เปิดรายได้ค่าแรงขั้นต่ำ ประเทศป็อปปูลาร์ที่คนไทยนิยม "ย้ายประเทศกันเถอะ"

 •อเมริกา

ดินแดนแห่งความเสรีที่มีคนไทยไปเป็น "โรบินฮู้ด" มากมายตั้งแต่ช่วงกลางยุค 1970s จนกระทั่งทุกวันนี้ก็ยังมีคนไทยไปตั้งรกรากใหม่อยู่เรื่อยๆ ถ้าใครจะย้ายไปรับรองไม่มีความเหงาเกาะกินหัวใจ เพราะที่ประเทศแห่งนี้ มีคนไทยอยู่มากที่สุด โดยตัวเลขอย่างเป็นทางการ คือราวๆ 488,000 คน (แต่เชื่อว่ายอดจริงๆ ย่อมสูงกว่านี้แน่นอน)
     ที่ดินแดน "ลุงแซม" มีค่าแรงขั้นต่ำ ในแต่ละรัฐไม่เท่ากัน แต่อยู่ในช่วงความกว้าง 256-427 บาท ต่อชั่วโมง กติกาคือทำงาน วันละไม่เกิน 8 ชั่วโมง
     ขณะที่เรื่องภาษีบุคคลธรรมดา ขึ้นอยู่กับรัฐ มีเก็บตั้งแต่ 3-12% และแยกออกเป็นสองส่วน ทั้งรัฐบาลกลาง และรัฐบาลท้องถิ่น แต่ในบางรัฐอาจไม่มีการจัดเก็บ

•ออสเตรเลีย

ดินแดนแห่งจิงโจ้ครองเมืองอย่างออสเตรเลีย มีความป็อปปูลาร์จากคนไทย เป็นลำดับที่ 2 โดยมี คนไทยอาศัยอยู่ราวๆ 1 แสนคน ณ ที่แห่งนี้ แรงงานขั้นต่ำอยู่ที่ 478 บาท ต่อชั่วโมง ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มประเทศที่มีแรงงานขั้นต่ำสูงมาก เพราะที่จริงแล้วปีนี้ ออสเตรเลียเพิ่งปรับค่าจ้างแรงงานขึ้นมา 1.75 %  โดยแรงงานที่นี่ ทำงานได้ 38 ชั่วโมงต่อสัปดาห์

ขณะที่ ในแง่ของการจัดเก็บภาษี มีการจัดเก็บแบบ อัตราก้าวหน้า 0-45%  แต่ถ้าหากรายได้ไม่เกิน 4.39 แสนบาท ไม่ต้องเสียภาษี
 
•ญี่ปุ่น

ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งถึงแม้จะยังจัดการกับปัญหาโควิด19 ยังไม่ดี และยังมีการล็อกดาวน์อยู่ในบางจังหวัด แต่โดยรวมแล้ว ประเทศแห่งนี้ยังคงเป็นดินแดนในฝันของใครหลายๆ คน เพราะมีคนไทยไปอยู่ที่ดินแดนอาทิตย์อุทัย ราวๆ เกือบ 9 หมื่นคน

ที่แห่งนี้ ได้รับความนิยมในฐานะประเทศที่คนไทยอยากมาท่องเที่ยวมากที่สุด แต่หากจะมาตั้งรกรากนั้น ณ เข็มนาฬิกาเดินอยู่ในปัจจุบัน ค่าแรงต่อชั่วโมงอยู่ที่ 257 บาท ทำงานไม่เกินวันละ 8 ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีการเก็บภาษีที่สูงมาก ถึง 55.95% แบ่งเป็นภาษี ในอัตราก้าวหน้า 5-45%  และอาจต้องโดนกับภาษีท้องถิ่นอีก 10 %

•ไต้หวัน 

เกาะแห่งนี้ นับได้ว่าเป็นอีกประเทศที่เป็นเป้าหมายของคนไทย ที่ไม่เกินความฝันอะไรเลย , ที่นี่มีการจัดการที่ดี นับตั้งแต่มาตรการโควิด19 ที่ผู้นำหญิงอย่าง ไช่ อิงเหวิน ดูแลจัดการได้เป็นอย่างดี  การเดินทางเชื่อมเกาะทั้งเกาะด้วยรถไฟความเร็วสูง ที่ไปไหนสะดวกสบาย

ที่นี่ มีค่าแรงขั้นต่ำต่อชั่วโมง อยู่ที่ 178 บาท โดยทำงานไม่เกินวันละ 8 ชั่วโมง ส่วนการเก็บภาษี อยู่ที่ 5-40% เป็นอัตราก้าวหน้า  ขณะที่ รายได้ตั้งแต่ 20,359.48 บาท/เดือน ขึ้นนั้น ไปเสีย 5.1% เป็นค่าประกันสังคม
    
• สวีเดน

มากันที่ยุโรปในแถบสแกนดิเนเวียกันบ้าง , ประเทศนี้เพิ่งโพสต์ข้อความผ่านโลกออนไลน์เชิญชวนให้ผู้ที่สนใจย้ายไปอยู่สวีเดน สามารถไปได้เลยหากเข้าหลักเกณฑ์ 

แม้ที่นี่จะมีอากาศหนาวเหน็บ แต่ก็มีคนไทยไปอยู่ถึง 75,000 คน และที่นี่ มีการเก็บภาษีที่อยู่ในกลุ่มอันดับแรกๆของโลก แต่ทุกอย่างจะคืนมาในแง่ของสวัสดิการในการเป็นพลเมืองสวีดิช ตามรายงานอ้างว่า สวีเดน เก็บภาษีบุคคลธรรมดา ในอัตราสูงถึง 57.19%

อย่างไรก็ตาม ถ้าหากรายได้ไม่เกิน 1.9 ล้านบาท  เสียแต่ภาษีท้องถิ่น 32%  หากเกินต้องเสียภาษีรัฐบาลกลางเพิ่ม 20%  ส่วนอัตราแรงงานขั้นต่ำต่อชั่วโมง อยู่ที่ 461 บาท ทำงาน 8 ชั่วโมง เท่าๆกับค่าเฉลี่ยของประเทศอื่นๆ

•เยอรมนี

ประเทศเยอรมนี มีคนไทยอาศัยอยู่เกือบ 6 หมื่นคน ที่นี่เต็มไปด้วยความเป็นระเบียบและกฏที่เข้มตามสไตล์ของคนด๊อยช์  ค่าแรงงานขั้นต่ำอยู่ที่ 356 บาทต่อชั่วโมง ขณะที่อัตราการเก็บภาษี มีตั้งแต่ 0-45 %  แต่ถ้าหากรายได้ไม่เกิน 3.6 แสนบาทต่อปี ไม่ต้องเสียภาษีเลย.

•สหราชอาณาจักร

นับเป็นประเทศยอดฮิตของคนไทย โดยเป้าหมายหลักๆ คือการไปเรียนต่อ ไปท่องเที่ยว แต่ถ้าหากไปลงหลักปักฐาน ณ ดินแดนสหราชอาณาจักร ที่รวมทั้งอังกฤษ,สกอตแลนด์,เวลส์ และไอร์แลนด์เหนือ ณ ประเทศแห่งนี้ มี ค่าแรงขั้นต่ำอยู่ที่ 385 บาทต่อชั่วโมง  ทำงาน 8 ชั่วโมงต่อวัน  ขณะที่ประเด็นการเก็บภาษี เป็นไปในแบบ อัตราก้าวหน้า 0-45%  แต่หากรายได้ไม่เกิน 544,522.94 บาทต่อปี  ไม่ต้องเสียภาษี  โดยภาษีนั้นทั้งหมดจะรีเทิร์นโดยถูกนำไปใช้ในระบบสาธารณสุขต่างๆ

•เกาหลีใต้

ในช่วงโควิด19 ระบาดใหม่ ๆ หากยังจำกันได้ มีประเด็นเรื่อง "ผีน้อย" ที่ร้อนแรงในกระแสโซเชียลเนทเวิร์ก ที่ออกมาเปิดเผยว่า รายได้ต่อวัน ตกวันละ 2,000 บาทด้วยซ้ำ โดยมีการเปิดเผยว่า งานที่คนไทยส่วนใหญ่เข้าไปค้าแรงงานในประเทศเกาหลีใต้ เป็นงานที่คนเกาหลีใต้ไม่อยากทำ เพราะค่านิยมของคนเกาหลีใต้นิยมทำงานในกิจการขนาดใหญ่หรือกิจการที่มีเทคโนโลยีระดับสูงและไม่ชอบใช้แรงงานจากคน
    ดินแดนกิมจิ มีคนไทยอาศัยแบบถูกกฏหมายอยู่ที่ราวๆ 3.5 หมื่นคน โดยแรงงานขั้นต่ำจริงๆแล้ว อยู่ที่ 242 บาทต่อชั่วโมง จัดเก็บภาษีในอัตราก้าวหน้า 6-45%  อย่างไรก็ตาม ที่เกาหลีใต้  มีภาษีท้องถิ่น หากรายได้ไม่เกินไม่ต้องเสีย แต่หากต้องเสียอัตราคือ 10% ของภาษีนิติบุคคลธรรมดาที่ต้องเสีย

•นอร์เวย์

ย้อนกลับมาที่ดินแดนยุโรป ฝั่งสแกนดิเนเวียอีกครั้ง ที่ประเทศนอร์เวย์ มีคนไทยอยู่ที่นี่ ราวๆ 32, 000 คน จากข้อมูลที่หามาได้   งานบริการ เสริฟ ชม.ละ 167.90 (ราวๆ 626 บาท)  หรือ งานทำความสะอาด 187.66 kr. (ราวๆ 700 บาท) ต้องทำงาน โดยปกติอยู่ที่ 37.5 ชั่วโมงต่อสัปดาห์  ขณะที่การจัดเก็บภาษี ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 22 เปอร์เซนต์   และมีการเก็บ  1.9-16.2% อัตราก้าวหน้าตามแต่ละบุคคลหารายได้ด้วย

•อิสราเอล  

ปิดท้ายที่ประเทศอิสราเอล ประเทศที่มีการระดมฉีดวัคซีนมากที่สุด โดยใน 100 คนสามารถฉีดไปแล้วถึง 58 คน ทำให้มีภูมิคุ้มกันหมู่แล้ว  ณ ปัจจุบันที่อิสราเอล มีคนไทย ไปพำนักอยู่ที่  27,000  คน
    สำหรับที่อิสราเอลนั้น ประเทศไทยมี โควตาจัดส่งแรงงานไปยังอิสราเอล ปีละ 5,000 คน โดยแรงงานที่เดินทางไปขายแรงที่อิสราเอลนั้น  งานจะได้รับเงินเดือนขั้นต่ำก่อนหักภาษี เดือนละ 5,300 เชคเกลอิสราเอล หรือประมาณ 48,073 บาทต่อเดือน  ส่วนการจัดเก็บภาษี ถ้าหากใครที่มีรายได้ ไม่ถึง 6,330₪ (เชคเกลอิสราเอล) ต่อเดือน  หรือราวๆ 57, 000 บาท ไม่ต้องเสียภาษีรายได้บุคคลธรรมดาเลย

แต่โดยปกติแล้ว มีการเก็บภาษีในรูปแบบอื่นๆ และอยู่ในอัตราก้าวหน้าตั้งแต่ 0-50% ขณะที่ภาษีนิติบุคคล โดนเก็บ 23 %

    ข้อมูลชุดนี้ยังเป็นเพียงข้อมูลมาตรฐาน ที่อาจไม่ครบถ้วนในทุกประเภทของค่าใช้จ่ายขั้นพื้นฐานที่ต้องจ่ายให้แก่รัฐ เช่น ในบางประเทศอาจมีค่าภาษีวิทยุและโทรทัศน์ เป็นต้น

การ "ย้ายประเทศกันเถอะ" จากข้อมูลในเบื้องต้นจะเห็นว่า รายได้ที่ดี แต่สิ่งที่ต้องแลกก็คือการเก็บภาษีในอัตราที่สูงขึ้น แต่ทุกสิ่งทุกอย่างก็แลกเปลี่ยนมาซึ่งสวัสดิการ ทำให้ชีวิตมีความมั่นคง ปลอดภัยในปัจจัยพื้นฐานในการใช้ชีวิต