svasdssvasds

รู้จักเที่ยวแบบ Sustainable Travel เทรนด์เที่ยวแบบใหม่ ก่อนได้เที่ยวจริง

รู้จักเที่ยวแบบ  Sustainable Travel เทรนด์เที่ยวแบบใหม่ ก่อนได้เที่ยวจริง

ความฝันที่จะได้เดินทางท่องเที่ยวที่ไม่ใช่แค่เที่ยวทิพย์ เพราะการเปิดประเทศใกล้เข้ามาแล้ว หลายคนคงอยากท่องเที่ยวในสไตล์ของตัวเอง ไม่ว่าจะทั้งในหรือต่างประเทศ แต่สิ่งที่เราได้เรียนรู้จากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 จนเกิดเป็นการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน

Sustainability Travel

ด้วยข้อจำกัดด้านเดินทางท่องเที่ยวที่เกิดจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อเราในหลายๆ ด้าน รวมถึงส่งผลให้เรารู้สึกคันไม้คันมืออยากกลับออกไปสำรวจโลกอีกครั้ง ซึ่งการหยุดเดินทางท่องเที่ยวครั้งนี้ ทำให้เราได้กลับไปนั่งคิดไตร่ตรองถึงผลกระทบจากการเดินของเราต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนท้องถิ่น โดยเฉพาะเมื่อเราต้องกลับไปท่องเที่ยวอีกครั้ง มีรายงานด้านการท่องเที่ยวแบบยั่งยืนประจำปี 2564 ของ Booking.com พบว่านักเดินทางชาวไทยราว 2 ใน 3 หรือคิดเป็น 66% ยอมรับว่าผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโคโรนาไวรัส  กระตุ้นให้อยากสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกต่างในชีวิตประจำวัน และ 78% ของผู้ตอบแบบสอบถามชาวไทย เผยว่าผลกระทบครั้งนี้ได้กระตุ้นให้พวกเขาเลือกเดินทางอย่างยั่งยืนมากขึ้นในอนาคต

หลายคนยังไม่รู้ว่าที่พักหรือโรงแรมในปัจจุบันได้ปรับตัว หันมาให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เพื่อให้เข้ากับเทรนด์การท่องเที่ยวของคนยุคใหม่ Sustainability Travel การท่องเที่ยวแบบยั่งยืน ที่ได้ทั้งความผ่อนคลายและไม่ทำลายธรรมชาติ  ซึ่งการท่องเที่ยวแบบยั่งยืนนี้เขาเที่ยวและปฏิบัติกันอย่างไรมาดูกัน

เนื้อหาที่น่าสนใจ :

Sustainability Travel

Say no to plastic! ใช้พลาสติกให้น้อยที่สุด

เนื่องจากพลาสติกประมาณ 91% ไม่สามารถนำไปรีไซเคิล ทำให้ขยะพลาสติกส่วนใหญ่ถูกกำจัดโดยการปล่อยทิ้งในมหาสมุทรหรือในหลุมฝังกลบ การจำกัดการใช้อุปกรณ์พลาสติกแบบครั้งเดียวทิ้ง เป็นหนึ่งในความท้าทายสำคัญของการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน แม้ว่าในปัจจุบันที่พักหลายแห่งได้ลดการใช้ หรือกำจัดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง แต่เราก็สามารถเป็นอีกหนึ่งแรงที่จะช่วยลดการใช้พลาสติกได้ ด้วยขั้นตอนง่ายๆ เช่น ระหว่างเดินทางใช้ขวดน้ำสแตนเลสแทนพลาสติก หรือใช้ขวดแบ่งแบบใช้ซ้ำได้เพื่อบรรจุครีมอาบน้ำตัวโปรดที่ใช้ที่บ้าน เอามาใช้ในที่พักด้วยเพื่อลดการสร้างขยะ ฯลฯ

นำกิจวัตรที่ดีตอนอยู่บ้าน มาใช้กับตอนเที่ยวด้วย

คนส่วนใหญ่มักเอาใจใส่สิ่งแวดล้อมเมื่อตอนที่อยู่บ้าน แต่เกือบครึ่ง หรือ 48% ของนักเดินทางทั่วโลก คิดว่าการลงมือปฏิบัติเพื่อความยั่งยืนในระหว่างการเดินทางท่องเที่ยวนั้น ทำได้ยากกว่าตอนอยู่ที่บ้าน ซึ่งก้าวแรกที่สำคัญก่อนการท่องเที่ยวแบบ Sustainability  อาจเริ่มด้วยเรื่องง่ายๆ อย่าง การนำกิจวัตรประจำวันที่เอาใจใส่ต่อสิ่งแวดล้อมที่ทำเป็นประจำตอนอยู่บ้าน มาปรับใช้ระหว่างการเดินทางท่องเที่ยว เช่น ตรวจสอบให้แน่ใจว่าปิดเครื่องปรับอากาศ เครื่องทำความร้อน และเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ เมื่อออกจากที่พักหรือโรงแรม รวมถึงการใช้ผ้าเช็ดตัวซ้ำ และหลีกเลี่ยงการเปลี่ยนผ้าปูที่นอนใหม่ในทุกวันของการเข้าพัก ซึ่งเรื่องธรรมดาๆ แบบนี้ก็สามารถช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมล้อมได้

มองหาที่พักรักษ์โลก หรือที่พักที่มีใบรับรองมาตรฐานด้านความยั่งยืน

ที่พักและโรงแรมในปัจจุบันนอกจากจะมีใบรับรองมาตรฐานด้านการบริการต่างๆ แล้ว ยังมีใบรับรองมาตรฐานด้านความยั่งยืนด้วย ซึ่งวิธีที่ง่ายที่สุดในการค้นหาเพื่อจองที่พักรักษ์โลก หรือที่พักที่สนับสนุนการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน คือการตรวจสอบว่าที่พักเหล่านั้นมีใบรับรอง หรือประกาศนียบัตรที่รับรองมาตรฐานด้านความยั่งยืน ที่ถูกรับรองโดยองค์กรเพื่อความยั่งยืนในระดับสากลหรือไม่  และปัจจุบันได้มีประกาศนียบัตรที่รับรองมาตรฐานด้านความยั่งยืนกว่า 30 รายการ ที่ถูกรับรองโดยองค์กรเพื่อความยั่งยืนในระดับสากลทั้ง Global Sustainable Tourism Council (GSTC), Green Tourism และ EU Ecolabel รวมทั้งโครงการเพื่อความยั่งยืนของเครือโรงแรมต่างๆ  ยิ่งไปกว่านั้นบนแพลตฟอร์มการจองที่พัก ยังสามารถตรวจสอบรายละเอียดหรือแยวปฏิบัติด้าน Sustainability ของที่พัก เช่น ที่พักนั้นเลือกใช้พลังงานหมุนเวียนแบบ 100%, ติดตั้งฝักบัวแบบประหยัดน้ำ, หลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์พลาสติกประเภทใช้ครั้งเดียว หรือใช้อุปกรณ์ที่มาจากวัสดุรีไซเคิล ฯลฯ

Cr. Booking.com