สรุปให้.. ธนาคารแห่งประเทศไทย เบรก ใช้คริปโต ชำระสินค้าและบริการเพราะอะไร?
ธนาคารแห่งประเทศไทย เตรียมออกเกณฑ์ ไม่สนับสนุนใช้ คริปโทเคอร์เรนซี หรือ สินทรัพย์ดิจิทัล ชำระสินค้าและบริการในไทย ด้วย 6 ข้อห้าม และ 4 ข้อกังวล เหตุผลเพราะอะไร เดี๋ยวสรุปให้ฟัง
ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ แบงก์ชาติ
ออกหลักเกณฑ์ ห้ามนำสินทรัพย์ดิจิทัล หรือ คริปโทเคอเรนซี
มาใช้ชำระค่าสินค้าและบริการ
โดยให้เหตุผลว่าเพื่อป้องกันไม่ให้กระทบ ต่อเสถียรภาพทางการเงิน
และ ระบบเศรษฐกิจของประเทศ
ถ้าเราใช้คริปโทในชีวิตประจำวันมากไป
จะกระทบต่อ ความเชื่อมั่น “เงินบาท”
นโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทยก็จะยิ่งมีผลลดลง
จะกระทบต่อทั้งคนที่ใช้ และไม่ได้ใช้ สินทรัพย์ดิจิทัล
รวมทั้งกระทบสภาพคล่อง
ปกติหากเงินบาทลดลง แบงก์ชาติก็ยังสามารถอัดฉีดได้
แต่สินทรัพย์ดิจิทัล เหมือนเราใช้เงินตราต่างประเทศ กระตุ้นเศรษฐกิจไม่ได้
แบงก์ชาติ คลัง และ ตลาดหลักทรัพย์
มองว่า คริปโท ยังมีความเสี่ยง จาก
- ราคาผันผวนมาก ธุรกิจที่รับชำระด้วยคริปโต
อาจจะมีปัญหาเรื่องมูลค่าที่ลดลง แทบจะหายไปเลย
- มีความเสี่ยงจากการถูกโจรกรรม ยังไม่มีหน่วยงานกำกับดูแล
- เสี่ยงข้อมูลส่วนบุคคลจะรั่วไหล
- ฟอกเงินและผิดกฎหมาย เพราะกระเป๋าเงินดิจิทัลส่วนใหญ่ไม่ต้องพิสูจน์ยืนยันตัวตน
ด้วยความเสี่ยงเหล่านี้ จึงมีการร่างหลักเกณฑ์
ห้ามไม่ให้นำคริปโท มาใช้จ่ายซื้อสินค้าหรือบริการ 6 ข้อ
1.ห้ามโฆษณาเชิญชวน ว่า พร้อมให้บริการแก่ร้านค้า เหมือนสนับสนุน ให้รับชำระค่าบริการด้วยเงิน สกุลดิจิทัล
2 คือ ไม่จัดทำระบบ อำนวยแก่ร้านค้า รับชำระเงินสกุลดิจิทัล
3 ไม่ให้บริการเปิดกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ แก่ร้านค้า
4 กรณีที่มีการซื้อขายด้วยเงินดิจิทัล ผู้ให้บริการต้องโอนเงินบาท เข้าบัญชีผู้ซื้อ เท่านั้น
5 ห้ามให้บริการโอนเงินสกุลดิจิทัล จากบัญชีของผู้ซื้อขาย ไปเข้าบัญชีคนอื่น
6 ห้ามดำเนินการอื่นๆ นอกเหนือจาก 5 ข้อที่บอกมา
แต่ยังไม่ได้นำมาใช้ทันทีนะ จะเปิดรับฟังความคิดเห็น 8 กุมภาพันธ์ นี้เป็นต้นไป
