SHORT CUT
สัปดาห์นี้ถือเป็นสัปดาห์ที่น่าหนักใจสำหรับ 7 บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ระดับโลก อันประกอบไปด้วย Microsoft, Amazon, Apple, Nvidia, Alphabet, Meta และ Tesla
สัปดาห์นี้ถือเปนสัปดาห์ที่น่าหนักใจสำหรับ 7 บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ระดับโลก อันประกอบไปด้วย Microsoft, Amazon, Apple, Nvidia, Alphabet, Meta และ Tesla เนื่องจากหุ้นพวกเขาร่วงลงมาถึง 11.8 เปอร์เซ็นต์จากช่วงพีคเมื่อเดือนก่อน สาเหตุหลักๆก็มาจากการที่เหล่านักลงทุนตั้งข้อสังเกตเรื่องการพัฒนาของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ
เมื่อเช้าวันศุกร์ที่ 2 สิงหาคมที่ผ่านมา หุ้นบริษัททั้ง 7 แห่งที่ว่ามาร่วงกันถ้วนหน้า หลังมีผลประกอบการรายไตรมาสที่แตกต่างกันออกไป โดยไมโครซอฟท์เปิดเผยว่า ฝ่ายพัฒนาเอไอของพวกเขามีการเติบโตต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ ส่วนแอมะซอน อีกหนึ่งบริษัทก็รายงานว่าผิดหวังในการเติบโต
แต่ในส่วนหุ้นของ Meta ก็ปรับตัวขึ้นมาเมื่อวันพฤหัสบดี เพราะมีการเติบโตของรายได้ ทั้งจากโฆษณาของ Facebook และ Instagram
เมื่อปีที่แล้ว ทั้ง 7 บริษัท แทบจะครองดัชนี S&P 500 ไปแล้วราวครึ่งหนึ่ง เนื่องจากการบูมของเอไอ แต่ความสงสัยเริ่มก่อตัว หลังนักลงทุนเริ่มหันไปให้ความสนใจในการลงทุนส่วนอื่นๆแทน อีกทั้งตัวเลขทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯตั้งแต่เดือนที่แล้วก็เริ่มย่ำแย่ลง
บรรดานักลงทุนเริ่มสงสัยว่า การทุ่มงบพัฒนาเอไอของไมโครซอฟท์ กูเกิ้ล และบริษัทอื่นๆ จะมอบผลตอบแทนกลับคืนมาอย่างไร โดยนักวิเคราะห์ของ Goldman Sachs ตั้งคำถามว่า เอไอใช้งบประมาณเยอะเกินไป แต่ผลตอบแทนน้อยมาก ขณะที่ธนาคารวอลล์สตรีทก็ตั้งคำถามว่า
การลงทุนมากถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯกับเอไอในช่วงอีก 2-3 ปีข้างหน้า จะมอบผลตอบแทนที่คุ้มค่าหรือไม่ ส่วนนักวิเคราะห์ของ Sequoia Capital ซึ่งเป็นนักลงทุนรายแรกๆที่เข้าไปลงทุนกับ OpenAI คาดการณ์ว่า บริษัทเทคโนโลยีจะต้องได้รับเงินคืนมาจากการลงทุนเอไอราว 600,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯถึงจะคุ้มค่า
ความวิตกกังวลเหล่านี้เป็นสาเหตุหลักๆที่ทำให้หุ้นของบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ทั้ง 7 แห่งได้รับผลกระทบ นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่นๆอีก ทั้งธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด ที่อาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเร็วที่สุดของเดือนหน้า
ที่มา : theguardian
ข่าวที่เกี่ยวข้อง