สิงคโปร์สั่งบุคคลเดินทางเกี่ยวข้องกับไทย ต้องกักตัว 14 วัน ในสถานที่รัฐ

รัฐบาลสิงคโปร์ประกาศว่า นับตั้งแต่วันที่ 3 พ.ค. เป็นต้นไป บุคคลทุกสัญชาติซึ่งมีประวัติการเดินทางเกี่ยวข้องกับไทยในรอบ 14 วันล่าสุด ต้องกักตัวเป็นเวลา 14 วันในสถานที่กักกันของรัฐเท่านั้น จากเดิมสามารถกักตัวในสถานที่ซึ่งจัดหาเอง และแจ้งกับเจ้าพนักงานควบคุมโรค. หลังจากล่าสุด สิงคโปร์ เพิ่งพบผู้ติดเชื้อโควิด19 แบบเป็นกลุ่มก้อน เชื่อมโยงกับคลัสเตอร์ใหม่ในโรงพยาบาลตัน ต็อก เส็ง ซึ่งเป็นหนึ่งในโรงพยาบาลที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ โดยผู้ติดเชื้อในกลุ่มนี้รวมถึงแพทย์ และพยาบาล ที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบครอสแล้ว นับได้ว่าเป็นการเจอ "คลัสเตอร์ใหม่" ครั้งแรกในรอบ 9 เดือนของสิงคโปร์

นอกจากนี้ สิงคโปร์ ยังประกาศอีกว่า นับตั้งแต่วันที่ 2 พ.ค.นี้เป็นต้นไป กระทรวงการต่างประเทศและเจ้าหน้าที่ประจำจุดผ่านแดนทุกแห่งระงับการออกวีซ่า และการตรวจลงตราหน้าด่านให้กับชาวต่างชาติ ซึ่งมีประวัติการเดินทางและการพำนักในรอบ 14 วันที่ผ่านมา เกี่ยวข้องกับปากีสถาน บังกลาเทศ ศรีลังกา และเนปาล ซึ่งก่อนหน้านี้ สิงคโปร์ระงับการเข้าเมืองของผู้มีประวัติการเดินทางเกี่ยวข้องกับอินเดีย ตั้งแต่วันที่ 23 เม.ย.ที่ผ่านมา เพื่อควบคุมการระบาด มาตรการดังกล่าวครอบคลุมผู้ที่เดินทางเพื่อเปลี่ยนเครื่องบินที่สนามบินในสิงคโปร์ด้วย

ขณะที่พลเมืองสิงคโปร์ และชาวต่างชาติซึ่งมีถิ่นพำนักในสิงคโปร์ยังสามารถเดินทางเข้าเมืองได้ แม้มีประวัติการเดินทางในรอบ 2 สัปดาห์ล่าสุดเกี่ยวข้องกับทั้งสี่ประเทศข้างต้น แต่ต้องเพิ่มระยะเวลากักตัวจาก 14 วันเป็น 21 วัน เนื่องจากเป็นกลุ่มประเทศที่มีพรมแดนติดกัน หรืออยู่ใกล้เคียงกับอินเดีย ที่โรคโควิด19 ระลอกที่สองกำลังแพร่ระบาดอย่างรุนแรง และมีการกลายพันธุ์ซ้ำซ้อนของเชื้อโรค

ปัจจุบัน สิงคโปร์ มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 61,121 คน แต่รักษาหายแล้ว 60,718 คน มียอดผู้ติดเชื้อรายวันอยู่ที่ 35 คน และผู้เสียชีวิตจากโควิด19 ทั้งหมด อยู่ที่ 30 คน