จากกรณี รถเทเทอร์บรรทุกเบียรยี่ห้อดังเทกระจาดกลางเมืองภูเก็ต ประชาชนมาขนไปกินและขายจนเกือบเกลี้ยงคันมูลค่าประมาณ 2 ล้านกว่าบาท
จากกรณีที่มีผู้ใช้ชื่อเฟซบุ๊ก นามว่า จิตใจสะอาด น้ำไม่ต้องอาบก็ได้ ได้แชร์โพสต์ 5 ชม.เคสนี้มีหลักฐานเพียงพอเอาผิดได้สนันสนุนให้เเจ้งความคัฟน่าเกลียดมากที่บ้านสอนกันยังไงหรือสันดานล้วนๆผมรู้พวกที่โผล่ๆในคลิปก็อยุ่ในกลุ่มนี้เเหละหรือลูกหลานในนี้เห็นเเล้วก็ฝากๆบอกด้วยเลว ปรากฎมีชวโลกโชเชียลเอามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมากส่วนใหญ่ด่ายับเช่นว่ากล่าวคนที่เอาเบียรไป เช่น ไม่ช่วย เขาทีนึงแล้วยังจะไปช้ำเติมเขาอีก คนประเภทนี้ ไม่รู้จะเรียกยังใง ให้เหมาะสม , เอาตรงๆนะพรุ่งนี้อดอยากมากเลยว่ายังไงครับคือไม่เห็นใจเลยผมไม่โลกสวยนะแต่ไม่รู้สิครับของแบบนี้มันอยู่ที่สันดานและชาติกำเนิดมากกว่า,คนไทยด้วยกัน... ซ้ำเติมกันเอง,เปรตหาส่วนบุญ.. สำหรับพวกที่โหยหา ส่วนมนุยษ์ที่ช่วยถือว่าคุณเป็นคนดี,หน้าด้านเนอะ ไร้ยางอาย ยาจก,แทนที่จะช่วย ทำแบบนี้เหมือนไปซ้ำเติมเขาให้ทุกอย่างแย่ลงไปอีก ไม่สงสารเขาเอ่อทำแบบนี้ ,ขอให้โดนจับ พวกนี้ชอบกินเบียร์แต่ไม่มีเงินซื้อหรอ ? พวกไม่มีศักดิ์ศรี พวกนี้มันมาเอาเสร็จแล้วก็กลับขโมยเสร็จไม่มีช่วย หน้าด้านจริง,มีคนเอาไปขายแล้ว 555 ป๋อง 20 บาท
จากการตรวจสอบภาพดังกล่าวทราบว่า เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 07.00 น.บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ ปากซอยกิ่งแก้ว ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต หลังจากที่รถเทรลเลอร์บรรทุกสินค้าของบริษัท ศิริมงคล โลจิสติกส์ จำกัด ซึ่งมีนาย สมพร พริ้มจรัส 58 ปี เป็นคนขับ ได้บรรทุกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จำนวนกว่า 3,600 แพ็ก หรือ ประมาณ 86,400 กระป๋อง เพื่อมาส่งให้กับบริษัทภูเก็ต สิวลี จำกัด ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุไปประมาณ 1 กม. โดยได้เกิดอุบัติเหตุเสียหลักขณะเข้าโค้ง ส่งผลให้เครื่องดื่มเทกระจาดลงจากรถ มากและมีทรัพย์สินประชาชน ซึ่งเป็นรถซาเล้งซึ่งจอดอยู่ริมถนนได้รับความเสียหาย 3 คัน รวมถึงป้ายต่างๆ ก่อนที่ในช่วงเช้าจะมีประชาชนที่อยู่ในบริเวณดังกล่าวมาเก็บ ถึงแม้จะมีบางส่วนห้ามปรามแต่ก็ยังมีการเก็บนำกลับบ้าน
ล่าสุดเมื่อเวลา 14.40 น.วันนี้ ตัวแทนผู้รับมอบอำนาจ ของบริษัท ศิริมงคล โลจิสติกส์ จำกัด และนาย สมพร พริ้มจรัส 58 ปี เป็นคนขับ เข้าพบ พ.ต.อ.สมพงษ์ ทิพย์อาภากุล ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต โดยได้สอบถามถึงเหตุการณืดังกล่าวจากนั้นสั่งการให้เ พ.ต.ท.ทักษิณ ภิญโญเทพประทาน สารวัตรสอบสวนสภ.เมือง จ.ภูเก็ต รับแจ้งความดำเนินคดีตามกฏหมาย ในข้อหา “ลักทรัพย์ซึงหน้า"เพื่อติดตามคนที่มาขนเบียร์ทีตกบนถนนและบนรถไปมาดำเนินคดีทั้งหมด ในคลิปคนขับได้ขอร้องชาวบ้านว่าอย่าเอาไปเลยผิดข้อหาลักทรัพย์นะแต่ไม่มีใครสนใจต่างขนใส่ตะกร้าหน้ารถ ถุงต่างๆกันอย่างสนุกสนาม
[gallery columns="1" size="full" ids="418610,418611,418612,418613"]
พ.ต.อ.สมพงษ์ ทิพย์อาภากุล ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวแยกเป็นสองส่วน คืออุบัติเหตุ และลักทรัพย์ คดีอุบัติเหตุนั้นพนักงานสอบสวนคดีจราจรก็จะต้องสอบสวนความผิดตามกฏหมายเนื่องจากมีความเสียหายต่อทรัพย์สินคือรถซาเล้งของร้านค้า 3 คันที่เสียหาย อีกส่วนคือกลุ่มผู้ที่ไปเก็บกระป๋องเครื่องดื่ม ซึ่งเข้าข่ายความผิดฐานลักทรัพย์ ซึ่งรอให้ผูเสียหาย ซึ่งเป็นบริษัทขนส่งมาแจ้งความดำเนินคดี ซึ่งหลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จำเร่งสอบสวนสืบสวน ซึ่งเป็นคดีที่ไม่ยากมีคลิปมีภาพมากพอสมควร ซึ่งหากผู้ที่เอาไปประสงค์จะเอามาคืน ก็ยังมีความผิดเนื่องจากเป็นความผิดสำเร็จแต่อาจจะเป็นข้อลดหย่อนความผิดในชั้นศาลได้
[gallery columns="1" size="full" ids="418614,418615"]
ทั้งนี้อยากฝากถึงพี่น้องประชาชนกรณีเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ไม่ควรไปเก็บทรัพย์สินเนื่องจากมีความผิดฐานลักทรัพย์ แต่หากเป็นกรณีที่เจ้าของมอบให้ หรือช่วยเก็บทรัพย์สินแล้วเขามอบให้เป็นน้ำใจนั้นจะดีกว่า แต่ไม่ควรเก็บไปโดยวิสาสะ
โดย นาย สมพร คนขับรถ เปิดเผยว่าตนเอง เมื่อเวลาประมาณ 05.20 น.ได้ขับรถมาด้วยความเร็วประมาณ 40 กม./ ชม.ตามปกติ เมื่อมาถึงจุดดังกล่าว เป็นทางโค้ง ได้ชะลอความเร็วแต่ของบนรถได้เทน้ำหนักจนเชือกขาดและร่วงลงบนพื้น หลังเกิดเหตุได้พยายามห้ามปรามผู้คนไม่ให้เก็บกระป๋องเบียร์แต่ไม่สนใจจึงได้แต่ยืนดู ทั้งนี้ ยืนยันว่าไม่ได้ง่วงหรือหลับใน เนื่องจากได้พักนอนหลับที่จ.พังงา มาแล้ว อย่างไรก็ตาม สำหรับตัวเลขความเสียหายนั้น เบื้องต้น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่บรรทุกมาทั้งหมด จำนวนกว่า 3,600 แพ็ก หรือ ประมาณ 86,400 กระป๋อง เทกระจาดลงจากรถ จำนวน กว่า 3,300 ถาดหรือประมาณ 79,200 กระป๋อง เหลือบนรถ 300 ถาด หรือประมาณ 7,200 กระป๋อง แต่หลังจากที่มีประชาชนมาเก็บที่ตกหล่น และบางส่วนยังเก็บส่วนที่อยู่บนรถไปอีก ทำให้เหลืออยู่ประมาณ 200 กว่าถาด ประมาณ 4800 กระป๋อง รวมสูญหายไปทั้งหมด 3,400 แพ็กหรือประมาณ 81,600 กระป๋อง รวมความเสียหายเบื้องต้นกว่า 2 กว่าล้านบาทเกือบ 3 ล้านบาท
โดยประมาณ นางบังอร รัตนไพนิล อายุ 52 ปี เจ้าของร้านส้มตำไก่ย่างซึ่งอยู่ข้างร้านสะดวกซื้อ กล่าวว่า ตนเองไม่เห็นเหตุการณ์เพราะเดินทางมาในเวลา 08.00น.แล้วแต่ทราบว่า เกิดเหตุตั้งแต่ เวลาประมาณ ตี 5 และและตอนที่เดินทางมาถึงก็มีเพียงขยะที่กระจุยกระจาย ทั้งนี้ทรัพย์สินของตนเองก็ได้รับความเสียหายเล็กน้อย เป็นป้ายไวนิลโฆษณาเล็กๆของร้าน ทั้งนี้เคราะห์ดีที่ช่วงเวลาเกิดเหตุรถเสียหลักไม่มีผู้ใดอยู่ เพราะปกติจะมีคนมารอใส่บาตรพระจำนวนมาก ส่วนเรื่องที่หลังเกิดเหตุมีการขนกระป๋องเครื่องดื่มไปนั้น ตนเองไม่ขอแสดงความเห็นเนื่องจากไม่เห็นเหตุการณ์แต่คิดว่าไม่ควรทำ