ทำความรู้จัก รองเท้า Allbirds รองเท้าเข้าเทรนด์รักษ์โลก Go Green เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และก็ไม่ได้มี ไม่ได้มีแค่ “รองเท้า” อย่างเดียวด้วย เพราะแบรนด์นี้ ขยายไลน์ลุยตลาดแฟชั่น ผลิตเสื้อผ้าจากเปลือกปูเหลือทิ้ง
“Allbirds” ถือเป็น แบรนด์รองเท้ารุ่นน้องที่เปิดตัวมาไม่นาน เพราะเริ่มต้นมาเมื่อปี 2016 แต่สามารถทำรายได้มหาศาล กว่า 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดย Allbirds แบรนด์นี้มีต้นกำเนิดจากนิวซีแลนด์ ก่อตั้งโดย Tim Brown และ Joey Zwillinger และจุดเด่นของรองเท้าแบรนด์นี้ ก็คือการใช้วัสดุธรรมชาติอย่าง “ขนแกะ” มาผลิตรองเท้าสไตล์เรียบง่าย และวางขายแค่ไม่กี่รุ่น
โดยจุดเริ่มต้นของรองเท้า Allbirds มาจาก Tim Brown ซึ่งเป็นอดีตนักฟุตบอลทีมชาตินิวซีแลนด์ มีความรู้สึกว่า รองเท้าฟุตบอลที่เขาและเพื่อนร่วมทีมใช้อยู่ประจำถูกออกแบบโดยเน้นแฟชั่นสีสันฉูดฉาด มีโลโก้แบรนด์เพื่อโฆษณามากจนเกินไป ทำให้เขาต้องการสร้างแบรนด์ใหม่ขึ้นมาเอง เพื่อผลิตรองเท้ากีฬา ซึ่งมีดีไซน์การออกแบบเรียบง่ายและสวมใส่สบายกว่าเดิม ตอบโจทย์วัตถุประสงค์การใช้งานหลักจริงๆ ฟังก์ชั่นเหมาะกับชีวิตจริงๆ เขาเลยได้ใช้เวลาค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับอุตสาหกรรมรองเท้ากีฬา และพบว่ายังไม่มีบริษัทใด ผลิตรองเท้าวิ่งที่ส่วนบนทำมาจากขนสัตว์ทั้งหมดเลย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
จีนใช้บัญชีคาร์บอนส่วนตัว เก็บแต้ม ลดโลกร้อน หวังลดการปล่อยคาร์บอน
และหลังจากนั้น Tim Brown เริ่มเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์แล้ว ว่า นิวซีแลนด์มีพื้นฐานอุตสาหกรรมขนสัตว์ที่แข็งแกร่ง โดยมีประชากรแกะมากถึง 27 ล้านตัว และมีมูลค่าส่งออกขนสัตว์สูงเป็นอันดับ 2 ของโลก จึงเกิดไอเดีย นำเอา “ขนแกะ” คุณภาพดี เหมือนกับที่แบรนด์ไฮเอน อย่าง Tom Ford, Giorgio Armani และ Gucci ใช้ตัดชุดสูท มาลองผลิตเป็นรองเท้าวิ่งดูบ้าง
การที่รองเท้า “Allbirds” เลือกใช้วัสดุจากธรรมชาติอย่างขนแกะที่ถูกมองว่าเป็นของจากธรรมชาติ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมนั้น ทำให้บุคคลมีชื่อเสียงจากหลายวงการ เลือกซื้อรองเท้าของ Allbirds เพื่อแสดงจุดยืนในเรื่องนี้ ยกตัวอย่างเช่น ลาร์รี่ เพจ Larry Page ผู้ร่วมก่อตั้ง Google, ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ Leonardo DiCaprio นักแสดงฮอลลีวูด หรือแม้กระทั่ง บารัก โอบามา Barack Obama อดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา , โอปราห์ วินฟรีย์, หรือ เอ็มมา วัตสัน นักแสดงชั้นนำ ก็เคยเลือกใส่ “Allbirds
นอกจากนี้ ใน ขั้นตอนการผลิต “Allbirds” ก็ถือว่าเข้าเทรนด์รักษ์โลกอีกด้วย เพราะ รองเท้าทุก ๆ คู่จะมีการระบุปริมาณก๊าซเรือนกระจก ที่ถูกปล่อยออกมาในการผลิตรองเท้ารุ่นนั้น ๆ เทียบให้เห็นเลยว่าก๊าซเรือนกระจกถูกปล่อยออกมาเท่าไร มากหรือน้อย อย่างไรบ้าง ? เพราะวัสดุสังเคราะห์ที่ใช้ในการผลิตรองเท้าผ้าใบในแบรนด์ทั่วๆไปนั้น มักมาจากสารปิโตรเคมีที่ได้มาจากพลังงานฟอสซิลซึ่งกระบวนการผลิตส่งผลต่อวิกฤตภาวะก๊าซเรือนกระจก มากกว่าแบรนด์ “Allbirds”
นอกจากนี้ Allbirds ยังลงลึกเข้าไปในรายละเอียด โดยคำนวณก๊าซเรือนกระจกที่เกิดขึ้นทั้งกระบวนการตั้งแต่การเลี้ยงแกะ การใช้และขนส่งวัสดุจากมุมต่างๆ ของโลก ไปจนถึงการเปิดแอร์ในสำนักงาน และการเดินทางมาทำงานของพนักงาน ซึ่งถึงแม้ว่าการเก็บภาษีก๊าซเรือนกระจก (Carbon Tax) ที่เป็นแนวคิดใหม่ของประเทศที่พัฒนาแล้วจะเพิ่งเริ่มต้นมาไม่นาน แต่ Allbirds ก็อาสาใช้หลักการนี้ ตั้ง ‘ภาษี’ ขึ้นมาเก็บตัวเอง โดยเอาเงินทุก 10 เซนต์ที่ชดเชยก๊าซเรือนกระจกที่เกิดขึ้นทุก 10 กิโลกรัม ไปลงทุนกับการปลูกต้นไม้ โครงการพลังงานสะอาด และโครงการกำจัดก๊าซเรือนกระจกออกจากชั้นบรรยากาศ
นอกจากนี้ ในขั้นตอนการผลิต Allbirds ยังเป็นการลด คาร์บอนฟุตพริ้นท์ (Carbon Footprint) หรือ ลด ปริมาณการปล่อยและดูดกลับก๊าซเรือนกระจก (Greenhouse gas emissions and removals) ที่ปล่อยออกมาจากผลิตภัณฑ์หรือบริการตลอดวัฏจักรชีวิต หรือจากกิจกรรมการดำเนินงานขององค์กร วัดรวมอยู่ในรูปของตัน (กิโลกรัม) ของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า
.
ขณะที่ เบื้องหลังความเบา นุ่ม ใส่สบายของรองเท้า Allbirds มาจากวัสดุที่ดีต่อโลกอย่างขนแกะที่เป็นวัสดุจากธรรมชาติและสร้างขึ้นใหม่ได้ และเยื่อจากต้นยูคาลิปตัสที่ผ่านการปลูกตามมาตรฐานการจัดการป่าไม้แบบยั่งยืน FSC™ (Forest Stewardship Council™) นั่นคือมีการปลูกต้นใหม่ทันทีเมื่อตัด ปลูกโดยไม่ต้องพึ่งพาน้ำและปุ๋ยจำนวนมหาศาล และได้ต้นไม้ช่วยทำหน้าที่ดูดซับก๊าซเรือนกระจกไปเก็บกักไว้ในดิน
ส่วนพื้นรองเท้าทำมาจากชานอ้อยที่เป็น ‘ขยะ’ จากการผลิตของอุตสาหกรรมน้ำตาลในประเทศบราซิล ที่นำมาผ่านกระบวนการร่วมกับยีสต์ ให้เป็นวัสดุทำพื้นรองเท้าที่แต่เดิมมักมาจากพลาสติก
นอกจากนี้บรรจุภัณฑ์ของรองเท้ายังย่อยสลายได้ง่ายอีกด้วย รองเท้าของ Allbirds ยังมีความทนทาน รักษาได้ง่าย เพียงแค่ใส่ถุงซักผ้าโยนลงเครื่องปั่นง่าย ๆ เลย
ที่จริงแล้ว รองเท้าขนแกะ Allbirds ไม่ได้ปรับเปลี่ยนสินค้าตามเทรนด์แฟชั่น แต่พวกเขายึดมั่นในความเรียบง่าย และการใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งจากกรณีนี้ อาจจะมองได้ว่า การทำอะไรที่เรียบง่าย ไม่ซับซ้อน แต่ใช้งานได้กับทุกสถานการณ์ มันก็คือว่าเป็นอัตลักษณ์ที่เหมาะสมกับแบรนด์แบรนด์นี้
นอกจากนี้ ในช่วงเวลาที่ผ่านมา “Allbirds” ยังแตกไลน์การผลิตไปนอกเนื้อจากรองเท้าอีกด้วย เพราะพวกเขา ทำ "เสื้อผ้าจากเปลือกปูเหลือทิ้ง" ออกมาเมื่อปี 2020 โดยทำให้ เปลือกปูเหลือทิ้ง กลายมาเป็นเส้นใยในการผลิตเสื้อผ้า เพื่อลุยตลาดแฟชั่น ซึ่งถือเป็นสินค้าชนิดแรกของทางแบรนด์ที่ผลิตจากวัสดุธรรมชาติ 100% ซึ่ง เสื้อผ้า “Allbirds ได้รับมาตรฐานสำนักงานคณะกรรมการรับรองมาตรฐานสินค้าประมง (Marine Stewardship Council) ซึ่งเป็นครั้งแรกของโลกที่องค์กรนี้ได้รองรับมาตรฐานสินค้าประมงที่นำมาทำเสื้อผ้า เพราะโดยปกติแล้ว มาตรฐานนี้จะใช้ในอุตสาหกรรมอาหารทะเลเท่านั้น
ในแง่ของฟังก์ชั่นการใช้งาน “Allbirds” พวกเขาอ้างว่า กันว่าเป็นรองเท้าที่ใส่สบายที่สุดในโลก เพราะจากองค์รวม และองค์ประกอบต่างๆ และสิ่งที่ทำให้ Allbirds เติบโตและยืนหยัดได้ นั่นคือพวกเขา มอง ‘ความยั่งยืน’ ให้กลายเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างสรรค์สินค้าที่คุณภาพดีกว่า ถูกใจผู้บริโภคมากกว่า และเป็นความสามารถในการแข่งขันได้ ในขณะเดียวกันก็ช่วยลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมของธุรกิจไปด้วย...เรียกได้ว่า ได้รองเท้าที่ดี สวยด้วย และรักษ์โลกไปในตัวด้วย