svasdssvasds

ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี ขอแขวนนวม หลังตกรอบ ชิงเหรียญทองแดง มวยโอลิมปิก 2020

ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี ขอแขวนนวม หลังตกรอบ ชิงเหรียญทองแดง มวยโอลิมปิก 2020

ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี นักมวยคนนี้ทำดีที่สุดในชีวิตแล้ว! หลังจากแพ้รอบชิงเหรียญทองแดง มวยสากลสมัครเล่นโอลิมปิก 2020 ต่อนักมวยคิวบา และสุดท้ายแล้ว "เจ้าสด" ขอประกาศแขวนนวม เลิกรับใช้ทีมชาติแล้ว

"สำหรับผมไม่เสียใจครับ ก็ถือว่าได้สู้อย่างเต็มที่ สุดความสามารถแล้ว" ...นี่คือถ้อยคำจากก้นบึ้งของหัวใจของ "เจ้าสด" ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี  หลังจากแมตช์มวยสากลสมัครเล่นโอลิมปิก 2020 ในรรุ่นเฟเธอร์เวท 57 กก.ชาย  ในไฟท์ "ชิงเหรียญทองแดง" ซึ่ง ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี พบ ลาซาโร่ อัลวาเรซ ตัวเต็ง คิวบา และในท้ายที่สุดแล้ว ฉัตร์ชัยเดชา พบกับความพ่ายแพ้ไป  2-3 เสียง ตกรอบ 8 คนสุดท้ายอย่างน่าเสียดาย และถือเป็นไฟต์ปิดฉากชีวิตนักมวยทีมชาติอีกด้วย
.
หากใครที่ได้ติดตามการถ่ายทอดสดไฟต์ดวลกำปั้นไฟต์นี้ จะเห็นเป็นประจักษ์ต่อสายตาว่า  "เจ้าสด"  ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี ได้งัดเอาความสามารถ ขุดมันสมองและกลยุทธเชิงมวยสากลสมัครเล่นที่เขามี ออกมาใช้ทั้งหมดแล้ว ตลอด 9 นาทีแห่งการชก  ถือเป็น 9 นาทีที่เปรียบเสมือนวัดกันระหว่างวีรบุรุษเหรียญโอลิมปิก หรือ จะกลับบ้านอีกครั้งแบบไร้เหรียญอีกครั้ง ?  
.
ซึ่งแม้สุดท้ายแล้ว คราบน้ำตาจะอาบหน้าของเจ้าสด ฉัตร์ชัยเดชา บนความท้อแท้ผิดหวัง และความฝันล้มสลาย แต่ทุกคนที่ได้เห็นฟอร์มการชกของเจ้าสดแล้ว ...ทุกคนย่อมเห็นพร้องต้องกันว่า กำปั้นคนนี้ ทำหน้าที่อย่างดีที่สุดในชีวิต ทุกลมหายใจแล้ว!
.
ตลอดการชกของ "เจ้าสด" ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี กับ  ลาซาโร่ อัลวาเรซ ตัวเต็ง คิวบา เป็นไปอย่างเข้มข้นและสูสี จนกระทั่งผลการแข่งขันของกรรมการออกมาเป็น "เสียงแตก" และนักชกกำปั้นไทยแพ้ไปอย่างน่าเสียดาย 2-3 เสียง และต้องยุติเส้นทางโอลิมปิกสมัยที่ 3 ไว้ที่รอบ 8 คนสุดท้าย

chatchai

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

บนวัย 36 ปี กับการลุยโอลิมปิกมา 3 สมัย ตั้งแต่ปี 2012 , 2016 และ 2020 หลังความพ่ายแพ้ไฟต์นี้  "เจ้าสด" ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี ยอมรับทั้งน้ำตาแบบลูกผู้ชายว่า "พอแล้ว"
 .
 "ไม่เสียใจเลยกับโอลิมปิกเกมส์หนนี้รวมถึงการชกในวันนี้ทำอย่างเต็มที่แล้ว ชั่วโมงบินประสบการณ์พอๆ กันทำให้ทันกัน แต่ความเป็นคิวบาก็คือคิวบาเขายังมีสไตล์ที่รวดเร็วชกยาก มาถึงตรงนี้บอกเลยภูมิใจมากกับหน้าที่ของตัวเองที่ทำให้คนไทยมาเชียร์และมีความสุขในรอบหลายปีที่ผ่านมา ที่ขาดไม่ได้คือขอบคุณครอบครัวลูกและภรรยาที่อยู่เคียงข้างกันมาตลอดในยามที่มีทุกข์และสุขรวมถึงคนไทยทุกคนที่ตามเชียร์ให้กำลังใจทุกครั้งเวลาที่ขึ้นชก โอลิมปิกเกมหนนี้คงเป็นครั้งสุดท้ายของตนเพราะอายุมากแล้ว แต่เสียดายที่ไปไม่ถึงฝัน" ฉัตรชัยเดชา บุตรดี กลั่นถ้อยคำออกมาหลังความพ่ายแพ้
.
"พอแล้วครับ...ภูมิใจกับตัวเองที่อย่างน้อยก็ทำให้คนไทยมีความสุข และก็ให้เขาได้เชียร์ผมเวลาผมแข่งขัน ให้เขาได้มีความสุขในวันที่ผมชนะ และก็ยังเป็นกำลังใจให้กับผมในเวลาที่ผมแพ้"
.
ที่ผ่านมา "เจ้าสด" ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี รับใช้ชาติในฐานะขุนพลกำปั้นเสื้อกล้ามมาอย่างยาวนาน ในโอลิมปิก 2012 และ 2016 เขาจบเส้นทางที่รอบ 16 คนสุดท้าย , ส่วนในโอลิมปิก 2020 จบที่รอบ 8 คนสุดท้าย ซึ่งถือว่าเป็นรอบชิงเหรียญทองแดง...เขาได้แสดงให้เห็นแล้วถึงความพยายาม ...ใช้น้ำตา ใช้หยาดเหงื่อ ใช้หัวใจแลกมากับความเจ็บปวดทั้งร่างกายและจิตใจ ตลอดการเป็นตัวแทนทีมชาติไทย...แต่วันนี้ เขาขอพอแล้ว...

การที่ ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี ชวดเหรียญทองแดงในครั้งนี้ ทำให้ทัพนักชกมวยสากลสมัครเล่น "ชาย" ไร้เหรียญรางวัลเหรียญโอลิมปิกใดๆ 2 ครั้งติดต่อกันแล้ว ทั้งที่ในอดีตกีฬานี้คือความหวังของแฟนกีฬาชาวไทย เคยได้มาแล้ว 4 ทอง 4 เงิน 6 ทองแดง
.
อย่างไรก็ตาม แฟนกีฬาชาวไทยยังมีลุ้นเหรียญจากกีฬามวยสากลสมัครเล่นหญิงอยู่ โดยยังเหลืออีก 1 ความหวัง นั่นคือ สุดาพร ศรีสอนดี  ที่จะดวลไฟต์ชี้ชะตาชีวิต พบกับ แคโรไลน์ ดูบอยส์ จากสหราชอาณาจักร ในรอบ 8 คนสุดท้าย หรือรอบชิงเหรียญทองแดง ในวันที่ 3 สิงหาคม เวลา 10.50 น. แฟนกีฬาชาวไทยคงต้องตามให้กำลังใจแบบชิดติดขอบหน้าจอทีวี และหน้าจอมือถือกันอีก เพราะเธอ
.
ตัดกลับมาที่ เรื่องราวของ "เจ้าสด" ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี  ...ในเวลาที่เขาไม่ได้เหรียญโอลิมปิกติดมือกลับบ้านมาฝากแฟนกีฬาชาวไทย ... ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี ผู้ชายคนนี้ ทำดีที่สุดแล้ว  การทุ่มเทสุดชีวิตแบบในไฟต์ดวลกับคิวบา มันชนะใจคนไทยแล้ว
.
...ขอบคุณที่ทำเพื่อแฟนกีฬาชาวไทยมาอย่างยาวนาน

chatchai3

Credit ภาพจาก กองประชาสัมพันธ์ กกท.

related