ทำความรู้จัก 10 สถานที่ชุมนุมประท้วง ที่ชื่อเสียงโด่งดังที่สุดในโลก

อันดับ 10. Union Square - นิวยอร์ก
สำหรับ จัตุรัสยูเนี่ยน ที่นิวยอร์ก อยู่ในเขตแมนฮัตตัน สร้างไว้ตั้งแต่ปี 1882 โดยที่นี่ เมื่อวันที่20 เมษายน ปี  1861 ชาวอเมริกันกว่า 100,000 คนมารวมตัวกันในช่วงสงครามกลางเมือง และนั่นคือเหตุการณ์ที่อเมริกันชนมาร่วมตัวมากที่สุดในประวัติศาสตร์ด้วย , นอกจากนี้ หลังจากเหตุการณ์ 9/11 เมื่อปี 2001 สถานที่แห่งนี้ก็ใช้เป็นสถานที่รำลึกของเหยื่อผู้เสียชีวิตนับพันคนด้วย

อันดับ 9 Independence Square - เคียฟ
จัตุรัสแห่งอิสรภาพที่เคียฟ เมืองหลวงของยูเครน  ณ ที่แห่งนี้ เป็นที่ชุมนุมประท้วง เมื่อปี 2004 เคยใช้เป็นที่ประท้วง และเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งใหม่ ภายใต้แคมเปญการประท้วง "ปฏิวัติสีส้ม" ซึ่งนี่คือ คือช่วงเวลาอันน่าทึ่งในประวัติศาสตร์ของยูเครน
โดย เวลานั้น วิคเตอร์ ยานูโควิช ได้รับชัยชนะการเลือกตั้ง  และประชาชนที่สนับสนุน วิคเตอร์ ยูชเชนโก้ ซึ่งสวมใส่ชุดเสื้อผ้าสีส้ม และสนับสนุนนายกรัฐมนตรีคนเดิม แต่แพ้การเลือกตั้ง ก็ออกมาชุมนุประท้วง
และการชุมนุมประท้วงดังกล่าวประสบความสำเร็จด้วย เพราะ ศาลสูงยูเครนตัดสินให้มีการเลือกตั้งใหม่  แต่อย่างไรก็ตาม สุดท้ายในปีต่อมา พรรคของ ยานูโควิช ก็กลับมาชนะเลือกตั้งในปีถัดมาอยู่ดี

อันดับ 8  Trafalgar Square - ลอนดอน
ในศตวรรษที่ 19 จัตุรัสทราฟัลการ์ เป็นทั้งสถานที่เฉลิมฉลองและเศร้าสลด ที่นี่ผ่านการประท้วงชุมนุมต่างๆในอังกฤษมากมาย โดย จัตุรัสนี้ได้ชื่อมาจากยุทธนาวีที่ทราฟัลการ์ สงครามที่ราชนาวีอังกฤษชนะฝรั่งเศสกับสเปนในสงครามนโปเลียนในวันที่ 21 ตุลาคม ค.ศ. 1805  และในช่วงปี 2010 และ 2011 ที่แห่งนี้ กลุ่มนักศึกษาอังกฤษยังใช้เป็นสถานที่ประท้วง แสดงไม่พอใจที่รัฐบาลประกาศขึ้นค่าเล่าเรียนในปีการศึกษาหน้าถึง 3 เท่า เพราะผู้ที่ประท้วงมองว่า คนมีฐานะดีเท่านั้นที่จะสามารถเข้าศึกษาในระดับอุดมศึกษาในอังกฤษได้

อันดับ 7 Decembrists' Square - เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก
จัตุรัส ดีเซมบรีสต์ส อยู่ที่เมืองเซนต์ปีเตอร์เบิร์ก ประเทศรัสเซีย  ในปี 1917 จัตุรัสแห่งนี้ได้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองของรัสเซีย เป็นที่ชุมนุมประท้วง

โดย จาก ระบอบกษัตริย์ สมัยพระเจ้าซาร์ กษัตริย์องค์สุดท้ายของรัสเซีย ซึ่งต่อมาต้องเสด็จสวรคตลง 1918  และรัสเซียเปลี่ยนมาเป็นคอมมิวนิสต์ ภายใต้การนำของเลนิน ผู้นำพรรคบอลเชวิก

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• Breaking News : ราชกิจจาฯ ประกาศ เข้มห้ามชุมนุม! ฝ่าฝืนคุก 2 ปี ปรับ 4 หมื่นบาท

• การันตีคุณภาพ! จีนเตรียมอนุมัติวัคซีนไฟเซอร์ เป็นวัคซีนต่างชาติตัวแรก

• ชาวฮังการีหลายพันคนประท้วงต่อต้านการสร้างมหาวิทยาลัยจีน

อันดับ 6. Plaza de las Tres Culturas - เม็กซิโก ซิตี้
พลาซ่า เด ลาส คูลตูราส อยู่ที่เม็กซิโก ซิตี้  ประเทศเม็กซิโก  ณ ที่แห่งนี้ เป็นสถานที่สำคัญชุมนุมประท้วง การขับเคลื่อนทางการเมืองของเม็กซิโก ในช่วงวันที่ 26 กรกฏาคม 1968 ถึง 2 ตุลาคม 1968 ซึ่งมีเหตุการณ์การนองเลือดด้วย โดยเหตุการณ์ความรุนแรง จบก่อนโอลิมปิก 1968 ที่เม็กซิโกเป็นเจ้าภาพเพียงแค่ 10 วันเท่านั้น เหตุการณ์ชุมนุมประท้วงครั้งนั้น  ถูกขนานนามว่าเป็นการ สังหารหมู่ ตลาเตลอลโก โดยตำรวจและทหารได้กราดกระสุนใส่กลุ่มนักศึกษาที่เดินขบวนต่อต้านรัฐบาล ทำให้มีผู้เสียชีวิตราวๆ 400 คคน และอีกนับพันคนที่ถูกทางการจับตัวไปหลายพันคน

Plaza de las Tres Culturas

อันดับ 5 Place de la Bastille - ปารีส
สถานที่แห่งนี้ ถูกบรรจุอยู่ในแบบเรียนแทบจะทุกมุมโลกของประเทศ เพราะ  การปฏิวัติฝรั่งเศสใน  14 กรกฏาคม 1789, เป็นเหตุการณ์สำคัญของโลก
เหตุการณ์ ชุมนุมประท้วง ทำให้คุกบาสตีย์เป็นที่รู้จักของคนทั้งโลก เพราะสถานที่แห่งนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิวัติโค่นล้มสถาบันกษัตริย์ฝรั่งเศส และสถาปนาสาธารณรัฐ และแน่นอนว่า สถานที่แห่งนี้ เป็น ต้นธาร ในประวัติศาสตร์การปกครองของยุโรปสมัยใหม่

Place de la Bastille

อันดับ 4. Azadi Square - เตหะราน
จัตุรัสอซาดี้ ที่กรุงเตหะราน  ประเทศอิหร่าน ใช้เป็นสถานที่ชุมนุมประท้วงครั้งใหญ่ของอิหร่าน ประเทศแห่งโลกมุสลิม โดยในปี 1979   เกิดการปฏิวัติอิสลามในประเทศอิหร่านเพื่อโค่นล้มราชวงศ์ชาห์
จากนั้น อญาโตลอฮ์ รุโฮลาห์ โคไมนี ผู้นำศาสนาอิสลามนิกายชีอะต์ ได้ประกาศเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองอิหร่านเป็นสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน โดยใช้หลักการทางศาสนาอิสลามเป็นแนวทางในการปกครองประเทศ และในช่วงเหตุการณ์นี้ เคยถ่ายทอดผ่าน ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม รางวัลออสการ์ปี 2013 จากหนังเรื่อง Argo ด้วย
.  Azadi Square

อันดับ 3. Wenceslas Square - ปราก
จัตุรัสเวนเซสลาส เป็นข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์ทั่วโลกเมื่อปี 1989 จากเหตุการณ์ ปฏิวัติกำมะหยี่ หรือ The Velvet Revolution   ซึ่งการปฏิวัติชุมนุมประท้วงครั้งนี้ไม่มีการเสียเลือดเนื้อแต่อย่างใด นอกจากนี้ยังเป็นการโค่นล้มรัฐบาลคอมมิวนิสต์ ที่ครองอำนาจในเช็กมานานกว่า 40 ปีอีกด้วย นอกจากนี้ ในช่วงปี 1968 ที่แห่งนี้เ คยใช้เป็นที่ชุมนุมประท้วง สหภาพโซเวียต ซึ่งจะพยายามบุกรุกเช็กโกสโลวาเกียในขณะนั้นด้วย และปัจจุบัน นี่คือสถานที่ท่องเที่ยวของเช็ก ที่ผู้คนมักจะมาเดินเล่น และใช้ชีวิตอย่างเพลิดเพลิน เพราะมีทั้งร้านอาหารและร้านค้ามากมาย

อันดับ 2. Tiananmen Square - ปักกิ่ง
จัตุรัสเทียนอันเหมิน  ที่กรุงปักกิ่ง ที่สถานที่แห่งรอยน้ำตา และคราบความทุกข์ระทมของชาวจีนนับแสน โดยการประท้วงเริ่มต้นในวันที่ 15 เมษายนและถูกปราบปรามด้วยกำลังในวันที่ 4 มิถุนายน  1989 เมื่อรัฐบาลประกาศกฎอัยการศกและส่งกองทัพเข้ายึดครองส่วนกลางของกรุงปักกิ่ง  , นักศึกษาชาวจีนร่วมชุมนุมประท้วงกันที่จัตุรัสแห่งนี้ เพื่อต่อต้านพรรคคอมมิวนิสต์ เรียกร้องประชาธิปไตยและเสรีภาพ มีผู้เข้าร่วมชุมนุมนับแสนคน มีผู้เสียชีวิตประมาณ 2,500 คนบาดเจ็บ 7,000-10,000 คน แต่การประท้วงนี้ก็ไม่ประสบความสำเร็จ  ปัจจุบัน พรรคคอมมิวนิสต์จีนครองอำนาจ และเพิ่งจะฉลองครบรอบ 100 ปีไปเร็วๆนี้

.Tiananmen Square

อันดับ 1.Tahrir Square -ไคโร
จัตุรัสทาห์รีร หรือ "จัตุรัสการปลดปล่อย" เป็นจัตุรัสสาธารณะขนาดใหญ่ในกรุงไคโร ประเทศอิยิปต์ โดยจัตุรัสแห่งนี้ เพิ่งจะผ่านการชุมนุมประท้วงในโลกการเมืองสมัยใหม่  โดยในช่วงปลายปี 2010 มีเหตุการณ์สำคัญหนึ่งที่เกิดขึ้นในประเทศแถบตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ นั่นคือการลุกฮือของประชาชนเพื่อต่อต้านรัฐบาล หรือที่เรียกว่า ‘อาหรับสปริง’ (Arab Spring)  โดยในช่วงต้นปี 2011 ประชาชนอียิปต์ออกมาประท้วงเพื่อเรียกร้องให้ประธานาธิบดี ฮอสนี มูบารัค ซึ่งครองอำนาจมายาวนานกว่า 30 ปี ลาออกจากตำแหน่ง และในการประท้วงครั้งนี้ จัตุรัสทาห์รีร ก็รับบทบาทสำคัญด้วยการเป็นฉากหลังการชุมนุมของมวลชนชาวอียิปต์ที่แห่แหนมาจากทั่วทุกภูมิภาคเพื่อต่อต้านรัฐบาล

Tahrir Square

อันดับพิเศษ Hyde Park  - ลอนดอน
ทั้งนี้ นิตยสารไทม์ ไม่ได้จัดอีกหนึ่งสถานที่ที่โด่งดังในการชุมนุมประท้วงของโลกไว้ แต่คนไทยและคนทั้งโลกรู้จักกันดี นั่นคือ ไฮด์ปาร์ค (Hyde Park) สวนสาธารณะที่อังกฤษ อยู่ใจกลางลอนดอน โดยสวนแห่งนี้ จะมีพื้นที่หนึ่งที่เรียกว่า Speakers’ Corner ซึ่ง Speakers’ Corner ใช้เรียกพื้นที่มุมทิศตะวันออกเฉียงเหนือของสวน ซึ่งมักมีคนมาชุมนุมกันเพื่อพูดคุยสนทนา วิพากษ์วิจารณ์ เรียกร้อง หรืออะไรก็ตามแต่ที่พวกเขาต้องการที่จะ “พูด” ได้อย่างอิสระ จนเป็นที่มาของคำว่า  "ไฮด์ปาร์ค"
.
ไฮด์ปาร์ค ไม่ใช่เพียงแค่การกล่าวโจมตีให้ร้ายกันอย่างเดียวเท่านั้น แต่ด้วยการพูดที่ถูกวางบนหลักของเสรีภาพ นั่นจึงก่อให้เกิด “การวิพากษ์วิจารณ์” อย่างมีเหตุมีผลบนหลักการของ “ประชาธิปไตย” นั่นเอง.