กาตาร์-อิตาลี ซิวทองโอลิมปิกกระโดดสูงชายร่วมกัน เพราะเอาชนะกันไม่ได้

อิตาลี - กาตาร์ แชร์หรียญทองกระโดดสูงโอลิมปิก
.
กลายเป็นเหตุการณ์โอลิมปิก 2020 ที่สร้างความประทับใจให้กับคนทั้งโลก สำหรับเหตุการณ์ในการชิงเหรียญทองกระโดดสูงชายโอลิมปิก 2020  โดยเรื่องราวนี้ เต็มไปด้วยสปิริตนักกีฬา การแบ่งปันและเป็นเรื่องราวที่บอกว่า กีฬาไม่จำเป็นต้องมีชนะเพียงแค่คนเดียว เหรียญทองหรือเบอร์หนึ่ง มีที่ว่างให้กับคนที่ทำผลงานได้ดีเท่ากันเสมอ

โดย สื่อต่างประเทศรายงานว่า นักกีฬา 2 คน จากสองชาติ ยอมแชร์แบ่งปัน เหรียญทองร่วมกันในการแข่งขันกระโดดสูงโอลิมปิก 2020 ประวัติศาสตร์หน้าใหม่ที่สร้างขึ้นจาก "มูตาซ เอสซา บาร์ชิม" นักกระโดดสูงจากกาตาร์ และ "จานมาร์โก แทมเบรี" จากอิตาลี เพราะต่างฝ่ายต่างไม่มีใครเอาชนะกันได้ในการลุ้นชิงเป็นเบอร์หนึ่งในการแข่งโอลิมปิกครั้งนี้
.
เรื่องราวของ มูตาซ เอสซา บาร์ชิม และ จานมาร์โก แทมเบรี เกิดขึ้นเพราะทั้ง 2 คนเป็นนักกระโดดสูงที่กำลังชิงดำลุ้นเหรียญทองโอลิมปิกกัน โดยทั้งคู่กระโดดได้ที่ความสูง 2.37 เมตรแล้ว และกำลังต้องมาตัดสินกันว่าใครจะเป็นที่ 1 ที่ความสูง 2.39 เมตรซึ่งเป็นระดับความสูงที่เป็นสถิติโอลิมปิกด้วย
.
หากจะอธิบายกติกาแบบง่ายที่สุด ทั้งคู่ต้องแข่งกันแบบซัดเดนเดธ ผลัดกันกระโดดที่ความสูง 2.39 เมตร ใครคนใดคนหนึ่งระหว่าง อิตาลี กับ กาตาร์ กระโดดได้  และอีกคนหนึ่งพลาดขึ้นมา...คนที่กระโดดที่ความสูงนี้ผ่านก็ได้เหรียญทองโอลิมปิกไปเลย. คนที่แพ้ก็จะได้เหรียญเงินไป
.
แต่เรื่องราวมันกลับตาลปัตรไปหมด พลิกผันไปหมด เพราะทั้งสองคนซึ่งเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า และเป็นการกระโดดความสูงในระดับที่ยากมาก...ทั้งคู่ผลัดกันกระโดดที่ความสูงโอลิมปิก 2.39 เมตร พลาดหมดทุกครั้งที่ดวลกัน
.
หากกล่าวถึงสถานการณ์ ณ ตอนนั้นแบบง่ายและเข้าใจง่ายที่สุด ก็คือต่อให้ ทั้งสองคน กระโดดที่ความสูงนี้ ไปอีก 2 ชั่วโมง หรือกระโดดไปอีกทั้งคืน...นักกีฬากระโดดสูงจากอิตาลีกับกาตาร์ ก็ไม่มีทางผ่าน เพราะมันยากรากเลือดและร่างกายมันก็อ่อนล้าเต็มที
.
กรรมการกีฑาโอลิมปิก 2020 จึงได้เข้าไปพูดคุยกับทั้งคู่ว่าเพื่อหาทางออกกับเรื่องนี้  .... พยายามหาทางลงให้กับเรื่องที่ไม่มีทางจบง่ายๆ  โดยกรรการยิงคำถามว่า  "จะยังแข่งกันต่อไปเรื่อย ๆ ไหม? "  

แต่ไวกว่าความคิด "มูตาซ เอสซา บาร์ชิม" จากกาตาร์ ถามสวนทันทีว่า  "Can we have two golds?" หรือแปลเป็นไทยว่า "เราสองคน ได้เหรียญทองด้วยกันได้ไหมครับ ? "  แล้วกรรมการก็ตอบว่า "It's possible." - "ได้สิ!"

สองนักกีฬากระโดดสูงจากอิตาลี-กาตาร์กระโดดสูง กระโดดกอดกันเมื่อครองเหรียญทอง โอลิมปิก 2020 ร่วมกัน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• จาค็อบส์ อิตาลีคนแรกในประวัติศาสตร์ คว้าทองวิ่ง 100 เมตรชาย โอลิมปิก 2020

• ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี ขอแขวนนวม หลังตกรอบ ชิงเหรียญทองแดง มวยโอลิมปิก 2020

• โปรแกรมถ่ายทอดสดโอลิมปิก 2020 ดูกีฬาช่อง AIS PLAY วันจันทร์ที่ 3 สิงหาคม 2564

ประวัติศาสตร์ครั้งแรกในรอบ 109 ปี
.
สิ้นสุดคำตอบนั้น "มาร์โก แทมเบรี" หันไปมองหน้าบาร์ชิม แล้วกระโดดกอดคู่แข่งแน่นด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มของทั้งสองฝ่าย  
.
เป็นภาพที่ บ่งบอกว่า กรีฑาคือการแข่งขันที่งดงาม ต่อสู้ แต่คงไว้ซึ่งมิตรภาพเสมอ เหรียญทองนี้เป็นของร่วมกันระหว่างอิตาลีกับกาตาร์!  และเป็นครั้งแรกที่มีการครองเหรียญทองร่วมกันในกระโดดสูงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1912 หรือในรอบ 109 ปี เลยทีเดียว  (เหรียญทองแดงเป็นของนักกีฬาเบลารุส มักซิม เนดาเซเคา ที่กระโดดได้ที่ 2.37 เมตร เท่าๆกับเหรียญทองทั้ง 2 คนนั่นแหละ แต่มีการกระโดดพลาดครั้งมากกว่าในช่วงแรกของการแข่งขัน)

มูตาซ เอสซา บาร์ชิม จากกาตาร์
.

ดราม่าชีวิตฉากหลังเหรียญทองประวัติศาสตร์
.
สำหรับ เหรียญทองของทั้งคู่นั้น มีเรื่องราวดราม่าชีวิตมากมายที่ซ่อนไว้เป็นแบ็กกราวน์ฉากหลังอีกด้วย เพราะทั้ง 2 คนต้องเจอกับอาการบาดเจ็บสาหัสจนเกือบจะเล่นกีฑาในประเภทกระโดดสูงไม่ได้แล้ว และคนที่หนักที่สุดก็คือ "จานมาร์โก แทมเบรี" จากฝั่งอิตาลี ที่พกเอา "เฝือก" เอาไว้มาเป็นเครื่องเตือนใจ มาเป็นเครื่องลางในการแข่งขันโอลิมปิก 2020 ด้วย

."จานมาร์โก แทมเบรี" กับเฝือกที่เป็นเครื่องเตือนใจ

โดยตอนก่อนโอลิมปิก 2016 เมื่อ 5 ปีที่แล้ว...จานมาร์โก แทมเบรี จากอิตาลี บาดเจ็บหนักจนอดไปโอลิมปิกที่บราซิล และเขาต้องต่อสู้กับอาการบาดเจ็บที่ทำให้เขาทุกข์ทนทรมานและสุดท้ายเขาก็มาทำความฝันได้สำเร็จ และถือเป็นการลบฝันร้ายจาก 5 ปีที่แล้วด้วย "ผมฝันถึงวันวันนี้มาหลายต่อหลายครั้ง...ผมบอกตัวเองตอนเจ็บหนักก่อนโอลิมปิก 2016 ว่า ผมคงเสี่ยงอะไรมากไม่ได้แล้ว...ดังนั้นการมาได้เหรียญทองวันนี้ มันคือการเดินทางที่ยาวนานเหลือเกิน"
.
เรื่องราวของทั้ง มูตาซ เอสซา บาร์ชิม และ จานมาร์โก แทมเบรี สองนักกีฬาจากกาตาร์และอิตาลีครั้งนี้ นับได้ว่าเป็นการบอกกับโลก ส่งสาส์นให้กับคนทั้งโลกให้รู้ว่า กรีฑาคือการแข่งขันที่ง่ายและงาม ต่อสู้กันในความสามารถ ฟาดฟันกับศักยภาพของร่างกายมนุษย์... แต่ก็คงไว้ซึ่งมิตรภาพของเพื่อนนักกีฬา ที่แบ่งปันความสำเร็จกันได้...แด่ เหรียญทองที่จะเป็นประวัติศาสตร์โอลิมปิก.

credit ภาพจาก worldathletics