ดาวไร้แสง - ค้นหาความหมายที่แท้จริง ดาวที่ไม่มีแสงสว่างในตัวเอง
เปิดความหมาย และ ที่มา คำว่า ดาวไร้แสง หรือ ดาวเคราะห์ ซึ่งมักจะถูกนำมาเปรียบเทียบ เปรียบเปรย อะไรบางอย่างที่ ถูกกลบ ถูกปิดบังรัศมี ถูกปิดความโดดเด่น ถูกปิดบังไว้ ในสังคมไทย ที่จริงแล้ว คำๆนี้ มาจากอะไร
SHORT CUT
- สังคมไทย ชอบเปรียบเทียบ บุคคลที่อยู่ในตำแหน่งสำคัญ แต่ถูก "คนอื่น" หรือ "สิ่งอื่น" บดบังรัศมีความโดดเด่น ว่าเป็น ดาวไร้แสง
- ที่จริงแล้ว ความหมายของ ดาวไร้แสง ก็คือ ดาวเคราะห์ ดาวที่ไม่มีแสงสว่างในตัวเอง
- ดาวไร้แสง เราที่อยู่บนโลกจะมองไม่เห็นแบบตรงๆ แต่ต้องอาศัยแสง จากดาวฤกษ์ มากระทบดาวเคราะห์ก่อน แล้วสะท้อนเข้าสู่ตาเรา เราจึงมองเห็นได้
เปิดความหมาย และ ที่มา คำว่า ดาวไร้แสง หรือ ดาวเคราะห์ ซึ่งมักจะถูกนำมาเปรียบเทียบ เปรียบเปรย อะไรบางอย่างที่ ถูกกลบ ถูกปิดบังรัศมี ถูกปิดความโดดเด่น ถูกปิดบังไว้ ในสังคมไทย ที่จริงแล้ว คำๆนี้ มาจากอะไร
คำว่า ดาวไร้แสง มักจะถูกนำมาใช้ในบริบทสังคม เพื่อการเปรียบเทียบ อะไรบางอย่างที่ ถูกกลบ ถูกปิดบัง ความโดดเด่น ถูกปิดบังไว้
แต่ความหมายที่แท้จริงของ คำว่า "ดาวไร้แสง" มันคืออะไรกันแน่ แน่นอนว่าในช่วงที่ผ่านมา เรากำลังพูดถึง "นัยยะแฝง" ของมัน แล้วหากไปมองลึกจริงๆแล้ว ดาวไร้แสง มันคืออะไร ? และเพราะอะไร สังคมไทยจึงชอบเปรียบเทียบด้วยคำคำนี้
หาความหมายของดาวไร้แสง
ในช่วงเวลาที่ท้องฟ้ามืดมิด ซึ่งเป็นช่วงเวลา "ข้างแรม" เราที่อาศัยอยู่บนโลก มักจะมีโอกาสได้เห็น ดวงดาว ชัดเจนมากกว่าช่วงเวลา "ข้างขึ้น" แล้วยิ่งถ้าหากมีปัจจัยบวกเมื่อเวลาที่ท้องฟ้านั้นมืดมิด ไร้ซึ่งแสงไฟจากในเมือง และและไร้แสงจันทร์ที่ส่องสว่างมารบกวน เมื่อนั้นแสงดาวและวัตถุต่าง ๆ บนท้องฟ้าก็จะยิ่งส่องสว่างให้เห็นเด่นชัดขึ้นตามมาด้วย
.
ว่ากันด้วยเรื่องหลักฐาน ตัวเลขวิทยาศาสตร์ ค่าความสว่างต่ำสุดที่ตามนุษย์จะสามารถมองเห็นได้นั้นคือ 6.5 แมกนิจูด หรือคือโชติมาตร (ความส่องสว่าง) ปรากฏนั่นเอง (ยิ่งค่าแมกนิจูด Magnitude น้อยยิ่งสว่าง) และเมื่อคำนวณจากค่าดังกล่าว เราจะมีโอกาสเห็นดวงดาวบนท้องฟ้าได้มากสุดอยู่ที่ 9,096 ดวงด้วยตาเปล่า ในค่ำคืนที่มืดที่สุดนี้
ก่อนที่เราจะมาทำความรู้จัก ดาวไร้แสง นั้น , เราต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนว่า ดาวที่เห็นบนท้องฟ้า มีกี่ประเภท ? โดยในเชิงดาราศาสาตร์นั้น เราสามารถแบ่งดาวเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ
ดาวฤกษ์ (Star) : ดาวที่มีแสงสว่างในตัวเอง
ดาวเคราะห์ (Planets) : ดาวไม่มีแสงสว่างในตัวเอง หรือจะเรียกว่า ดาวไร้แสง ก็ได้
กฎเกณฑ์ที่ใช้ตัดสินว่า ดาวที่เห็นบนท้องฟ้าเป็นดาวฤกษ์หรือดาวเคราะห์
- ลักษณะการส่องแสงของดาว ถ้าแสงนวลนิ่งเป็นดาวเคราะห์ , ถ้ากะพริบแสงเห็นดาวฤกษ์ , โดยดาวฤกษ์นั้น มีมวลสารขนาดใหญ่ มีความหนาแน่นสูง ถูกบีบอัดและเกิดความร้อนสูง จนเกิดปฏิกิริยา "นิวเคลียร์ฟิวชั่น" ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบของดาวฤกษ์อย่างช้าๆ พร้อมปล่อยพลังงานสูงออกมาในรูปแบบรังสีแกมมา และเปลี่ยนไปสู่ช่วงแสงขาว หรือ คลื่นแสงที่ตามมองเห็นได้
- ดาวเคราะห์ หรือดาวไร้แสง สำหรับเราที่อยู่บนโลกจะมองไม่เห็นแบบตรงๆ แต่ต้องอาศัยแสง จากดาวฤกษ์ มากระทบดาวเคราะห์ก่อน แล้วสะท้อนเข้าสู่ตาเรา เราจึงมองเห็นได้ นั่นเอง
- การเคลื่อนที่ของดาว เปรียบเทียบกับดาวส่วนใหญ่บนท้องฟ้า ถ้าไม่เคลื่อนที่ เกาะกลุ่มกับดาวอื่น ในตำแหน่งเดิมเป็นดาวฤกษ์ ถ้าเคลื่อนที่ไม่เกาะกลุ่มกับดาวอื่นในตำแหน่งเดิมเป็นดาวเคราะห์ หรือ ดาวไร้แสง
โดยนิยามที่แท้จริงของดาวเคราะห์ หรือ "ดาวไร้แสง" นั่นคือ การเคลื่อนที่ คำว่า 'ดาวเคราะห์' หรือ 'Planet' มีรากศัพท์มาจากภาษาคำว่า 'Wander' ในภาษาละตินซึ่งแปลว่า ผู้สัญจร หรือ นักเดินทาง
โดยในยุคโบราณนั้น เชื่อว่า โลก คือศูนย์กลางจักรวาล แต่ทุกวันนี้ ความรู้มีมากขึ้น และ ทำให้ องค์ความรู้ต่างๆเปลี่ยน ในช่วง ศตวรรษที่ 16 โคเปอร์นิคัสและกาลิเลโอค้นพบ หลักฐานที่ยืนยันว่า ดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลางของระบบสุริยะ มีโลกและดาวเคราะห์บริวารโคจรล้อมรอบ
ไม่ว่าจะเป็น ดาวฤกษ์ หรือ ดาวไร้แสง...แต่ทุกๆอย่างในจักรวาลนี้ ย่อมมีคุณค่า มีความหมายในตัวของมันเองเสมอๆ ขอแค่อยู่ใน ถูกต้องและเหมาะสม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
