มีรายงานจากผู้เชี่ยวชาญด้านนิเวศวิทยา สังกัดมหาวิทยาลัยอิสระแห่งชาติเม็กซิโก เกี่ยวกับอุตสาหกรรมยาสูบและการบริโภคยาสูบ ว่าเป็นอุตสาหกรรมที่สร้างมลภาวะและทำลายสิ่งแวดล้อม
กาเบรียลา จิเมเนซ (Gabriela Jimenez) ผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันนิเวศวิทยา สังกัดมหาวิทยาลัยอิสระแห่งชาติเม็กซิโก (UNAM) กล่าวว่าอุตสาหกรรมยาสูบและการบริโภคยาสูบ ประกอบกับการตัดไม้ทำลายป่า กำลังทำให้มลภาวะในดิน อากาศ และน้ำรุนแรงขึ้น
อุตสาหกรรมยาสูบเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของการตัดไม้ทำลายป่าทั่วโลก เนื่องจากอุตสาหกรรมยาสูบตัดต้นไม้เพื่อสร้างพื้นที่สำหรับปลูกยาสูบ ซึ่งต้องใช้ยาฆ่าแมลงจำนวนมากที่ให้ผลสุดท้ายเป็นการทำลายดิน จิเมเนซ กล่าวว่าอุตสาหกรรมยาสูบทำให้โลกต้องสูญเสียต้นไม้ 600 ล้านต้นทุกปี ซึ่งส่งผลให้เกิดการสูญเสียทางสิ่งแวดล้อมอย่างมหาศาล เนื่องจากต้นไม้ผลิตออกซิเจนทำให้อากาศบริสุทธิ์ และสร้างดินที่อุดมสมบูรณ์
เนื้อหาที่น่าสนใจ :
รู้ก่อนป้องกันได้ ตรวจหาสารก่อภูมิแพ้ เพื่อการมีสุขภาพและชีวิตที่ดี
WHO เผย โรคจากอาหาร ภาคสาธารณสุขแบกรับภาระเทียบเท่ามาลาเรีย หรือเอชไอวี
หนึ่งในปัญหาที่ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อสิ่งแวดล้อม คือการที่ผู้สูบบุหรี่มักทิ้งกันบุหรี่หลายล้านชิ้นลงบนพื้น โดยก้นบุหรี่เหล่านี้จะถูกกวาดลงสู่ท่อระบายน้ำเมื่อฝนตกและปนเปื้อนแหล่งน้ำ อย่าง แม่น้ำ ทะเลสาบ และทะเล
อีกทั้งกันบุหรี่อาจใช้เวลาย่อยสลายนานถึง 10 ปี เนื่องจากตัวกรองบุหรี่ส่วนใหญ่ประกอบด้วยเซลลูโลสอะซิเตท (cellulose acetate) อันเป็นรูปแบบหนึ่งของพลาสติก ทั้งนี้จิเมเนซ ทิ้งท้ายว่า ผู้สูบบุหรี่สามารถทำหน้าที่ของตนได้ด้วยการไม่ทิ้งกันบุหรี่ลงสู่พื้นเพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อม