ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th
ประวัติ ซีอุย แซ่อึ้ง ที่มาของชายปริศนาชาวจีน กับคดีสะเทือนขวัญ ปิดตำนาน 60 ปี "มนุษย์กินคน กินตับ" มาวันนี้ชายผู้ถูกกล่าวขวัญว่าเป็นฆาตกรต่อเนื่องได้ถูกปลดเปลื้องพันธนาการ กับความจริงที่ถูกตีแผ่ และได้รับความเป็นธรรมผ่านร่างแห้งกรังที่เสมือนอนุสรณ์แห่งความโหดเหี้ยมมาตลอดหลายปี
หลีอุย แซ่อึ้ง ที่ถูกเรียกผิดเพี้ยนเป็น ซีอุย เกิดในช่วงปี 2464 - 2470 ที่ตำบลฮุนไหล เมืองซัวเถา ประเทศจีน เมื่ออายุประมาณ 18 ปี ถูกเกณฑ์ไปประจำการเป็นทหารสู้สงครามจีน-ญี่ปุ่น เป็นเวลา 1 ปี ที่เขาประจำการอยู่แถบตะเข็บแดนของจีนที่ติดกับพม่า จังหวะนี้หนุ่มผู้หิวโหยได้ลักลอบหนีทางเรือมาขึ้นฝั่งที่ท่าเรือคลองเตย ประเทศไทยช่วงปี 2489 และนั่นทำให้ ประวัติซีอุย กำลังจะเปลี่ยนไปตลอดกาลในไทย
ลักลอบเข้าเมือง หลบหนี ต่างด้าว นี่คือภาพสะท้อนของชาวจีนผู้ยากไร้ โดยเลือกพื้นที่ในตำบลทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ถูกเลือกใช้เป็น "บ้าน" เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ของ ซีอุย แซ่อึ้ง งานจำพวกกรรมกร รับจ้างทำสวน เข็นผัก ฯลฯ ถูกยึดเป็นอาชีพหาเงินเลี้ยงปากท้องกว่า 8 ปี ซึ่งภาพของชายผิวเข้ม ตัวผอม พูดไทยไม่ได้ แถมมีบุคลิกชอบเก็บตัวช่างประจวบเหมาะเหลือเกินกับคดีความดำมืดที่กำลังจะเกิดขึ้น
ประวัติ ซีอุย แซ่อึ้ง ถูกจับกุมครั้งแรกในปี 2501 ฐานฆ่าเด็กชายสมบุญ บุญยกาญจน์ที่จังหวัดระยอง ประจวบกับคดีฆาตกรรมเด็กต่อเนื่องในช่วงเวลานั้นกว่า 6 คดี ในช่วงปี พ.ศ. 2497–2501 (ประจวบคีรีขันธ์ 4 คดี, กรุงเทพมหานคร และนครปฐม ที่ละ 1 คดี) โดยมีความวิปริตของคนร้ายคือการควักตับและหัวใจออกมา
สุดท้ายหลักฐาน รวมถึงการนำเสนอของสื่อยุคนั้นเชื่อมโยงชี้ชัดมาที่ ซีอุย พร้อมคำให้การสุดสะพรึง "ฆ่าเพื่อกินตับ กินหัวใจ" จนนำมาซึ่งโทษประหารชีวิตด้วยการยิงเป้าที่เรือนจำบางขวางในวันที่ 18 กันยายน 2502 กลายเป็นคดีสะเทือนขวัญที่ตามมาพร้อมคำสาปแช่ง รวมถึงร่างกายหลังประหารก็ถูกนำมาจัดแสดงไว้ที่พิพิธภัณฑ์ศิริราช
มาวันนี้คำขู่เด็กเล็ก หรือวลี "ระวังซีอุยมากินตับ" กำลังจะจางหายไป พร้อมคืนความยุติธรรมแก่ประวัติด่างพร้อย ซีอุย แซ่อึ้ง ชายผู้เป็นตัวแทนของความวิปริตมาตลอด 60 ปี กับคดีความปริศนาที่วันนี้ถูกปลดพันธนาการด้วยความพร้อมใจของหลายๆฝ่ายเริ่มจากพิพิธภัณฑ์นิติเวช ศิริราช ยอมปลดป้ายมนุษย์กินคนออก และการนำศพของซีอุยมาประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลและพิธีฌาปนกิจศพในวันนี้ (23 ก.ค. 63) เวลา 13.00 น.