วัคซีนโมเดอร์น่า : ทางเลือกที่จะเรียกความเชื่อมั่นในการฉีดวัคซีนกลับมา

•ข้อมูลวัคซีนโมเดอร์น่าพื้นฐาน

วัคซีนโมเดอร์น่า กลายเป็นวัคซีนลำดับที่ 4 ที่ได้ขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องจาก คณะกรรมการอาหารและยา (อ.ย.) ซึ่งจะมีผลอย่างเป็นทางการ ตั้งแต่ 13 พ.ค. 2564 และใบสำคัญการขึ้นทะเบียนตำรับยานี้มีอายุจนถึง 12 พ.ค 2565
    ทันทีที่การประกาศนี้ออกมา ต้องยอมรับว่า วัคซีนโมเดอร์น่า กลายเป็นจุดสนใจในท่ามกลางการระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทยอีกครั้ง ทั้งนี้ วัคซีนโมเดอร์น่า ถือเป็นวัคซีนรายที่ 4 ต่อจากวัคซีนซิโนแวค, วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า และ วัคซีนจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ที่ได้ขึ้นทะเบียนกับ อ.ย.
    ที่ผ่านมา อ.ย. เคยเปิดเผยว่า  วัคซีนยี่ห้อใดที่มีการขึ้นทะเบียนในประเทศแล้ว หากจะมีเอกชนสนใจนำเข้ามาฉีดให้ประชาชน ก็สามารถดำเนินการได้เลย ดังนั้นวัคซีนโมเดอร์น่าก็จะเป็นวัคซีนทางเลือกในไทยทันที
    โดย วัคซีนโมเดอร์น่านั้น มีใช้ในประเทศราวๆ 52 ประเทศ โดยมีสหราชอาณาจักร และสวิตเซอร์แลนด์ เป็นหัวหอกหลักที่ใช้วัคซีนโมเดอร์น่าอย่างเต็มรูปแบบ ขณะที่ประเทศยักษ์ใหญ่ อาทิ เยอรมนี , ฝรั่งเศส , สหรัฐ ใช้วัคซีนโมเดอร์น่ากันโควิด-19 ในรูปแบบวัคซีนฉุกเฉิน  ขณะที่เอเชีย มีเกาหลีใต้,สิงคโปร์ ที่ใช้

• โมเดอร์น่าพร้อมลุยกับโควิดมาแต่แรก

สำหรับวัคซีนโมเดอร์น่า เป็นวัคซีนที่ผลิตจากเทคโนโลยี วัคซีนmRNA กล่าวให้เข้าใจแบบง่ายที่สุดคือ  เมื่อฉีดวัคซีนเข้าสู่ร่างกาย สาร mRNA จะสั่งการให้เซลล์ร่างกายผลิตหนามโปรตีนที่ใกล้เคียงกับไวรัสขึ้นมาเอง เมื่อผลิตโปรตีนขึ้นมาแล้ว เซลล์ในร่างกายจะผลิตแอนติเจน  หลังจากนั้นระบบภูมิคุ้มกันที่สร้างขึ้นเพื่อตอบสนองต่อโปรตีนนี้คือสิ่งแปลกปลอม จากนั้นแอนติเจนก็จะผลิตแอนติบอดีเพื่อกำจัดหนามโปรตีนดังกล่าวออกไป ดังนั้นเมื่อไวรัสโควิด-19 ของจริง เข้าร่างกายร่างกายจะจดจำเชื้อได้และสามารถจัดการได้ในทันที
    โดยวัคซีน mRNA มีความปลอดภัยสูง เพราะไม่มีเชื้อไวรัสที่มีชีวิตหลงเหลือ ไม่เกิดความเสี่ยงต่อร่างกาย เชื่อถือได้ และผลิตได้ง่าย เสียค่าใช้จ่ายน้อย
    ดังนั้น เมื่อโควิด-19 ระบาดขึ้นใหม่ๆ  การมุ่งโฟกัสเฉพาะการสร้างวัคซีนและแนวทางการรักษาโดยใช้ mRNA ทำให้วัคซีนโมเดอร์น่ามีความเชี่ยวชาญมากพอที่จะนำเทคโนโลยีนี้ไปสู้กับโควิด  ซึ่งเมื่อตอนได้รับรหัสพันธุกรรมเชื้อโควิด จากจีนในวันที่ 11 ม.ค. 2563 วัคซีนโมเดอร์น่าเรียกได้ว่าอยู่ในสถานะที่พร้อมพัฒนาวัคซีนโควิดในทันที

• จุดเด่นวัคซีนโมเดอร์น่า

เป็นวัคซีนที่กระตุ้นภูมิต้านทานได้สูงเกินกว่าภูมิต้านทานจากพลาสมาผู้ป่วยติดเชื้อโควิด 3.4 เท่า พร้อมตัวเลขประสิทธิผลการทดสอบเฟส 3 สูงถึง 94.1% พอๆกับกับวัคซีนโนวาแวค และ วัคซีนPfizer
    และเมื่อฉีดวัคซีนเข็มที่สองไปแล้ว 14 วัน , ป้องกันการติดโรคได้ 94.1% ในประชากรทั่วไป ,ลดความรุนแรงของโรค 100% , ลดอัตราการเสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19 ได้ 100%
    สำหรับ วัคซีนโมเดอร์น่า จะมีราคาอยู่ที่ โดสละราวๆ 25 - 37 ดอลลาร์ต่อโดส (ประมาณ 780 - 1,155 บาท)  โดยจะต้องฉีด 2 โดส เป็นระยะเวลาห่างกัน 28 วัน
    ขณะที่ การจัดเก็บ วัคซีนโมเดอร์น่าสามารถเก็บไว้ได้นานถึง 6 เดือนในอุณหภูมิ -20 องศาเซลเซียส แต่ระยะเวลาจะลดลงมาเหลือ 30 วัน หากเก็บไว้ในอุณหภูมิระหว่าง 2 ถึง 8 องศาเซลเซียส

• บล็อกเชื้อกลายพันธุ์ได้

เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา มีการเปิดเผยว่า  ทดลองทางคลินิกขณะนี้ว่า วัคซีนโมเดอร์น่าสำหรับฉีดกระตุ้น (booster shot) เพื่อป้องกันโรคโควิด-19 สามารถเสริมสร้างการตอบสนองของภูมิคุ้มกันต่อไวรัสชนิดกลายพันธุ์ สายพันธุ์อังกฤษ  (B.1.17) ,สายพันธุ์แอฟริกาใต้ ( B.1.351 ) และ โควิดสายพันธุ์บราซิล (P.1) ได้ด้วย
    ขณะที่ สายพันธุ์อินเดีย ซึ่งกำลังระบาดอย่างรุนแรงที่สุด กระจายไปมากกว่า 44 ประเทศแล้วกัน มีคำแถลงจาก  องค์การยาแห่งสหภาพยุโรป (EMA) คาดการณ์ว่าวัคซีนซึ่งผลิตด้วยเทคโนโลยีเอ็มอาร์เอ็นเอ (mRNA) และวัคซีนโมเดอร์น่าเป็นหนึ่งในวัคซีนที่ใช้เทคโนโลยีนี้   จะมีประสิทธิภาพป้องกันเชื้อไวรัสฯ ชนิดกลายพันธุ์ได้ด้วย
    โดยที่ผ่านมา  วัคซีนโมเดอร์น่า ก็มีข้อเสีย โดยมีผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีน อย่างที่เคยปรากฏมาตามหน้าสื่อ อาทิ การเจ็บปวดบริเวณจุดที่ฉีดวัคซีน, เหนื่อยล้า, ปวดศีรษะ รวมถึงการปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อและข้อต่อ แต่อาการควรจะต้องดีขึ้นหลังจากนั้นในระยะเวลา 2-3 วัน

•ประเทศชั้นนำยังต้องการโมเดอร์น่า

ในปัจจุบัน วัคซีนโมเดอร์น่า ยังเป็นที่ต้องการของประเทศชั้นนำเพิ่มอีก อาทิ ที่ออสเตรเลีย โดยปัจจุบัน ดินแดนจิงโจ้กำลังเจอกับปัญหาฉีดวัคซีนให้ประชาชนน้อยกว่าที่คาดการณ์กันไว้  ก็เลยสั่งซื้อวัคซีนโมเดอร์น่าอีก 25 ล้านโดส     
    โดยจะรีบฉีดให้ประชาชนให้ได้ 10 ล้านโดสภายในปีนี้ และจะได้รับวัคซีนกระตุ้นที่มีประสิทธิภาพป้องกันเชื้อโควิดที่ปรับปรุงสายพันธุ์ใหม่ 15 ล้านโดสในปีหน้า

    การที่ประเทศไทย อนุมัติวัคซีนโมเดอร์น่า ถือเป็นเรื่องที่ดี เป็นแสงสว่างแห่งความหวังเพราะในเมื่อประชาชนไทยมีทางเลือกเยอะขึ้น ทุกคนมีสิทธิ์เลือก...และทุกคนคงเลือก "สิ่งที่ดีที่สุด" ในเวลานั้นนั้นให้กับตัวเอง