หลายอาจจะเคยประสบพบเจอกับคำทักทายหรือคำพูดจากคนใกล้ตัว คนรอบข้าง ที่อาจจะไปกระทบใจเราในเรื่องรูปร่าง สีผิว หรืออะไรที่เกี่ยวกับรูปลักษณ์ของเรา เช่น ไปทำอะไรมาทำไมอ้วนจัง? หรือไม่ก็ ช่วงนี้ตากแดดเยอะเหรอดูคล้ำๆ นะ และยิ่งในโลกออนไลน์ที่ใครต่างนิยมความเพอร์เฟ็กต์ การวิจารณ์คอมเม้นต์ต่างๆ นาๆ ก็อาจจะเกิดขึ้นได้ หรือ Comment ทำให้เสียๆ หายๆ ทั้งๆ ที่ไม่รู้จักกันเลย อย่างที่เราพบเห็นข่าวดาราคนดังถูกวิจารณ์ว่ารูปร่างอ้วนขึ้นไม่สวยเหมือนเดิม ทำไมหน้าอกเล็กจัง
ซึ่งการกระทำเหล่านี้เรียกว่า Body shaming คือการวิพากษ์วิจารณ์ร่างกายบุคคลอื่น โดยคำพูดหรือการกระทำในเชิงเปรียบเทียบ ล้อเลียน จนส่งผลให้อีกฝ่ายต้องรู้สึกอับอาย ไม่มั่นใจกับร่างกายตัวเอง การ Body shaming ถือว่าเป็นปัญหาหนึ่งทางการใช้ชีวิตในสังคม ที่ได้มีการรณรงค์ให้หยุดล้อเลียนวิพากษ์วิจารณ์อันส่งผลกระทบต่อจิตใจ
เริ่มที่จิตใจเราก่อน เพราะเป็นการยากที่เราจะบอกให้คนอื่นหยุดการล้อเลียนและวิพากษ์วิจารณ์ ซึ่งเป็นเรื่องที่เราไม่สามารถควบคุมได้ จะดีกว่ามั้ยถ้าเรารับจิตใจของเราให้พร้อมรับกับคำวิจารณ์ และเรียนรู้จุดเด่น หรือจุดด้อยของร่างกายตัวเอง เรียนรู้และเข้าใจตัวเองดูแลรักษาร่างกาย และจิตใจของเราให้เข้มแข็ง บุคลิกภาพ และการแต่งกายจะช่วยให้เราดูดีและมีความมั่นใจมากขึ้น โดยสามารถดูแลตัวเองได้ง่ายๆ ดังนี้
-หมั่นออกกำลังกาย จากผลการศึกษาวิจัยมหาวิทยาลัยเยล และออกซ์ฟอร์ด ซึ่งได้เคยถูกตีพิมพ์ลงวารสาร The Lancet แนะนำว่า การออกกำลังกายเพียง 3-5 ครั้งต่อสัปดาห์ ครั้งละประมาณ 30-60 นาทีก็เพียงพอแล้ว นอกจากการได้รูปร่างที่ได้สัดส่วน ยังทำให้สุขภาพร่างกายและจิตใจที่แข็งแรงไปพร้อมกันอีกด้วย
-การเลือกรับประทานอาหารอย่างถูกหลักโภชนาการเป็นสิ่งสำคัญ เราไม่จำเป็นต้องทนหิว อดอาหาร เพื่อให้ผอมก็ได้ หากเราเลือกทานดี และออกกำลังกายควบคู่ ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้จะยั่งยืนกว่า
-การดื่มน้ำ และการนอนอย่างเพียงพอ รู้หรือไม่ว่าการดื่มน้ำไม่เพียงพอ นอกจากจะทำให้เกิดปัญหาผิวและเส้นผมแห้ง ไม่ชุ่มชื้นแล้ว ยังสามารถส่งผลกระทบที่รุนแรงไปถึงปัญหาสุขภาพและโรคอีกมากมาย นอกจากนั้นการนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอวันละ 6-8 ชั่วโมงนับเป็นเรื่องสำคัญเช่นเดียวกัน
-การเลือกเสื้อผ้าและชุดชั้นให้เหมาะสมกับสรีระของตัวเอง เทคนิคการเลือกเสื้อผ้าก็ช่วยส่งเสริมให้รูปร่างดูดี เช่น ลายทางแนวนอน แนวตั้ง ลายดอกไม้ สีเข้ม สีอ่อน ล้วนช่วยในการพรางตาให้เราดูสมส่วน อาจจะเพิ่มความมั่นใจเข้าไปอีกหน่อย กรณีที่เราตัวเล็กอยากให้ดูตัวสูง ควรเลือกเสื้อผ้าลายทางแนวตั้ง เสื้อผ้าโทนสีเข้มก็ช่วยให้รูปร่างเราดูเพรียวขึ้น
ส่วนสาวๆ ที่ไม่มีความมั่นเรื่องหน้าอก การเลือกชุดชั้นในมีความสำคัญมาก เป็นเทคนิคการเพิ่มความมั่นใจให้เราได้อีกทางหนึ่ง เช่น สาวที่ค่อนข้างมีเนื้อควรเลือกชุดชั้นในบางแบบที่มีทรงเก็บเนื้อส่วนเกิน หรือสาวอกเล็กควรเลือกชุดชั้นในที่ช่วยยกกระชับหน้าอก SYP Intimate แบรนด์ชุดชั้นในน้องใหม่ของไทย ตัดเย็บและดีไซน์โดยคนไทย เค้ามีเคล็ดลับการเลือกชุดชั้นให้เหมาะกับรูปร่างแต่ละแบบมาฝาก
1. Slender อกเล็ก
คนที่มีอกทรงสเลนเดอร์ คือ เนื้อบาง อกเล็ก เนื้อหน้าอกไม่เต็ม หน้าอกห่าง เสื้อในที่เหมาะสำหรับสาวๆ หน้าอกทรงนี้ก็คือ ทรงลึกๆ ที่มีโครงหรือบราเลทก็ได้ โดยแบบมีโครง จะช่วยโกยเนื้อด้านข้างมาเสริมให้เนื้อหน้าอกมาอยู่บริเวณเซ็นเตอร์ ช่วยทำให้ทรงสาวๆ สวย ดูมีเนิน และมีทรงมากขึ้น
2. Side set อกห่าง
ผู้หญิงที่มีเนื้อที่บริเวณเนินอกแต่มีช่องว่างระหว่างอก ควรเลือกใส่เสื้อในหรือบราตะขอหน้า จะช่วยดันให้อกมาชิดกันได้ดี จะเลือกใช้แบบมีโครงหรือไม่มีก็ได้ หรือเลือกใช้เสื้อในตะขอหลังที่ไม่มีช่องว่างระหว่างโครงมากนัก ทรงหน้าอกของคุณก็ยังจะสวยเป๊ะอยู่
3. Athletic หน้าอกแบนและกว้าง
หน้าอกแบนและกว้าง ไม่มีเนื้อเนินอก การเลือกเสื้อในที่เหมาะสมกับหน้าอกทรงนี้ คือ เสื้อในที่ไม่มีโครง หรือที่เรียกกันว่าบราเลท (Bralette) หรือจะใช้เสื้อชั้นในโครงกว้าง ฐานโค้งต่ำ ก็จะช่วยให้สวมใส่สบาย ไม่บีบกด แถมยังช่วยในการซัพพอร์ตหน้าอกอีกด้วย
4. Round อกกลม
อกทรงกลมที่ใครๆ ก็ฝันอยากมี ใครมีหน้าอกแบบนี้ สามารถใส่เสื้อในแบบไหนก็ได้ จะมีโครงหรือไม่มีโครงก็ได้ทั้งหมด โชว์เนินเนื้อสวยๆ ได้ โดยไม่ต้องพึ่งฟองน้ำอีกด้วย
5. Tear drop ทรงหยดน้ำ
หน้าอกทรงนี้จะคล้ายๆ กับหน้าอกทรงกลม แตกต่างกันเล็กน้อยตรงที่เนื้อช่วงบนจะไม่ได้เท่ากันเป๊ะ ทำให้หน้าอกทรงเหมือนรูปหยดน้ำ หน้าอกแบบนี้จะเลือกใส่เสื้อในแบบไหนก็ได้ ไม่ว่ามีโครงหรือไม่มี แต่ถ้ามีโครงก็จะยิ่งช่วยยกเนื้อให้ดูมีเนินสวยขึ้นได้
6. East West หน้าอกชี้ไปคนละทาง
ใครที่มีหน้าอกจุกชี้ไปคนละทาง แนะนำว่าการใส่เสื้อใน Push-up จะช่วยปรับทิศทางให้หน้าอกของสาวๆ
7. Relaxed หย่อนคล้อย
ถ้าหน้าอกมีลักษณะแบบนี้ คือ จุกต่ำ ทิศทางชี้ลงต่ำ แนะนำให้ใส่เสื้อในที่มีโครงทรงยู (U shape bra) เพราะทรงนี้จะช่วยยกและโอบอุ้มหน้าอก และประคองไม่ให้หย่อนคล้อยมากขึ้น
8. Bell Shape หน้าอกทรงระฆัง
หน้าอกทรงระฆัง คือลักษณะช่วงอกด้านบนจะไม่ค่อยมีเนื้อ จะมีเนื้อที่อกล่างมากกว่า ดูเหมือนทรงระฆัง การเลือกใส่เสื้อในมีโครงทรงยูต่ำและยูสูง (U shape bra) จะช่วยยกให้ดูมีเนินมากขึ้น ส่วนเสื้อในโครงกว้างหรือบราที่ลูกไม้สูงๆ ขึ้นมาถึงสายบ่า จะช่วยเสริมให้การแต่งตัวสวยขึ้นได้เหมือนกัน สาวๆ ทรงนี้ ลองหาบราลูกไม้สวยๆ นิ่มๆ มาใส่ดู นอกจากได้ทรงสวย ยังดูมีสไตล์ และทำให้สนุกกับการแต่งตัวได้มากขึ้น
9. Asymmetric หน้าอกไม่เท่ากัน
คือการที่มีทรงหน้าอกข้างหนึ่งเล็ก ข้างหนึ่งใหญ่ หรือหน้าอก 2 ข้างไม่เท่ากันแบบเห็นได้ชัด การเลือกใช้ Push-up หรือบราที่สามารถถอดฟองน้ำออกได้ จะเหมาะที่สุด เพราะสามารถถอดฟองน้ำหรือ เพิ่มเติมฟองน้ำเข้าไปอีกข้างได้ เป็นการทำให้หน้าอกทั้ง 2 ข้างดูเท่ากัน
สิ่งสำคัญกับการต่อรับมือกับคำล้อเลียน คือการดูแลจิตใจให้แข็งแรง ไม่เอาคำพูดเหล่านั้นมาลดค่าของตัวเอง