svasdssvasds

CP ALL Planting Model เฟส 2 มอบแล้วกล้าไม้ 1.2 แสนต้น​ สู่ 4 จังหวัดภาคอีสาน

CP ALL Planting Model เฟส 2 มอบแล้วกล้าไม้ 1.2 แสนต้น​ สู่ 4 จังหวัดภาคอีสาน

CP ALL เร่งดำเนินโครงการ เซเว่น “ปลูกป่า ปลูกอนาคต” ระยะ 2 ตามโมเดลครบวงจร CP all planting Model เร่งเพิ่มพื้นที่สีเขียว ควบคู่กับการเพิ่มรายได้ให้ชุมชนอย่างยั่งยืน มาวันนึ้เป็น ระยะที่ 2 กลางน้ำ นำกล้าไม้ที่ CP ให้งบสนับสนุน มอบสู่ 4 จังหวัดภาคอีสาน 120,000 ต้น

       ถ้าจำกันได้ เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา มีกิจกรรมปลูกป่า เพิ่มพื้นสีเขียว  ซีพี ออลล์ และ เซเว่น อีเลฟเว่น  มีโครงการปลูกป่า เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว เพิ่มพื้นที่ป่า ควบคู่กับ สร้างรายได้ให้กับชุมชน นั่นคือ โครงการ CP ALL Planting Model เริ่มมื่อช่วงต้นปี 2565 

       CP ALL Planting Model คือ โมเดลครบวงจร  ในการดูแลด้านสิ่งแวดล้อม ควบคู่กับการพัฒนาสังคม สร้างพื้นที่สีเขียวจากคนภายในชุมชน เพื่อชุมชนตัวเอง ตามหลัก 3 ประโยชน์  สร้างอาชีพ สร้างรายได้ สร้างองค์ความรู้รักษ์ธรรมชาติ 

แบ่งออก 3 ช่วง  “ต้นน้ำ"   กลางน้ำ”   “ปลายน้ำ”
       โดยช่วง “ ต้นน้ำ”  ได้ผ่านพ้นไปแล้ว ที่ทาง CP all ได้ให้งบประมาณสนับสนุนในเรื่องการเพาะกล้าไม้ ให้ชุมชนใน จ.สุรินทร์  เป็นรายได้เสริม ช่วงว่างเว้นจากการทำนา
รวมถึงงบประมาณในการสร้างโรงเรือน  และระบบน้ำในการดูแลรักษากล้าไม้  ที่สร้างจากคนในชุมชน เพื่อมาปลูกในชุมชนตัวเอง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

       ส่วนกิจกรรมที่เราจะพูดถึงกันวันนี้ คือ ช่วง “กลางน้ำ”
 นำกล้าไม้​ที่ได้จากแหล่งปลูก 120,000 ต้น มอบสู่วัดและชุมชน เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวใน 4 จังหวัดภาคอีสาน คือ จ.สุรินทร์ จ.บุรีรัมย์ จ.ศรีษะเกษ และ จ.สกลนคร โดยมีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์ เป็นศูนย์กระจายกล้าไม้ แก่ภาครัฐ เอกชน ประชาชน และสถานที่สำคัญทางศาสนา เพื่อไปปลูกทำประโยชน์ต่อ เช่น โครงการป่าล้อมวัด, โคก หนอง นา, สระน้ำไร่นา  

       และจากนี้ก็จะเป็นการเก็บข้อมูลติดตามการปลูกต้นไม้ วัดค่าการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เพื่อสรุปเป็นข้อมูลสำหรับโครงการในปีหน้า

       ทางผู้นำชุมชนโนนนารายณ์ หนึ่งในชุมชนที่เพาะกล้าไม้ ได้เล่าถึงความรู้สึกที่ได้เข้าร่วมโครงการนี้ว่า ทางชุมชนมีความภาคภูมิใจที่ได้ดูแลกล้าไม้ ตั้งแต่เป็นเมล็ด จนเติบโตเป็นต้นกล้าด้วยความรัก สิ่งเล็กๆจากชุมชนที่ร่วมกันทำ ในอนาคตมันจะกลายเป็นต้นไม้ที่เติบใหญ่ ซึ่งนอกจากให้ร่มเงา ยังให้ประโยชน์ต่อชุมชนของเรา และขยายไปยังชุมชนอื่นๆด้วย

จากนั้นจะเข้าสู่ ช่วง “ปลายน้ำ”
       เป็นช่วงเก็บข้อมูลในการปลูกป่าและติดตามดูแลให้ต้นไม้เติบโตเพื่อใช้งาน ตามหลักประโยชน์​ 4​ อย่าง คือ  พอกิน​ พอใช้​ พออยู่​ และพอร่มเย็น​ช่วยดูดซับก๊าซเรือนกระจกด้วย
       โดยทาง ซีพี ออลล์ ยังคงดำเนินตามนโยบาย 7 GO GREEN ที่เร่งดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม โดยมีเป้าหมายจะปลูกต้นไม้ให้ได้ 1 ล้านต้นภายในปี 2568 โดยเริ่มปลูกตั้งแต่ปี 2563 มาแล้ว กว่า 3 แสนต้น และปีนี้กว่า 120,000 ต้น โดยกล้าไม้ทุกต้นที่ CP ALL ส่งมอบสามารถติดตามการเติบโตได้ เพื่อสามารถยื่นรับรองโครงการ  สนับสนุนกิจกรรมลดก๊าซเรือนกระจก หรือโครงการ LESS ต่อไป  ด้วยปณิธาน “ร่วมสร้างสรรค์ และแบ่งปันโอกาสต่อกัน”

related