นวัตกรรมด้านการเกษตรพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดบริษัทเทคโนโลยีด้านการเกษตร Solinftec หุ่นยนต์ที่ใช้แพลตฟอร์ม ALICE AI ในการประมวลผลข้อมูลและตัดสินใจได้เองมากถึง 35,000 ครั้งใน 1 วัน
จะดีแค่ไหนถ้าเกษตรกรมีตัวช่วยอัจฉริยะในการเพาะปลูกพืช ไม่ว่าขนาดพื้นที่จะนับสิบ นับร้อย นับพันไร่ เช่น โดรนอัจฉริยะ, หุ่นยนต์ AI, เทคโนโลยี IoT แล้วได้ผลผลิตมากขึ้น ไม่ต้องกลัวสภาพดินฟ้าอากาศมาทำลายพืชผลจนหมดสิ้น ดังตัวอย่าง หุ่นยนต์การเกษตรสุดล้ำของ Solinftec (โซลินเอฟเทค) ที่ SPRiNG นำมาอัปเดตถึงความล้ำของเทคโนโลยีการเกษตรยุคใหม่ในบทความนี้
หุ่นยนต์ของ Solinftec ทำอะไรได้บ้าง?
Solinftec, Inc. บริษัทเทคโนโลยีด้านการเกษตร (AgTech) ในแคนาดาสร้าง หุ่นยนต์การเกษตรโซลิก (Solix Ag Robotics) โดยพัฒนา ALICE AI เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ การเรียนรู้ของเครื่องจักร (Machine Learning) เป็นแพลตฟอร์มหุ่นยนต์การเกษตรแบบล้ำสมัย (new cutting-edge AgTech robotic platform) ร่วมกับ University of Saskatchewan สถานศึกษาในแคนาดา เพื่อวัตถุประสงค์ดังนี้
4 ความสามารถของ Solinftec ที่ตอบโจทย์ความยั่งยืน
การตัดสินใจของ Solix Ag Robotics ที่ทำได้ถึงวันละ 35,000 ครั้ง ช่วยลดเวลาการตัดสินใจของเกษตรกรในทุกสภาวะได้อย่างรวดเร็ว ทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพการทำเกษตรแม่นยำ ส่งผลให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพเพิ่มขึ้น
อนาคตของภาคการเกษตรและการเติบโตของ Solinftec
Solinftec เป็นสตาร์ทอัพที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2007 สามารถระดมทุนได้อย่างต่อเนื่องมาถึงรอบล่าสุดในปีนี้ที่ซีรีส์ E ได้ 400 ล้านดอลลาร์ และถ้ารวมเม็ดเงินที่ได้จากระดมทุนทุกรอบจะอยู่ที่ราว 7 พันล้านดอลลาร์!
หากรวมพื้นที่ในบราซิล สหรัฐอเมริกา และละตินอเมริกา ที่ใช้ระบบปฏิบัติการฟาร์มดิจิทัลทั้งเซ็นเซอร์และ AI ของ Solinftec เพื่อให้ได้ข้อมูลเกี่ยวกับการเพาะปลูก สภาพอากาศแบบเรียลไทม์ ฯลฯ พบว่ากินอาณาบริเวณมากกว่า 27 ล้านเอเคอร์
อย่างไรก็ตาม หุ่นยนต์ตัวใหม่ของ Solinftec ยังอยู่ระหว่างการทดสอบภาคสนาม คาดว่าจะได้ใช้งานเชิงพาณิชย์ที่แคนาดาและสหรัฐอเมริกาในช่วงเพาะปลูกข้าวสาลีในปีถัดไป
จะเห็นว่าเทคโนโลยีการเกษตรขั้นสูงที่เพิ่ม "ความเขียว" และเป็นแหล่งผลิต "อาหาร" อย่างมีนัยสำคัญให้โลกใบนี้ได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างสูง และยิ่งโลกร้อนมากขึ้น การพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีในภาคการเกษตรจะเป็นหนึ่งประเด็นที่ชาวโลกต้องใส่ใจและขาดไปไม่ได้
.......................................................................................
ที่มา