svasdssvasds

โควิดสายพันธุ์แลมบ์ดา ลุกลามกว่า 30 ประเทศ ห่วงหลบภูมิคุ้มกันจากซิโนแวค

โควิดสายพันธุ์แลมบ์ดา ลุกลามกว่า 30 ประเทศ ห่วงหลบภูมิคุ้มกันจากซิโนแวค

เปิดข้อมูลรายชื่อประเทศ โควิดสายพันธุ์แลมบ์ดา ซึ่งพบครั้งแรกที่เปรู เริ่มขยายวง ลุกลามกว่า 30 ประเทศ ขณะที่ สธ. มาเลเซีย มีข้อกังวลว่า โควิดสายพันธุ์แลมป์ดา อาจรุนแรงกว่าสายพันธุ์เดลต้า ขณะที่ผลวิจัยพบสายพันธุ์แลมป์ดามีฤทธิ์หลบภูมิคุ้มกันจากวัคซีนซิโนแวค ได้

ต้นกำเนิดโควิดสายพันธุ์แลมบ์ดา

องค์การอนามัยโลก เพิ่งจะ เพิ่มชื่อ โควิดสายพันธุ์แลมบ์ดา ซึ่งพบครั้งแรก เมื่อ ธ.ค. 2020 ที่ประเทศเปรู  หรือชื่ออย่างเป็นทางการ คือ C.37 ลงในรายชื่อสายพันธุ์ต้องให้ความสนใจ (VOI) เมื่อช่วงกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เนื่องจากมีการระบาดมากขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญในทวีปอเมริกาใต้ ในช่วงเดือนที่แล้ว  

สำหรับ ปัจจุบันโควิดสายพันธุ์แลมบ์ดา ยังอยู่ในกลุ่มของ โควิดสายพันธุ์ที่ต้องให้ความสนใจ (Variants of Interest; VOI) เหมือนเดิม  ยังไม่ได้เข้าไปในกลุ่มโควิดสายพันธุ์ที่ต้องกังวล (Variants of Concern; VOC) ซึ่งปัจจุบัน มีอยู่ 4 สายพันธุ์ นั่นคือ  สายพันธุ์อัลฟา , สายพันธุ์เบตา, สายพันธุ์แกมมา  และ โควิดสายพันธุ์เดลต้า ที่กำลังจะเป็นสายพันธุ์หลักของโลก

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สธ. มาเลเซียกังวล แลมบ์ดาอาจโหดกว่าเดลต้า

อย่างไรก็ตาม กระทรวงสาธารณสุขมาเลเซียที่ชี้ว่า กำลังมีความกังวล ถึงไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์แลมป์ดา  ซึ่งอาจมีแนวโน้มรุนแรงกว่าไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้า ที่กำลังระบาดอยู่ในตอนนี้

รายงานระบุว่า โควิดมาเลเซีย ยังระบุด้วยว่า ไวรัสโควิดสายพันธุ์แลมป์ดา มีฤทธิ์หลบภูมิคุ้มกันที่ได้จากการฉีดวัคซีนซิโนแวคอีกด้วย ซึ่งสอดคล้องกับผลการวิจัยในประเทศชิลีที่เคยศึกษามาก่อนหน้านี้

นอกจากนี้ ทวิตเตอร์ของกระทรวงสาธารณสุขมาเลเซีย อ้างอิง ชี้ว่าไวรัสสายพันธุ์นี้พบครั้งแรกในประเทศเปรู  ซึ่งเป็นประเทศที่กำลังมีอัตราการเสียชีวิตสูงที่สุดในโลก ขณะเดียวกันสายพันธุ์แลมป์ดายังแพร่กระจายไปแล้วกว่า 30 ประเทศ

อย่างไรก็ตาม แม้ กระทรวงสาธารณสุขมาเลเซีย จะเป็นกังวลว่า โควิดสายพันธุ์แลมป์ดาจะมีความอันตราย แต่ ณ เวลานี้ก็ยังไม่มี ผู้ติดเชื้อสายพันธุ์นี้ในประเทศมาเลเซีย จากการอ้างอิง www.gisaid.org ข้อมูล ณ วันที่ 7 กรกฏาคม

Cover
   

infolambda

เช็กลิสต์รายชื่อประเทศ แลมบ์ดา ระบาด

สำหรับ รายงานการระบาดของโควิดสายพันธุ์แลมบ์ดา ณ ตอนนี้ กระจายไปแล้ว 31 ประเทศทั่วโลกอย่างเป็นทางการ โดยที่ประเทศ ชิลี ถือว่ามีผู้ป่วยโควิดสายพันธุ์แลมบ์ดามากที่สุด ในโลกตอนนี้
 

ขณะที่ เปรู ประเทศต้นตอของโควิดสายพันธุ์แลมบ์ดา มีผู้ป่วยจากเชื้อ C.37 อยู่ที่ อันดับ 3 ของโลก ที่จำนวน 242 คน แต่ใน 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา ไม่มีผู้ติดเชื้อสายพันธุ์แลมบ์ดารายใหม่ในประเทศเลย

1. ชิลี  มีผู้ติดเชื้อยืนยัน 840 ราย
2. สหรัฐอเมริกา มีผู้ติดเชื้อยืนยัน 635 ราย
3. เปรู  มีผู้ติดเชื้อยืนยัน 242 ราย
4. เยอรมนี มีผู้ติดเชื้อยืนยัน 99 ราย
5. เม็กซิโก มีผู้ติดเชื้อยืนยัน 98 ราย
6. อาร์เจนติน่า มีผู้ติดเชื้อยืนยัน 87 ราย
7. สเปน มีผู้ติดเชื้อยืนยัน 55 ราย
8. เอกวาดอร์ มีผู้ติดเชื้อยืนยัน 51 ราย
9. อิสราเอล  มีผู้ติดเชื้อยืนยัน 25 ราย
10. โคลอมเบีย  มีผู้ติดเชื้อยืนยัน 20 ราย
11. ฝรั่งเศส  มีผู้ติดเชื้อยืนยัน 14 ราย
12. อิตาลี มีผู้ติดเชื้อยืนยัน 11 ราย
13. เซนต์คิตส์และเนวิส มีผู้ติดเชื้อยืนยัน 10 ราย
14. สวิตเซอร์แลนด์ มีผู้ติดเชื้อยืนยัน 9 ราย
15. อิยิปต์ มีผู้ติดเชื้อยืนยัน 8 ราย
16. สหราชอาณาจักร มีผู้ติดเชื้อยืนยัน 7 ราย
17. แคนาดา มีผู้ติดเชื้อยืนยัน 4 ราย
18. บราซิล มีผู้ติดเชื้อยืนยัน 4 ราย
19. โปแลนด์ มีผู้ติดเชื้อยืนยัน 3 ราย
20. อรูบา มีผู้ติดเชื้อยืนยัน 2 ราย
21. โปรตุเกส มีผู้ติดเชื้อยืนยัน 2 ราย
ขณะที่ ประเทศ ลำดับ  22. โบลิเวีย ,23. อุรุกวัย , 24. ตุรกี  , 25. ออสเตรเลีย ,26. ซิมบับเว  , 27. เบลเยียม  , 28. เนเธอร์แลนด์ , 29. คูราเซา ,30. เดนมาร์ก  และ 31. สาธารณรัฐเช็ก มีผู้ติดเชื้อยืนยัน ประเทศละ 1 คน

*** ข้อมูลจาก www.gisaid.org วันที่ 7 ก.ค 2021

 

ขณะที่ ผลการศึกษาวิจัยจากทีมนักวิทยาศาสตร์ในชิลี ซึ่งเป็นประเทศที่มีผู้ป่วยโควิดสายพันธุ์แลมบ์ดา มากที่สุด ในโลก ยังพบว่าการระบาดของไวรัสสายพันธุ์แลมบ์ดาอาจสะท้อนถึงประสิทธิภาพที่ด้อยลงของวัคซีนบางชนิด อาทิ วัคซีนซิโนแวค  แต่ก็มีรายงานผลวิจัยบางฉบับที่เผยแพร่ในอาร์เจนตินาก่อนหน้านี้ ยืนยันว่าวัคซีน สปุตนิค วี ของรัสเซียนั้นมีประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อโควิดสายพันธุ์แลมบ์ดาได้เทียบเท่าสายพันธุ์ปกติ

ส่วนในภูมิภาคอาเซียน แม้ที่มาเลเซีย จะแสดงความเป็นกังวลต่อ โควิดสายพันธุ์แลมบ์ดา แต่ก็ยังไม่มีการพบการแพร่ระบาด ขณะที่ประเทศอื่นๆในอาเซียน ทั้ง อินโดนีเซีย,เวียดนาม หรือ ไทย ก็ยังไม่มีรายงานการพบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์นี้

related