สก็อตต์ มอร์ริสัน นายกออสเตรเลีย ขอโทษประชาชน เหตุเดินแผนฉีดวัคซีนล่าช้า

สก็อตต์ มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ขอโทษประชาชน เนื่องจากการปูพรมฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 มีความล่าช้ากว่าแผน ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อในรัฐนิวเซาธ์เวลส์ รัฐที่ใหญ่ที่สุดของออสเตรเลียเพิ่มขึ้นอีก 124 คน สูงที่สุดในรอบ 16 เดือน และเตือนว่าจำนวนผู้ติดเชื้ออาจเพิ่มขึ้นอีก และประชาชนยังต้องลำบากจากมาตรการล็อกดาวน์มาเป็นเวลานาน

" ผมเสียใจที่เราไม่สามารถบรรลุเป้าหมายที่หวังไว้ตั้งแต่ต้นปี แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือ เรากำลังพยายามอย่างเต็มเพื่อแก้ปัญหานี้ ในฐานะนายกรัฐมนตรี ผมมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบโครงการฉีดวัคซีน และผมก็ชัดเจนมากด้วยว่า ความรับผิดชอบในที่นี้หมายถึงการแก้ไขและจัดการกับปัญหาที่เรากำลังเผชิญอยู่ ซึ่งนั่นก็คือสิ่งที่เราทำ" นายกรัฐมนตรีสก็อตต์ มอร์ริสัน กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• ฟิลิปปินส์แบนนักท่องเที่ยวไทย-มาเลเซีย สกัดกั้นโควิด-19 ระบาด

• กรมราชทัณฑ์ใช้ ฟ้าทะลายโจร รักษาผู้ต้องขังป่วยโควิด-19 จนอาการดีขึ้น

• แพทย์อินเดียตายจากโควิด-19 เกือบ1,500 คน แถมโดนเชื้อราดำซัดปัญหาเพิ่ม

ขณะนี้ออสเตรเลียฉีดวัคซีนได้น้อยกว่าวันละ 150,000 โดส ซึ่งตามหลังประเทศที่พัฒนาแล้วอื่นๆอยู่มาก  โดยทางรัฐบาลนายกรัฐมนตรีสก็อตต์ มอร์ริสัน ระบุว่า จะสามารถฉีดให้ประชากรวัยผู้ใหญ่ได้ครบภายในสิ้นปี 2021 ขณะที่วัคซีนหลายล้านโดสจากวัคซีนไฟเซอร์และวัคซีนโมเดอร์นากำลังจะมาถึงในไม่กี่สัปดาห์นี้ ทั้งที่ในช่วงต้นปี ออสเตรเลียยังได้รับคำชื่นชมจากการคุมการระบาดโควิด-19 ได้ดีอยู่เลย แต่เมื่อเจอสายพันธุ์เดลต้าเล่นงาน ส่งผลให้ นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ต้องออกมาขอโทษต่อสาธารณชน

ปัจจุบัน มีชาวออสเตรเลียได้รับวัคซีนครบโดส ราว 15% ของประชาชนที่มีอายุมากกว่า 16 ปี  ขณะที่ เกร็ก ฮันท์ รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขออสเตรเลียเปิดเผยว่า สำนักงานผลิตภัณฑ์รักษาโรคแห่งออสเตรเลีย อนุมัติการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์ให้แก่เด็กที่มีอายุระหว่าง 12-15 ปี  ซึ่ง จนถึงปัจจุบัน ออสเตรเลียได้อนุมัติให้ฉีดวัคซีนไฟเซอร์สำหรับผู้ที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไปเท่านั้น  ขณะที่ออสเตรเลียมีผู้ป่วยโควิด-19 สะสมอยู่ที่ 32,588 ราย