เตือนไว้ ก่อนเซ็นค้ำประกัน ถามตัวเองว่า จ่ายหนี้ก้อนนี้ทั้งหมดไหวไหม? อะไรก็เกิดขึ้นได้ แม้รักและไว้ใจกันแค่ไหนก็ตาม เซ็นแล้วเหมือนเราเป็นหนี้ไปด้วย แต่กฏหมายค้ำประกันก็ปกป้องประโยชน์ของผู้ค้ำมากขึ้น ซึ่งเราควรรู้ไว้ มีอะไรบ้าง เดี๋ยวสรุปให้ฟัง
รู้ไว้เตือนใจ ก่อนเซ็น ค้ำประกัน
“ผู้ค้ำประกัน” ภาษากฎหมาย หมายถึง บุคคลหนึ่งที่ยอมรับที่จะชำระหนี้แทนอีกบุคคล หากบุคคลนั้นไม่ชำระหนี้แก่เจ้าหนี้
ก่อนตกลงเซ็น ค้ำประกัน ให้กับใคร นั่นหมายความว่า คุณต้องสามารถจ่ายหนี้ก้อนนั้นได้ แบบ 100 % เต็ม ที่ต้องคิดแบบนี้ก็เพราะว่าวันนึงข้างหน้า มีโอกาสเกิดเหตุไม่คาดฝันได้เสมอ ลูกหนี้ที่คุณไว้ใจ อาจจะไม่ได้ตั้งใจจะ เบี้ยวหนี้ เพียงแค่ตัวเขา เกิดเหตุช็อต การเงินตึง กะทันหัน เข้าอารมณ์ ไม่มี ไม่หนี แต่ก็ไม่จ่าย ถ้าเป็นแบบนั้น คุณผู้ค้ำประกันต้องเป็นคนจ่ายแทนตามกฏหมายนั่นเองค่ะ
ถ้าไม่อยากเสียความสัมพันธ์ อย่าค้ำประกันให้ใคร
จ๊ะโอ๋เชื่อว่าหลายคนน่าจะเคยมีโอกาส เกือบ หรือ เซ็นค้ำประกันให้คนที่เรารัก ตามนิสัยขี้สงสารของคนไทย แต่รู้ไหมคะว่า มีจำนวนไม่น้อยที่ต้องมานั่งก่นด่าตัวเองในใจ และใช้หนี้แทนกันมานักต่อนักแล้ว หนี้ของเขาแต่เราลำบาก เพราะ ไว้ใจ นี่แหละ เคยได้ยินไหม ถ้าไม่อยากเสียเพื่อน อย่าให้เพื่อนยืมสตางค์ คล้ายกัน ถ้าไม่อยากเสียความสัมพันธ์ อย่าค้ำประกัน ให้ใคร ยกเว้นว่า คุณจะสามารถจ่ายเงินก้อนนั้นแทนเขาได้ทั้งหมด แต่ถ้าไม่โอ๋แนะนำว่า Say sorry ไปตรงๆเลยดีกว่า ถ้าเจ้าหนี้ยังไม่อนุมัติให้เขา แสดงว่าสถานะทางการเงินของเขายังไม่พร้อมที่จะเป็นหนี้
ก่อนค้ำประกัน ควรรู้อะไรบ้าง?
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
รู้กฏหมายไว้สักนิด ปกป้องสิทธิ์ผู้ค้ำประกัน
สุดท้ายนี้ถือว่าโอ๋ได้ เตือนทุกคนแล้วนะ ว่ารักแค่ไหน ก็อย่าค้ำประกัน ใครง่ายๆเลย จะได้ไม่ต้องมานั่งเครียดทีหลังได้ ไม่ใช่ว่าจะแนะให้ใจดำ การช่วยเหลือกันเป็นสิ่งดีค่ะ แต่จะโลกสวยก็ไม่ได้ ประเมินเงินตัวเองมีแค่ไหน ภาระเยอะไหม และประเมินตัวเขาว่า น่าจะจ่ายหนี้ไหวไหม ถ้าคิดดูแล้วไม่เข้าท่า ปฏิเสธไปตรงๆดีกว่า ดีกว่ารู้งี้ และ มานั่งเสียใจทีหลังนะคะ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ยังคงใช้ได้ทุกยุคสมัย เพราะเวลาคุณลำบากหาเงิน คุณก็หามาด้วยตัวเอง แล้วจะมานั่งเกรงใจกันทำไม และในอีกมุม หากตอนนี้เขายังไม่สามารถกู้ได้ด้วยตัวเอง เขาอาจจะยังไม่พร้อมที่จะเป็นหนี้ก้อนนี้ก็ได้นะ