svasdssvasds

สรุปให้...ทำไม ฝีดาษวานร ถึงไม่น่ากลัว? รู้จักการปลูกฝี ปลูกเพื่ออะไร?

สรุปให้...ทำไม ฝีดาษวานร ถึงไม่น่ากลัว? รู้จักการปลูกฝี ปลูกเพื่ออะไร?

รู้จักการปลูกฝี ปลูกเพื่ออะไร? สามารถป้องกันฝีดาษวานร หรือฝีดาษลิงได้จริงไหม? พร้อมเปิดเหตุผลว่า ทำไมจึงยังไม่ใช่โรคที่ต้องกังวล จากข้อมูลโดย นพ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ เจ้าของเพจร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย

ปลูกฝี เพื่ออะไร ป้องกันโรคฝีดาษวานร ได้กี่เปอร์เซนต์
เดี๋ยวโอ๋สรุปให้ฟัง


โรคฝีดาษลิง ระบาดแล้วใน สิบกว่าประเทศทั่วโลก
ติดจากสัตว์สู่คน หรือ คนสู่คนได้ ผ่านเลือดหรือสารคัดหลั่ง ตุ่มหนองของผู้ติดเชื้อ ยังไม่มีวัคซีนป้องกัน แต่มีปลูกฝีป้องกันโรคฝีดาษ
และป้องกันฝีดาษลิงได้ 85%

ในไทย โรคฝีดาษวัว ปรากฏในพงศาวดาร กรุงศรีอยุธยา
WHO ให้ ฝีดาษหมดไปในปี พ.ศ 2523
คนไทยหลังจากปี 2523
จะไม่ได้รับการปลูกฝี ป้องกัน ฝีดาษ 

ล่าสุด ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
กำลังถอดรหัสพันธุกรรม เพื่อดูว่าเป็นไวรัสสายพันธุ์เหมือนในอดีต ไหม
ปัจจุบัน อัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ 1 - 10 %
มี 2 สายพันธุ์

ปลูกฝี ป้องกันโรคอะไรบ้าง

เพื่อกระตุ้นภูมิ  ลดความเสี่ยง ติดเชื้อวัณโรคชนิดลุกลาม
ตำแหน่ง ไหล่ซ้าย


สรุป เราต้องปลูกฝี ป้องกัน โรคฝีดาษวานร ไหม?

นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผอ.กองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ชี้แจงว่า ตอนนี้ยังไม่ต้องปลูกฝี ป้องกันฝีดาษใหม่ เพราะทั่วโลกไม่มีวัคซีนเฉพาะ ส่วนประเทศไทยไม่มีวัคซีน กำลังประสานงานหา
มีแค่ 2 ประเทศที่เก็บเชื้อไว้ คือ สหรัฐอเมริกาและรัสเซีย

เบาใจโรคฝีดาษลิง เพราะ?
นพ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ ระบุว่า
ติดต่อได้ไม่ง่าย สัมผัสโดยตรงต่อสัตว์ เนื้อดิบ หรือสัมผัสผู้ติดเชื้อ
ไม่ยืนยันว่าติดผ่านทางอากาศได้
อัตราเสียชีวิตจาก ฝีดาษลิง 1-10 %
ฝีดาษคน 30 %
การตรวจพบผู้ติดเชื้อชัดเจน คือ จะมีตุ่มน้ำใสที่ผิวหนัง 
 

วิธีป้องกันโรคฝีดาษลิง

      หลีกเลี่ยงการสัมผัสโดยตรงกับเลือด สารคัดหลั่ง หรือตุ่มหนองของสัตว์
หลีกเลี่ยงการกินเนื้อสัตว์ที่ปรุงสุกไม่เพียงพอ หมั่นล้างมือบ่อยๆ ไม่นำสัตว์ป่ามาเลี้ยงหรือนำเข้าสัตว์ โดยไม่มีการ คัดกรองโรค

     กรณีมีการเดินทางกลับจากประเทศที่เป็นเขตติดโรค ต้องทำการคัดกรองและเฝ้าระวังอาการจนครบ 21 วัน หากมีอาการเจ็บป่วยให้รีบไปพบแพทย์ทันที

related