ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ขอบคุณที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แสดงความเป็นห่วงกรณีอาจเกิดคลัสเตอร์จากกิจกรรมไพรด์ที่จัดขึ้นเมื่อวานนี้ ชี้ สถานการณ์โควิด-19 ใน กทม. ผ่อนคลายลงเยอะ และมีมาตรการจัดการ แต่เฝ้าระวังตลอด
รศ.ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวภายหลังการประชุมร่วมกับผู้บริหาร กทม. นัดแรก โดยมี รองผู้ว่าฯ กทม. ทั้ง นายวิศณุ ทรัพย์สมพล , นายจักกพันธุ์ ผิวงาม , ผศ.ดร.ทวิดา กมลเวชช และนายศานนท์ หวังสร้างบุญ เข้าร่วมประชุมครบทุกคน รวมถึงที่ปรึกษาผู้ว่า กทม. และ เลขานุการผู้ว่า กทม. เข้าร่วมประชุม ซึ่งใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมง ว่า
ถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แสดงความห่วงใย เรื่องการจัดกิจกรรมของ กทม. ช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา อาจเกิดคลัสเตอร์ได้นั้น นายชัชชาติ กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่แสดงความเป็นห่วง คงต้องติดตามสถานการณ์และต้องเก็บข้อมูลต่อเนื่อง โดยกำชับให้ดูข้อมูลและได้มอบหมายให้ น.ส.ทวิดา รองผู้ว่าฯ กทม. ที่ดูแลเรื่องสาธารณสุข ดูตัวเลขว่าจะเพิ่มขึ้นหรือไม่
โดยตนเองมองว่า เป็นก้าวที่ค่อย ๆ เข้าสู่ชีวิตปกติ และทุกคนที่มาล้วนใส่หน้ากาก พร้อมมีมาตรการป้องกัน คงต้องคอยดูตัวเลขว่ามีผลกระทบอย่างไร เพราะที่ผ่านมา ไม่ได้เห็นคลัสเตอร์อะไรมาก แต่ก็คอยมอนิเตอร์อย่างเข้มข้น และพร้อมรับข้อเป็นห่วงของทุกฝ่ายเพื่อนำมาติดตามสถานการณ์ เพื่อเป็นการกลับไปสู่ชีวิตก่อนเกิดโควิด-19 ระบาด จึงหารือประเด็นการถอดหน้ากากอนามัย
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง :
เบื้องต้น จะนำเข้าที่ประชุมในชุด ศบค.กรุงเทพ อีกครั้ง แต่ใจคิดว่า ใกล้ถึงเวลาแล้ว เพราะตัวเลขของผู้ป่วยลดลงเยอะ อัตราว่างของเตียงมีจำนวนมาก ไม่ได้น่าเป็นห่วงอะไร ถือว่าสถานการณ์ถือว่าผ่อนคลายลงเยอะ จะนำข้อมูลเหล่านี้ไปหารือกับกระทรวงสาธารณสุขอีกครั้ง
คงเสนอให้ถอดหน้ากากอนามัยในที่โล่งแจ้งได้หรือยัง โดยเจ้าหน้าที่สำนักการแพทย์ ระบุว่า ในมุมมองของทางการแพทย์ ทางกระทรวงสาธารณสุข อยู่ระหว่างวางแผนอยู่แล้ว ว่าจะถอดหน้ากากอนามัยในที่โล่งแจ้ง และที่สาธารณแบบไหน และถ้าถอดแล้วต้องมองภาพ เว้นระยะห่างด้วย ซึ่งต้องดูตัวเลขความรุนแรงของการป่วย ปัจจุบันตัวเลขผู้ป่วยโควิด-19 ของ กทม. อยู่ที่ 1400-1500 คน/วัน ถ้าหาก ในพื้นที่ กทม. ติดเชื้อรายวันต่ำกว่าน้อยกว่า 500 คน ก็พอจะต่อรองกับกระทรวงสาธารณสุข ให้เสนอ ศบค. ให้ถอดหน้ากากได้หรือไม่
ทั้งนี้ นายชัชชาติ ยังสอบถามถึงการการแพร่ระบาดโรคฝีดาษลิง การติดต่อ และการป้องกัน เพื่อจะนำข้อมูลมาทำความเข้าใจประชาชน โดยเฉพาะกรณีที่มีการจัดงานไพรด์เมื่อวานนี้ ซึ่งที่ประชุมชี้แจงว่า ในขณะจัดงานสิ่งที่เป็นห่วงคือการแพร่ระบาดโควิด-19 มากกว่า ส่วนโรคติดต่อฝีดาษลิง คือ หลังจากจัดงานแล้วมีการไปปาร์ตี้กันต่อ
แต่โดยรวมแล้วประเทศไทยยังไม่มีตัวเลขการติดเชื้อ และวานนี้ที่ผู้คนมาร่วมกันเยอะ แต่วันนี้ยังไม่มีตัวเลขรายงานในประเทศไทย และการติดต่อเป็นคนละรูปแบบกับโควิด-19 ดังนั้นจึงให้ดำเนินมาตรการอย่างเข้มข้นต่อไป เพราะยังเป็นข้อกังวล
สุดท้ายนี้ นายชัชชาติ ยังถามถึงประเด็นตรวจ ATK ฟรี ให้กับประชาชนและการมี ATk พลาสปอร์ตในที่ประชุมด้วย พร้อมสั่งการในที่ประชุมด้วยว่า บทเรียนของโควิด-19 ถือเป็นบทเรียนสำคัญ และจากการลงพื้นที่ของตนมากกว่า 2 ปี พบว่า ปัญหาการประสานงานสำคัญ จึงอยากให้นำบทเรียนจากโควิด-19 มาปรับโครงสร้างระบบสาธารณสุขใหม่ ว่าควรมีศูนย์ประสานงานหรือไม่อย่างไรด้วย