จีน มีคำสั่ง ลงโทษเจ้าหน้าที่รัฐ และ ข้าราชการ มากกว่า 30 คน ที่ไม่สามารถควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ได้ จนตอนนี้ลุกลามไปแล้วอย่างน้อย 17 มณฑล ขณะที่นักวิชาการแนะ ควรเลิก หรือเปลี่ยนนโยบายที่จะทำให้ผู้ป่วยเคสเป็น 0 ได้แล้ว หากหวังให้เศรษฐกิจฟื้น
ลงโทษข้าราชการหละหลวมทำโควิดระบาด
.
กลายเป็นเรื่องที่เป็นที่กล่าวขานและพูดถึงในวงกว้าง เมื่อสำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) ระบุว่า ทางการจีนได้มีคำสั่ง ลงโทษเจ้าหน้าที่รัฐ ข้าราชการ มากกว่า 30 คน ที่ไม่สามารถควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ได้ ในช่วงเวลาตั้งแต่เดือนกรกฏาคมเป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน และที่สำคัญ จีนก็เป็นอีกหนึ่งประเทศที่โดนโควิดสายพันธุ์เดลต้าเล่นงานด้วย ซึ่ง ตามรายงานระบุว่า จีนภายใต้รัฐบาลของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ตรวจพบผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็นกว่า 900 รายแล้วด้วยตั้งแต่การมีการระบาดรอบใหม่
.
ทั้งนี้ มี เจ้าหน้าที่ รวมถึงข้าราชการ กว่า 30 รายที่ได้รับบทลงโทษ เริ่มตั้งแต่ นายกเทศมนตรีและผู้อำนวยการการแพทย์ ไปจนถึงหัวหน้าโรงพยาบาลและสนามบิน ซึ่งเป็นผลมาจากการปล่อยปละละเลยและบริหารงานผิดพลาด จนทำให้เกิดการระบาดโควิด-19 ภายในท้องถิ่น
.
โดย รัฐบาลท้องถิ่นในเมืองหยางโจว เปิดเผยว่ามีการประกาศคำตักเตือนข้าราชการ 5 คนที่ปฏิบัติงานในเมืองหยางโจว ซึ่งเป็นเมืองตั้งอยู่บริเวณภาคตะวันออกของจีนแผ่นดินใหญ่ โดยสาเหตุจากบุคคลทั้ง 5 คนทำหน้าที่ตรวจเชื้อประชาชนซึ่งเกิดข้อผิดพลาด ส่งผลให้เกิดการแพร่กระจายของเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่นี้
.
เท่านั้นยังไม่พอ เพราะยังมี ข้าราชการและเจ้าหน้าที่มากกว่า 30 คน ทั่วประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ ประกอบด้วย ระดับนายกเทศมนตรี ผู้อำนวยการด้านสุขภาพระดับท้องถิ่น ผู้อำนวยการโรงพยาบาล และเจ้าหน้าที่สนามบินนานาชาติ ล้วนถูกคำสั่งลงโทษฐานในข้อหาประมาทเลินเล่อ ส่งผลเกิดการระบาดเป็นวงกว้าง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เสนาลิง แชร์ข่าวอู่ฮั่นตรวจโควิด 11 ล้านคน ภายใน 5 วัน ลั่นอยากได้แบบนี้บ้าง
ผบ.เหล่าทัพ ตบเท้า อวยพรวันเกิด "บิ๊กป้อม" ล่วงหน้า 11 ส.ค.นี้ อายุครบ 76 ปี
โฆษก ศบศ. เผย ไทยฉีดวัคซีนโควิดอันดับ 27 ของโลก ติงฝ่ายค้านเพลาๆการเมืองบ้าง
โควิดรอบใหม่ จีนลุกลามแล้ว 17 มณฑล
ขณะที่ ที่มณฑลเจียงซู ซึ่งถือเป็นมณฑลที่มีการยืนยันเคสผู้ป่วยโควิดสายพันธุ์เดลต้า มากที่สุดในจีน นั่นคือ 592 เคส ในฝั่งของรัฐบาลท้องถิ่นในมณฑลเจียงซูได้ประกาศคำสั่งปลดนายฟาง จงโหย่ว ออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการคณะกรรมการสุขภาพของเมืองหนานจิง พร้อมรับการลงโทษขั้นสูงสุดสาเหตุจากการบริหารจัดการควบคุมและป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ที่ผิดพลาดย่ำแย่ ส่งผลให้เกิดภาวะการระบาดอย่างรุนแรงในเมืองหนานจิง จนกลายเป็นศูนย์กลางการระบาดแห่งใหม่ของจีน นับตั้งแต่วันที่ 20 กรกฏาคม และตอนนี้ได้ลุกลามไปอย่างน้อย 17 มณฑลแล้ว โดยมีหลายเมืองที่ได้รับผลกระทบ รวมไปถึงเมืองอู่ฮั่น ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการระบาด
.
ขณะเดียวกัน สถานการณ์ล่าสุดที่ อู่ฮั่น ต้นกำเนิดของโควิด-19 นั้น ได้เสร็จสิ้นภารกิจการตรวจหาเชื้อประชากร 11.3 ล้านคนไปแล้วเมื่อวันอาทิตย์ โดยในการตรวจหาเชื้อทั้งเมืองนี้ พบผู้ที่มีผลตรวจเชื้อโควิด-19 เป็นบวก 9 คนและได้ถูกนำตัวไปรักษาพยาบาลแยกแล้ว ซึ่งเรื่องราวของการระดมตรวจเชื้ออย่างรวดเร็วในประชากรมากกว่า 11 ล้านคน นับได้ว่า เป็นสิ่งที่แสดงถึงศักยภาพทางด้านสาธาณสุขของจีนที่จริงจัง
เลิกนโยบาย ทำผู้ติดเชื้อโควิดเป็นศูนย์ เสียที!
.
สำหรับ จีน แม้ กำลังเผชิญการระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ของโควิดสายพันธุ์เดลต้า ที่แพร่เชื้อได้ง่ายและเร็วขึ้น แต่บรรดาผู้เชี่ยวชาญของจีนระบุว่า รัฐบาลจีนควรปรับเปลี่ยนนโยบายผู้ติดเชื้อเป็นศูนย์ได้แล้ว เพราะไม่มีทางเป็นจริงและเกิดขึ้นได้ และในขณะเดียวกัน ประเทศอื่นๆก็กำลังเริ่มเปิดแล้ว
.
โดย หลิว กูเอิ๋น ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเศรษฐกิจสาธารณสุขของมหาวิทยาลัยปักกิ่ง ให้ความเห็นผ่าน The South China Morning Post โดย กล่าวว่า คงเป็นไปได้ยากที่จะมีประเทศไหน บรรลุแนวทางผู้ติดเชื้อเป็นศูนย์ราย ท่ามกลางการระบาดของโควิด เดลต้า ขณะที่ เจิ้ง กวง หัวหน้านักระบาดวิทยาของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของจีน กล่าวแสดงความเห็นด้วยว่า จำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงยุทธศาสตร์ในการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ที่แข็งแรงกว่านี้ และหยุดแนวทางผู้ติดเชื้อเป็นศูนย์ เพราะมันจะไม่มีทางเกิดขึ้นแน่นอน
.
ดังนั้น ความเห็นจากนักวิชาการจีนหลายๆฝ่ายจึง เรียกร้องทางการให้ผ่อนปรนโยบายผู้ติดเชื้อโควิด-19 ต้องเป็นศูนย์ เสียที และทางการจีน ควรเรียนรู้แนวทางการรับมือจากชาติอื่นที่กำลังทยอยเปิดประเทศแล้ว เศรษฐกิจจะได้กลับมาเดินหน้ากันต่อ