”
Biometric เอไอ คือเทคโนโลยีที่ช่วยระบุตัวตนทางชีวภาพได้ ไม่ว่าจะเป็นการสแกนม่านตาแบบในภาพยนตร์หลายๆ เรื่อง หรือการปั้มนิ้วมือที่ทำกันโดยทั่วไป หรือจะเป็นน้ำเสียง ซึ่งสิ่งเหล่านี้จากตัวเราล้วนเป็นรหัสเข้าสู่ข้อมูลของมนุษย์นั่นเอง
ขั้นตอนการทำงานของเจ้าเทคโนโลยีนี้คือการบันทึกอัตลักษณ์หลักฐานต่างๆ ของมนุษย์ไว้เป็นข้อมูลเสียก่อน ไม่ว่าจะเป็นม่านตา ลายนิ้วมือ รูปภาพ อัตลักษณ์ทางใบหน้า น้ำเสียงที่เป็นอัตลักษณ์ส่วนบุคคล
ต่อมาเจ้าตัวนี้จะนำอัตลักษณ์ของบุคคลไปประมวลรูปร่าง ทำให้เป็นสัดส่วนและเป็นเส้นตรง และนำข้อมูลต่างๆ ไปเก็บไว้ในระบบขององค์กร
เทคโนโลยีดังกล่าวนำไปสู่ Biometric แบบสแกนใบหน้าที่เราใช้กันในปัจจุบันในโทรศัพท์ เช่น IPHONE เป็นต้น โดยสามารถลดรายจ่ายในการพัฒนาระบบสแกนนิ้วมือที่มีราคาแพง เปลี่ยนเป็นการสแกนหน้าด้วยการใช้กล้องที่คมชัดแทนเข้าแทนที่แบบสแกนนิ้วมือได้
ทำให้เทคโนโลยีดังกล่าวถูกนำมาใช้แพร่หลายมากยิ่งขึ้น มนุษย์จึงสามารถเข้าถึงข้อมูลของตัวเอง สิทธิของตัวเอง รวมไปประวัติของตัวเองในตำแหน่งหน้าที่การงาน รวมไปถึงข้อมูลอาชีพของตนเองว่าปัจจุบันนั้นทำอะไรอยู่ได้อีกด้วย
ทำให้เจ้าเทคโนโลยีตัวนี้สามารถป้องกันความสับสนได้ว่า ใครเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะสถานการณ์การเมืองไทย ณ ขณะนี้กำลังเกิดสภาวะความสับสนว่าประเทศนี้มีนายกรัฐมนตรีกี่คน จากเหตุการณ์ที่อดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ เดินทางไปเชียงใหม่ ในวันใกล้เคียงกันกับวันที่ นายกรัฐมนตรี เศรษฐา เดินทางไปประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจร ที่เชียงใหม่และภาคเหนือเช่นเดียวกัน
ขณะที่ภาพ ทักษิณ โดดเด่นท่ามกลางผู้คนที่ต่างไปต้อนรับ ไม่ว่าจะเป็น ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ เช่น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หรือนักการเมือง เช่น ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หรือจะเป็นการพบเจอกันกับ นายกรัฐมนตรีเศรษฐา และอดีตรองนายกรัฐมนตรี สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ที่เป็นน้องเขยของตนเอง และห้อมล้อมไปด้วยชาวเชียงใหม่ที่ให้กำลังใจทุกสถานที่ที่อดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ปิ๊กบ้าน
ภาพลักษณ์ของเขาเหมือนดวงจันทร์ที่ส่องหล้าออกไป ท่ามกลางหมู่หิ่งห้อยทางการเมืองที่กำลังเล่นไปกับรัศมีของเขา ณ เชียงใหม่
ทำให้ภาพลักษณ์ของนายกรัฐมนตรีตัวจริงที่เชียงใหม่หมองไปทันที
จึงต้องนำเจ้าเครื่อง Biometric เอไอเข้ามาช่วยป้องกันความสับสนว่าใครเป็นนายกรัฐมนตรีที่แท้ทรูกันแน่
ที่มา
Aigencorp. / DIA / NationStory / กรุงเทพธุรกิจ /
ข่าวที่เกี่ยวข้อง