svasdssvasds

สนีกเกอร์นวัตกรรมเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดคาร์บอน 1.95 กิโลกรัมต่อคู่

สนีกเกอร์นวัตกรรมเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดคาร์บอน 1.95 กิโลกรัมต่อคู่

ตอนนี้ทุกวงการได้ก้าวเข้าสู้เทรนด์แห่งความยั่งยืนเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและได้งัดนวัตกรรมสุดล้ำที่ช่วยลดมลพิษ ในวงการแฟชั่นก็เช่นกันที่มีการคิดค้นวัสดุและกระบวนการการผลิตรักษ์โลก อย่าง ASICS ที่ได้ผลิตสนีกเกอร์ที่ปล่อยคาร์บอนเพียง 1.95 กิโลกรัม/คู่เท่านั้น

สนีกเกอร์นวัตกรรมเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดคาร์บอน 1.95 กิโลกรัมต่อคู่ สนีกเกอร์โมเดล GEL-LYTE™ III CM 1.95 ของ ASICS ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาเพียงแค่ 1.95 กิโลกรัม ตลอดวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ โดยปล่อยคาร์บอนน้อยยิ่งกว่าสนีกเกอร์ที่ปล่อยคาร์บอนน้อยที่สุดในตลาดในปัจจุบัน โดยถือเป็นก้าวกระโดดที่สำคัญสำหรับ ASICS ที่มีเป้าหมาย ASICS ในการบรรลุการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (net-zero emissions) ภายในปี 2050

นวัตกรรมที่ว่าใช้ระยะเวลากว่า 10 ปีในการวิจัยและพัฒนาสนีกเกอร์ GEL-LYTE™ III CM 1.95 โดยจุดเริ่มต้นนั้นมาจากการที่ ASICS ได้ไปร่วมมือกับ Massachusetts Institute of Technology (MIT) ในช่วงปี 2010 เพื่อหาวิธีในการวัดค่าการปล่อย CO2e ตลอดทั้งวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ของสนีกเกอร์ เพื่อเป็นการพัฒนางานวิจัยและการนำมาประยุกต์ใช้ ASICS สามารถสร้างประโยชน์เพิ่มขึ้นมากมาย สำหรับ 4 ขั้นหลักของวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ (ทั้งในเรื่องวัสดุและการผลิต การขนส่ง อายุการใช้งาน และช่วงที่สินค้าหมดอายุการใช้งาน) โดยทั้งหมดทั้งมวลสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ได้ โดยผลลัพธ์ที่ได้จากงานวิจัยชิ้นนี้คือสนีกเกอร์ GEL-LYTE™ III CM 1.95 ที่สามารถยกระดับความยั่งยืน

เนื้อหาที่น่าสนใจ :

สนีกเกอร์นวัตกรรมเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดคาร์บอน 1.95 กิโลกรัมต่อคู่ สนีกเกอร์ในซีรีส์นี้ใช้โฟมคาร์บอนติดลบตัวใหม่ (Carbon Negative Foam) ที่อยู่บริเวณพื้นรองเท้าชั้นกลางและแผ่นรองพื้นรองเท้าที่ทำจากพอลิเมอร์ที่มาจากธรรมชาติ3 โดยทำมาจากอ้อย เพื่อส่งมอบความสบายอย่างเหนือระดับและคุณภาพที่ยั่งยืน

สนีกเกอร์นวัตกรรมเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดคาร์บอน 1.95 กิโลกรัมต่อคู่ รายละเอียดการดีไซน์อื่นๆ ในรองเท้านั้นยังมีการใช้โพลีเอสเตอร์ที่ผ่านการย้อมและยังผ่านกระบวนการรีไซเคิลเพื่อนำมาเป็นวัสดุในส่วนของอัปเปอร์ของรองเท้า อีกทั้งยังมีผ้าตาข่ายบริเวณแผ่นรองพื้นรองเท้า ซึ่งเป็นการสะท้อนในเป้าหมายของ ASICS ในการค้นหาแหล่งวัตถุดิบโพลีเอสเตอร์ที่ผ่านการรีไซเคิล 100%  ภายในปี 2030  โดยรองเท้าคู่นี้ยังมากับโครงสร้างใหม่โดยการใช้เทปที่ทำให้ใช้วัสดุได้น้อยลงด้วยการใช้พลังงานหมุนเวียน 100% รวมถึงยังใช้ตลอดขั้นตอนการผลิต