พร้อมใจย้าย! สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เผยว่าครอบครัวชาวกัมพูชาซึ่งอาศัยอยู่ในโครงสร้างผิดกฎหมายบนพื้นที่อุทยานโบราณคดีอังกอร์หรือนครวัด สมัครใจโยกย้ายไปยังหมู่บ้านอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เผยว่าครอบครัวชาวกัมพูชาซึ่งอาศัยอยู่ในโครงสร้างผิดกฎหมายบนพื้นที่อุทยานโบราณคดีอังกอร์หรือนครวัด ในจังหวัดเสียมราฐทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ สมัครใจโยกย้ายไปอยู่ในหมู่บ้านอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมรุนตาเอกในเขตบันทายศรี และพื้นที่ปากสะเนงในเขตนครธมนอกอุทยานฯ อย่างน้อย 9,065 ครัวเรือนแล้ว
ฮุนเซน กล่าวขณะเยี่ยมเยียนชาวบ้านที่โยกย้ายว่า การดำเนินการครั้งนี้เป็นไปเพื่อรักษาความงามของอุทยานฯ ซึ่งองค์การยูเนสโก (UNESCO) ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกตั้งแต่ปี 1992
“เรายอมรับข้อกำหนดและเงื่อนไขทั้งหมดที่ยูเนสโกกำหนด ตอนเสนอให้มีการขึ้นทะเบียนอุทยานฯ เป็นมรดกโลก เราจึงต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดและเงื่อนไขเหล่านั้น มิฉะนั้นอุทยานฯ อาจถูกถอดออกจากรายการมรดกโลก” ฮุนเซนเปิดเผย
เนื้อหาที่น่าสนใจ :
มอเตอร์ไซด์ฟิลิปปินส์หัวใส ดัดแปลงรถ ยกล้อสูงขึ้น สู้กลับปัญหาน้ำท่วม
10 ประเทศทิ้งขยะพลาสติกลงในทะเลปริมาณมากที่สุด ไทยรั้งอันดับ 5
ถอดนโยบาย Climate Change จาก สี จิ้นผิง : ส่งเสริมอุตสาหกรรมคาร์บอนต่ำ
ฮุนเซนระบุว่าแต่ละครอบครัวที่ย้ายออกไป ได้รับมอบที่ดินกว้าง 20 เมตร และยาว 30 เมตร และบัตรคนยากจน ซึ่งเปิดทางผู้ถือบัตรเข้าถึงเงินช่วยเหลือรายเดือนและค่ารักษาพยาบาลฟรีเป็นเวลา 10 ปี
รัฐบาลกัมพูชาเริ่มย้ายผู้บุกรุกออกจากอุทยานฯ หลังจากยูเนสโกเตือนว่าโบราณสถานแห่งนี้อาจถูกถอดออกจากรายการมรดกโลก เนื่องจากมีการสร้างสิ่งปลูกสร้างผิดกฎหมายจำนวนมากเกินไปในพื้นที่ ซึ่งขัดต่อข้อกำหนดและเงื่อนไขขององค์การฯ ทว่าขณะนี้ยังไม่มีการเปิดเผยจำนวนครัวเรือนซึ่งยังอาศัยอยู่ในพื้นที่อุทยานฯ อย่างแน่ชัด
ทั้งนี้ อุทยานฯ ขนาด 401 ตารางกิโลเมตร เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในกัมพูชา โดยอังกอร์ เอนเทอร์ไพรซ์ (Angkor Enterprise) เผยว่าอุทยานฯ ต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 134,152 คนช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้นร้อยละ 2,075 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน และสร้างรายได้จากการจำหน่ายบัตรเข้าชม 5.36 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 205.64 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 2,012 เมื่อเทียบปีต่อปี
อุทยานนครวัดดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติมากถึง 2.2 ล้านคนในปี 2019 เมื่อช่วงก่อนเกิดโรคระบาดใหญ่ และทำรายได้จากการจำหน่ายบัตรเข้าชม 99 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.79 พันล้านบาท)