ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี - ใบสน มณีก้อน นักชกไทยโอลิมปิก 2020 มีสิทธิ์ลุ้นเหรียญ

ชีวิตที่ต้องแลกของนักชกไทยโอลิมปิก 2020
.
เรื่องราวของชีวิตนักมวย ไม่ว่าจะเป็นมวยไทย มวยสากล หรือมวยสากลสมัครเล่นไม่เคยมีอะไรได้มาง่ายๆ เพราะอย่างน้อยกีฬานี้ต้องแลกมาด้วยความเจ็บ แลกมาด้วยหยาดเหงื่อ และต้องแลกมาด้วยความอดทน
.
สำหรับ มวยสากลสมัครเล่นไทยในโอลิมปิก 2020 ครั้งนี้ มี นักชกไทยโอลิมปิก 2020  เข้าร่วมโอลิมปิก 2020 จำนวน 5 คน ได้แก่ ใบสน มณีก้อน , ธิติสรรค์ ปั้นโหมด , สุดาพร สีสอนดี ,จุฑามาศ จิตรพงศ์ และ นักชกชายหนึ่งเดียวของไทย  ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี  อย่างไรก็ตาม สื่อทุกสำนักต่างจับตาดู 2 นักชกตัวเต็งของไทย ที่มีโอกาสหยิบเหรียญใด เหรียญหนึ่ง นั่นคือ ใบสน มณีก้อน และ ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี ที่ประสบการณ์ผ่านโอลิมปิกมา 2 ครั้งแล้ว และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ก็น่าจะทำให้เขาเป็นตัวเก๋าของโอลิมปิกครั้ง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• เมย์ รัชนก อินทนนท์ อดีตแชมป์โลกลุยโอลิมปิก2020 : ฝันมีเพียงเหรียญทอง

• 10 เรื่องสุดว้าว พิธีเปิดโอลิมปิก 2020 ที่จะกลายเป็นตำนาน

• โปรแกรมถ่ายทอดสดโอลิมปิก 2020 เทควันโดหญิงลุ้นชิงทอง 24 ก.ค. 64

 

ฉัตร์ชัยเดชา กับโอลิมปิกครั้งที่ 3
.
ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี หรือที่แฟนกีฬาชาวไทยคุ้นเคยกับชื่อเดิมคือ ฉัตร์ชัย บุตรดี ครั้งนี้ในโอลิมปิก 2020 เขามาลุยเวทีโอลิมปิกเป็นครั้งที่ 3 ในรุ่นเฟเธอร์เวทชาย ในชีวิตแล้ว ด้วยวัย 36 ปี และเป็นพี่ใหญ่ของขุนพลนักชกเสื้อกล้ามชุดนี้
ที่ผ่านมา ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี  เคยทำผลงานดีที่สุดในชีวิต คือการได้ เหรียญทองแดง ในศึก มวยสากลสมัครเล่นชิงแชมป์โลก เมื่อปี 2013  ประเทศคาซัคสถาน  และเคยได้เหรียญทอง มวยสากลสมัครเล่นชิงแชมป์เอเชีย เมื่อปี 2015 ซึ่งจัดขึ้นที่ไทย
สำหรับ โอลิมปิก 2 ครั้งในชีวิตที่ผ่านมา เหมือนกับฝันร้ายของ ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี เพราะเขาไม่เคย ไปไกลกว่ารอบ 16 คนสุดท้ายได้เลย  โดยที่โอลิมปิก 2012 และ โอลิมปิก 2016 เขาไปได้แค่รอบนี้
.
การตกรอบ 16 คนสุดท้าย ที่ริโอ โอลิมปิก 2016 เกือบทำให้ ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี แขวนนวม หันหลังให้วงการถาวร เพราะพิษจากการตัดสินของกรรมการที่ค้านสายตา แต่สุดท้าย เมื่อความเจ็บช้ำคลี่คลายสลายปมในใจ "เจ้าสด" ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี ก็ขอสู้ต่อ...และฝ่าฟันจนกระทั่งได้ลุยโอลิมปิกครั้งที่ 3 ในชีวิต
.
"ผมคิดอย่างเดียวคือผมต้องการทำให้ดีที่สุด เพราะถ้าผมคว้าชัยชนะมาได้ คนไทยก็มีความสุข คนในครอบครัวก็ดีใจ ผมต้องการทำเพื่อทุกคนที่อยู่รอบตัว มันเป็นความภูมิใจในฐานะนักมวยทีมชาติไทยของผม" นี่คือคำพูดของ เจ้าสด ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี ที่เคยฝากไว้ให้กับแฟนกีฬาชาวไทยทุกคน
.
สำหรับ โอลิมปิก 2020 คือ สถานการณ์ที่หลังพิงฝาของฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี แล้ว เพราะนี่จะเป็นโอลิมปิกครั้งสุดท้ายในชีวิตที่ถอยหลังไม่ได้อีกแล้ว เรียกได้ว่า ประสบการณ์และอาวุธที่มีทั้งหมด มีเท่าไร ต้องขนออกมาใช้ในโอลิมปิกครั้งนี้...แบบสุดชีวิต

ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี ลุยโอลิมปิกครั้งที่ 3 ในชีวิต

 

ใบสน มณีก้อน ได้ตั๋วโอลิมปิก 2020 ตั้งแต่อายุ 18

ใบสน มณีก้อน ปรากฏการณ์ได้ตั๋วโอลิมปิกตั้งแต่อายุ 18
.
ชื่อของ ใบสน มณีก้อน หรือ "ครีม" ถือเป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อว่า เมื่อครั้งเป็นเด็กน้อยที่กาฬสินธุ์ สุขภาพของเธอไม่สู้ดีนัก มีโรคหืดหอบและภูมิแพ้ติดตัวมาตั้งแต่เด็ก แต่เธอก็ชนะมันมาได้จากการเล่นกีฬามวยไทย  และจากนั้นมีจุดพลิกผันได้รับโอกาสมาเล่น มวยสากลสมัครเล่นจนได้ตั๋วโอลิมปิก 2020  ซึ่งที่จริง เธอเติบโตมาจากมวยไทยโด่งดังมาจากภูธร จากการผลักดันของคุณพ่อ พาเธอเดินสายชกมวยไทยตามพื้นที่ใกล้เคียงจังหวัดกาฬสินธุ์
.
แต่ เพราะลีลาของ ใบสน มณีก้อน เพราะลีลาการออกหมัดของเธอไปเข้าตา สมชาย พูลสวัสดิ์ ประธานเทคนิค สมาคมกีฬามวยสากลสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ที่ติดตามดูฟอร์มเธอมาตลอด จึงชักชวนให้ ใบสน ลองเปลี่ยนมาสวมแองเกิลต่อยมวยสากล ตอนเธออายุ 16 ปี และนั่นคือจุดเปลี่ยนในชีวิตเธอ
.
โดย ตลอด 2 ปีที่อยู่ในแคมป์ฝึกซ้อมทีมชาติ ใบสน มณีก้อน  แสดงให้โค้ชทุกคนเห็นว่า เธอมีความตั้งใจมากมายมหาศาลในการพยายามศึกษาเรียนรู้ทักษะ เทคนิคใหม่ ๆ ที่ตัวเองไม่เคยเจอมาก่อน ไม่เคยยอมแพ้ เพราะเธอรู้ดีว่า กีฬามวยไม่เคยมีที่ว่างให้กับผู้แพ้
.
นับจากวันแรกที่ ครีม ใบสน มณีก้อน ก้าวเข้าสู่เส้นทางมวยสากลสมัครเล่น จนมาถึงวันที่เธอก้าวข้ามความผิดหวังมากมาย  ประสบการณ์ที่เธอสั่งสมมาตลอดระยะเวลา 2 ปีกว่า ในลุยสนามต่างๆของมวยสากลสมัครเล่น และสุดท้าย เธอกลับได้ตั๋วมาลุยโอลิมปิก 2020 อย่างเหลือเชื่อ

เวลาผันผ่านจนกระทั่งปัจจุบัน มาอีก 2 ปี ใบสน มณีก้อน บนวัย 19 ปี ถือเป็นปรากฏการณ์ของพัฒนาการที่ก้าวกระโดด และเธอ ถือได้ว่าเป็นการพัฒนาสิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจของเด็กหญิงคนหนึ่งที่แถบจะไร้พื้นฐานการชกมวยสากล...แค่เธอเดินทางมาไกลมากในช่วงเวลา 2-3 ปีหลังมานี้  แต่วันนี้เธอทำให้เห็นแล้วว่าความตั้งใจเท่านั้นที่จะนำไปสู่ความสำเร็จอีกครั้ง
.
แฟนกีฬาชาวไทยร่วมส่งกำลังใจให้ ทั้ง ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี และ ใบสน มณีก้อน เพราะพวกเขาพร้อมที่จะแลกความเจ็บปวด แลกความหยาดเหงื่อทั้งชีวิต มาเพื่อไล่ล่าคว้าเหรียญโอลิมปิกให้ได้ สักครั้งหนึ่ง  รวมถึงให้กำลังใจอีกสามนักชกไทย อย่าง ธิติสรรค์ ปั้นโหมด , สุดาพร สีสอนดี และ จุฑามาศ จิตรพงศ์ ด้วย ...เพราะถึงแม้จะไม่ใช่ตัวเต็งเหรียญ แต่พวกเขาทุกคนก็เป็นตัวแทนความหวังของแฟนกีฬาชาวไทยทั้งชาติ.

ขอบคุณภาพจาก สมาคมมวยสากลสมัครเล่นแห่งประเทศไทย