ส่องเพื่อนบ้านอาเซียนรับมือโควิด19 : อาการหนักเกือบทุกประเทศ

• ฟิลิปปินส์ สั่งจำกัดการเดินทาง

ฟิลิปปินส์ สั่งขยายมาตรการจำกัดการเคลื่อนย้ายและการรวมกลุ่มในเมืองหลวง และอีกสี่จังหวัดออกไปอีกสองสัปดาห์ จนถึงกลางเดือนพฤษภาคม เพราะผู้ติดเชื้อยังคงเพิ่มขึ้น และเป็นการชะลอภาระของบุคลากรทางการแพทย์

ทั้งนี้ ฟิลิปปินส์ กำลังเผชิญการระบาดที่วิกฤตสุดชาติหนึ่งในเอเชีย โดยมีผู้ติดเชื้อสะสมทะลุหนึ่งล้านคนแล้ว ทำให้โรงพยาบาลและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอยู่ในภาวะตึงตัว ขณะที่การจัดส่งวัคซีนยังล่าช้า
โรดรีโก ดูแตร์เต ผู้นำประเทศฟิลิปปินส์ แถลงทางโทรทัศน์ว่า เขาขอโทษที่ต้องใช้มาตรการกักกันยาวออกไปอีก แต่มันเป็นเรื่องจำเป็น โดยมาตรการดังกล่าวจะห้ามการเคบลื่อนย้ายที่ไม่จำเป็น การรวมกลุ่ม การทานอาหารในร้าน ในเขตเมโทรมะนิลา และจังหวังบูลากัน ริซัล ลากูนา และคาวิเต้ ออกไปอีกสองสัปดาห์ นับจากวันที่ 1 พฤษภาคม

ณ ปัจจุบัน ฟิลิปปินส์ มีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดสะสมอยู่ที่ 1.02 ล้านคน และเสียชีวิตสะสมมากกว่า 17,000 รายแล้ว  อย่างไรก็ตาม ฟิลิปปินส์ฉีดวัคซีนโดสแรกให้กับประชากรได้เพียง 1.56 ล้านคน  

• ขยายล็อกดาวน์ที่กัมพูชา

กรุงพนมเปญ เมืองหลวงกัมพูชา เตรียมขยายมาตรการล็อกดาวน์จากปัจจุบัน ออกไปอีก 1 สัปดาห์ โดยภายใต้มาตรการล็อกดาวน์รอบใหม่  เพิ่งเริ่มเมื่อพฤหัสบดีที่ 29 เมษายนนั้น รัฐบาลจะผ่อนคลายการเดินทางสำหรับประชาชนบางส่วนที่อยู่ในพื้นที่ “สีเหลือง”ปลอดภัย แต่ยังห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์ และเคอร์ฟิวยังคงมีต่อไป   ส่วนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ “สีแดง”กับ “สีส้ม” ยังคงห้ามออกนอกบ้าน ยกเว้นเหตุผลด้านสุขภาพเท่านั้น   
    ทั้งนี้  กัมพูชา พบผู้ติดโควิด19 พุ่งขึ้นในเดือนเมษายน  ทำให้ต้องดำเนินการล็อกดาวน์  ตั้งแต่วันที่ 15 เมษายน จนถึงวันที่ 28 เมษายน  ขณะที่ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุขกัมพูชา ระบุว่า พบผู้ติดเชื้ออีก 698 คน และเสียชีวิต 6 คน ส่งให้จำนวนผู้ติดโควิด19 เป็น 11,761  คน และเสียชีวิต 88 คน นับตั้งแต่โรคเริ่มระบาด

• มาเลเซีย "เท" แอสตร้าเซนเนก้า

    มาเลเซียยืนยันผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3,142  คน เมื่อวันพุธที่ผ่านมา สูงสุดในรอบสองเดือน ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 401,593 คนและเสียชีวิตสะสม 1,477 ราย  
    ในการระบาดรอบนี้ รัฐที่พบผู้ติดเชื้อมากสุด คือ รัฐสลังงอร์ ตามมาด้วยกลันตัน และกัวลาลัมเปอร์  อย่างไรก็ตาม มาเลเซียจะตัดวัคซีนต้านโควิดของ แอสตร้าเซนเนก้า  ออกจากโครงการฉีดวัคซีนแห่งชาติ เนื่องจากไม่เชื่อมั่นในการใช้วัคซีนตัวนี้ หลังหลายประเทศในยุโรปพบปัญหาลิ่มเลือดอุดตันในผู้ได้รับวัคซีนของ แอสตร้าเซนเนก้า  
    การตัด แอสตร้าเซนเนก้า  ออกไป ทำให้โครงการฉีดวัคซีนแห่งชาติของมาเลเซีย จะเหลือวัคซีนต้านโควิดอยู่เพียง 2 ตัว คือ ไฟเซอร์ และ ซิโนแวค อาจส่งผลกระทบต่อเป้าหมายการฉีดวัคซีนของมาเลเซีย ที่ต้องการฉีดให้ได้เร็วและมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

•อินโดนีเซียติดเชื้อเยอะสุดในภูมิภาค

ด้านประเทศอินโดนีเซีย ถือเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อเยอะที่สุดในภูมิภาค ยอดผู้ติดเชื้ออยู่ที่ 1.6 ล้านคน  ผู้ติดเชื้อรายวัน อยู่ที่ราวๆ 5,241 คน และยอดผู้เสียชีวิตรวม 45,116 คน
    อย่างไรก็ตาม อินโดนีเซีย  เพิ่งได้รับวัคซีนป้องกันโควิด19 จำนวน 3.85 ล้านโดส จากโครงการโคแวกซ์ เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าเป็นวัคซีนชุดที่สองแล้ว หลังจากพวกเขาได้ล็อตแรกตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม จำนวน 11 ล้านโดส
    ทั้งนี้ อินโดนีเซียเริ่มระดมฉีดวัคซีนตั้งแต่ต้นปี โดยมีเป้าหมายฉีดวัคซีนให้ประชากร 181.5 ล้านคน ให้เสร็จสิ้นภายในปีหน้า

•เวียดนามเจอผู้ติดเชื้อท้องถิ่นครั้งแรกรอบ 35 วัน
    ยังมีสัญญาณดีๆอยู่บ้างในอาเซียนในประเทศเวียดนาม  แม้เวียดนามเพิ่มความเข้มงวดมาตรการป้องกันโควิด19 หลังพบผู้ติดเชื้อในท้องถิ่นครั้งแรกรอบ 35 วัน โดยติดจากคนที่เดินทางกลับมาจากญี่ปุ่น
    การพบผู้ติดเชื้อครั้งนี้ ทำให้รัฐบาลเวียดนามสั่งการให้หน่วยงานรัฐและจังหวัด เพิ่มความเข้มงวดของมาตรการคัดกรอง, ควบคุม และการตามรอยการติดเชื้อ อย่างไรก็ตาม การติดเชื้อล่าสุดถูกพบก่อนจะถึงช่วงหยุดยาว 4 วันซึ่งจะเริ่มขึ้นในวันนี้ 30 เม.ย. นี้ ซึ่งเวียดนามกำลังยกระดับมาตรการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดการระบาดระลอกที่ 4
    ที่ผ่านมา เวียดนาม ได้รับคำชมอย่างมาก ในการควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด19 ทั้ง 3 ระลอกที่เกิดขึ้นในประเทศ ด้วยมาตรการกักตัวและการตามรอยการติดเชื้อที่เข้มงวด ทำให้จนถึงตอนนี้พวกเขาพบผู้ติดเชื้อในประเทศเพียง 2,910 ราย และเสียชีวิต 35 ศพ เท่านั้น

•ชีวิตดีๆที่เลือกได้ที่สิงคโปร์

หลังจากสิงคโปร์ กลายเป็น เป็นประเทศที่รับมือกับโรคโควิด-19 (The Covid Resilience) ได้ดีที่สุดในโลก โดยคะแนนแซงหน้า นิวซีแลนด์ และออสเตรเลีย จากกการจัดนิตยสาร Bloomberg  ล่าสุด สิงคโปร์ฉีดวัคซีนไปแล้วเกือบ 20 %จากจำนวนประชากรทั้งหมด 5.7 ล้านคน และทั้งหมดเป็นวัคซีนชนิด mRNA จากบริษัท ไฟเซอร์-ไบออนเทค (Pfizer/BioNTech) และ โมเดอร์น่า (Moderna) ซึ่งมีประสิทธิภาพมากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว และประชาชนที่นี่ มีสิทธิ์เลือกได้ว่าจะฉีดวัคซีนชนิดใด

• ส่อง : สปป.ลาว, เมียนมา,บรูไน
    ขณะที่สถานการณ์ในประเทศอื่นๆ อาทิ สปป.ลาว เพิ่งได้รับมอบวัคซีนล็อตที่ 3 จากประเทศจีน โดยเป็นตัววัคซีนซิโนฟาร์ม ซึ่งตัวนี้ถือว่าปลอดภัยเชื่อถือได้  โดยปัจจุบันสปป.ลาว มีผู้ติดเชื้อรายวัน อยู่ที่ 93 คน ผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 604 คน และยังไม่มีผู้เสียชีวิตเลย
    ด้าน เมียนมา สถานการณ์โควิด19 ยังไม่สู้ดี  ผู้ติดเชื้อโควิด สะสม 142,790 เสียชีวิตไปแล้ว เกิน 3,200 คน , ด้าน บรูไน ประเทศเล็กๆ มียอดผู้ติดเชื้อ 224  มียอดผู้เสียชีวิตสะสม 3 คน

    การระบาดของโควิด19 รอบนี้ถือว่าหนักหนาสาหัสสำหรับภูมิภาคอาเซียน และทุกประเทศกำลังแก้ไขปัญหาอย่างเต็มที่ เพื่อให้ประชาชนทุกคนกลับมาใช้ชีวิตแบบปกติโดยเร็วที่สุด เพราะคงไม่มีประเทศไหน อยากให้สถานการณ์สาหัสแบบนี้ต่อไป...