Ghibli Studio ค่ายภาพยนตร์แอนิเมชันชื่อดังจากญี่ปุ่น การแฝงเรื่องราวของชีวิตมนุษย์และธรรมชาติที่มักมีเรื่องขัดแย้งกันอยู่เสมอ เรื่องไหนมีนัยะด้านสิ่งแวดล้อมยังไงบ้างนะ?
หลายคนในที่นี้อาจจะเคยได้ยินหรือผ่านตาไปบ้างกับภาพยนตร์แอนิเมชันจากสตูดิโอจิบลิ ด้วยลายเส้นและสีสันที่เป็นเอกลักษณ์จึงไม่ยากเลยที่จะทำให้ผู้คนตกหลุมรักเมื่อได้รับชม ภาพยนตร์แอนิเมชันจากสตูดิโอจิบลิถือเป็นอีกหนึ่งในหมวดหมู่ของภาพยนตร์ Master Piece ที่ทั้งกวาดรายได้ไปมหาศาลรวมไปถึงการสื่อความหมายนัยะต่างๆอย่างลึกซึ้งผ่านการเล่าเรื่อง ตัวละครและการเคลื่อนไหวต่างๆ และที่ขาดไปไม่ได้คือข้อความที่ถูกส่งออกมาจากภาพยนตร์นั้น ถือว่าตรงจุดและดีมากๆ โดยเฉพาะในเรื่องของมนุษย์และธรรมชาติ
ภาพยนตร์บางเรื่องที่มีการเล่าเรื่องเน้นเรื่องสิ่งแวดล้อมที่มีพลัง สามารถเปลี่ยนความคิดของเราและเชื่อมโยงเรากับธรรมชาติในแบบที่เอกสารทางวิทยาศาสตร์ไม่สามารถทำได้ ตัวอย่างเช่น Studio Ghibli สตูดิโอภาพยนตร์ชื่อดังของญี่ปุ่นที่ก่อตั้งโดยนักสร้างแอนิเมชันอย่าง Hayao Miyazaki ที่ได้สร้างเรื่องราวทางภาพที่ซับซ้อนเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของมนุษย์กับธรรมชาติที่อยู่เหนือกำแพงวัฒนธรรมหรืออายุ สาระสำคัญของงานมิยาซากิ คือเราต้องเคารพธรรมชาติหรือเผชิญกับการทำลายล้างของเราเอง
ภาพยนตร์ของมิยาซากินำเสนอช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนให้กับคุณผู้ชมสู่โลกมหัศจรรย์ที่สะท้อนปัญหาของความทันสมัย แสดงให้เห็นว่ามีความเป็นไปได้ที่จะพรรณนาถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ซับซ้อนผ่านแอนิเมชันในลักษณะที่ยังคงดึงดูดความสนใจของกระแสหลักได้
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
รีวิว “Nintendo Switch Sports” การกลับมาอีกครั้งของเกมออกกำลังกาย Wii Sports
ค่ายการ์ตูน DC Comics และ Marvel สนับสนุน LGBTQ+ ผ่านการ์ตูน
เปิดที่มาวลีดัง TikTok "ใจผมสลายฮะมุง" ประโยคสุดไวรัล จาก ชาวเดอร์ (Chowder)
ขวบปีที่ 18 ย่าง 19 ของน้องมะม่วง คาแรกเตอร์การ์ตูนคนไทยดังไกลไม่หยุด
นักวิทยาศาสตร์ด้านการอนุรักษ์คนหนึ่งได้เผยแพร่บทความวิเคราะห์ภาพยนตร์ที่สื่อถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมไว้ได้น่าสนใจ เป็นดังที่เขาว่า เอกสารรายงานทางวิทยาศาสตร์ที่ออกมาเตือนกันอย่างต่อเนื่องในเรื่องของปรากฎการณ์ทางธรรมชาติที่รุนแรงขึ้นนั้น ไม่สามารถจูงใจให้ผู้คนหันมาสนใจได้มากพอ ด้วยปัจจัยหลายๆอย่าง การดึงดูดใจผู้คนให้หันมาสนใจเรื่องราวของสิ่งแวดล้อมจึงจำเป็นต้องมาในรูปแบบที่ผู้คนชื่นชอบแทน แต่จะได้ผลหรือไม่นั้นก็ต้องให้อนาคตเป็นตัวตัดสิน
เรื่องราวที่จะยกนำมาอธิบายเรื่องราวของสิ่งแวดล้อมที่แฝงอยู่ในหนังของบทความนี้จะมีอยู่ทั้งหมด 4 เรื่องด้วยกัน อันได้แก่ Nausicaä of the Valley of the Wind (1984), My Neighbor Totoro (1988), Princess Mononoke (1997) และ Ponyo On The Cliff By The Sea (2008)
มหาสงครามหุบเขาแห่งสายลม (NAUSICAÄ of the Valley of the Wind)
ได้รับการเผยแพร่พร้อมกับคำแนะนำพิเศษจากกองทุนสัตว์ป่าโลกเพื่อธรรมชาติโลก บอกเล่าเรื่องราวของเหตุการณ์สันทรายที่สร้างความเสียหายให้กับระบบนิเวศทั่วโลก มนุษย์ที่รอดชีวิตต้องอยู่ร่วมกันกับ Toxic Jungle ภูมิประเทศที่อันตรายซึ่งเต็มไปด้วยสปอร์ของเชื้อราที่เป็นพิษ มนุษย์ส่วนใหญ่กลัวป่าพิษและพยายามทำลายมัน แต่สิ่งที่พวกเขาไม่เข้าใจก็คือการทำความสะอาดสิ่งแวดล้อมเพื่อประโยชน์ของพวกเขา
มิยาซากิออกแบบภาพยนตร์เรื่องนี้เพื่อสะท้อนสังคมของเรา โดยที่การจัดลำดับความสำคัญของการเติบโตทางวัตถุในระยะสั้นมากกว่า ความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อมในระยะยาวจะนำไปสู่การล่มสลาย ภาพยนตร์เรื่องนี้เตือนเราว่าการทำสงครามกับธรรมชาติจบลงด้วยการตายของเราในที่สุด ในการสร้างอนาคตที่ยั่งยืน เราต้องทำงานกับธรรมชาติมากกว่าที่ต่อต้านมัน
และตัวหนอนขนาดใหญ่ที่ที่เรียกว่า โอห์ม ก็เหมือนผู้พิทักษ์สิ่งแวดล้อม ในเมื่อมนุษย์ได้ทำลายธรรมชาติอย่างไม่รู้จบพวกมันจึงต้องออกมาปกป้อง อีกทั้งมนุษย์ได้ยุยงพวกมันด้วยการนำลูกของพวกมันออกไปนั่นจึงทำให้เกิดสงครามกันขึ้น มนุษย์ชอบใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างไม่คิดหน้าคิดหลัง นั่นจึงเป็นสาเหตุที่มนุษย์ต้องหายไปจากโลกนี้ซะ
โทโทโร่เพื่อนรัก (My Neighbor Totoro)
ใน My Neighbor Totoro เด็กสาวสองพี่น้องย้ายจากโตเดียวไปอยู่บ้านในชนบทแถบไซตามะกับพ่อของพวกเธอในขณะที่แม่ของพวกเธอกำลังรักษาตัวจากอาการป่วย เด็กๆสำรวจบ้านใหม่และป่ารอบๆและได้พบกับวิญญาณแห่งป่าตัวอ้วนกลมและปกปุยนอนหลับปุ๋ยอยู่ พวกเธอจึงพยายามสร้างมิตรภาพกับวิญญาณแห่งป่าขนาดใหญ่ที่ชื่อว่า Totoro
ว่าด้วยเรื่องเมือง ชนบทที่ครอบครัวนี้ย้ายไปอยู่คือ ซาโตะยามะ ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนหนึ่งของจังหวัดไซตามะ เมืองซาโตะยามะเป็นเมืองที่เอกลักษณ์มากๆ รวมไปถึงชื่อที่มีความหมายเหมาะสมกับเรื่องราว ซาโตะยามะ (Satoyama) sato – หมู่บ้าน, yama ภูเขา,ขุนเขา,หุบเขา เป็นพื้นที่การเกษตรแบบดั้งเดิมเสมือนพาย้อนกลับไปในยุคสมัยเอโดะ และเป็นหมู่บ้านที่อุดมสมบูรณ์และรายล้อมไปด้วยธรรมชาติอันสมบูรณ์ไม่ต่างจากในจอ
ในภาพยนตร์ของมิยาซากิ พี่สาวน้องสาวกลายเป็นเพื่อนกับโทโทโร่ สำรวจสภาพแวดล้อมรอบข้างและค้นพบความสัมพันธ์ของพวกเขาที่มีต่อสิ่งแวดล้อม Totoro ถูกพรรณนาว่าเป็นแม่ที่อบอุ่นและหล่อเลี่ยง เป็นตัวแทนของการส่งเสริมผลการรักษาของการติดต่อธรรมชาติ ซึ่งได้รับการบันทึกไว้อย่างดีในการวิจัยและวัฒนธรรม โทโทโร่ดูแลธรรมชาติแวดล้อมของที่นี่ทั้งหมด จึงอุดมสมบูรณ์ดังที่เห็นในภาพยนตร์
มีบทสัมภาษณ์หนึ่งของมิยาซากิ เผยว่า มิยาซากิไม่ได้ระบุว่าตัวเองเป็นชินโต (นับถือพุทธ) แต่มิยาซากิยอมรับว่านับถือผีและการบูชาธรรมชาติตามศาสนาของญี่ปุ่น นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทุกสิ่งทุกอย่างในภาพยนตร์ถูกเซ็ทให้ดูมีชีวิตชีวาเกือบทุกอย่าง เพราะสิ่งเหล่านั้นมีวิญญาณดูแลอยู่นั่นเอง
และในเรื่องสาวๆก็ถูกโทโทโร่สอนให้เคารพธรรมชาติ ในเมื่อมีฉากยอดฮิตที่ยืนรอรถท่ามกลางสายฝน เด็กสาวมอบร่มให้โทโทโร่ เขาจึงชอบเธอมาก มาช่วยเธอปลูกต้นโอ๊คที่ไม่เจริญเติบโตในสวนให้ออกดอกออกผลบานสะพรั่งแทน นั่นคือการเอื้อเฟื้อต่อกัน
เจ้าหญิงจิตวิญญาณแห่งพงไพร (PRINCESS MONONOKE)
PRINCESS MONONOKE ตั้งอยู่ในประเทศญี่ปุ่นในศตวรรษที่ 14 โลกที่การต่อสู้อย่างต่อเนื่องระหว่างมนุษย์และคามิ (วิญญาณ) ในป่านำไปสู่การเสียชีวิตทั้งสองฝ่าย ในศาสนาชินโตซึ่งเป็นศาสนาดั้งเดิมของญี่ปุ่น กามิเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ แต่ก็ไม่ได้มีลักษณะที่อ่อนโยน เมื่อมนุษย์ปฏิเสธที่จะเคารพสิ่งแวดล้อมของพวกเขา พวกเขาสามารถแสวงหาการแก้แค้นได้
กามิที่ทรงพลังที่สุดของภาพยนตร์เรื่องนี้คือ วิญญาณแห่งป่า (ชิชิงามิ) ซึ่งไม่ใช่ทั้งความดีและความชั่ว แต่เป็นตัวแทนของพลังอันบริสุทธิ์ของธรรมชาติ ในระหว่างวัน ชิชิงามิปรากฏเป็นกวาง ในเวลากลางคืนจะเปลี่ยนเป็น Night Walker ที่น่าขนลุก การเปลี่ยนแปลงนี้แสดงถึงความเป็นคู่ของธรรมชาติในฐานะที่เป็นตัวนำชีวิตและความตาย สะท้อนให้เห็นว่าโลกธรรมชาติมีความสามารถในการสนับสนุนและทำลายมนุษยชาติได้อย่างไร
ในทำนองเดียวกัน Lady Eboshi ศัตรูของหนังก็ไม่ใช่วายร้ายที่ชัดเจน แม้ว่าเธอต้องการตัดไม้ทำลายป่าเพื่อป้อนอาหารให้กับเหมืองเหล็ก แต่เธอก็เป็นผู้นำที่ใจดีของ Iron Town เช่นกัน ซึ่งเป็นที่หลบภัยของผู้ถูกขับไล่ในสังคมและสนับสนุนความเท่าเทียมทางเพศ แม้ว่าเธอต้องการจะสร้างสังคมที่ดีขึ้น การกระทำของเธอ ไม่ว่าจะด้วยเจตนาดีแค่ไหนก็ตาม จะทำลายป่าและบ้านเรือนของกามิ
สถานการณ์นี้เป็นพิภพเล็ก ๆ ของประเด็นความยุติธรรมด้านสิ่งแวดล้อมที่กำลังดำเนินอยู่ทั่วโลก ซึ่งกลุ่มคนจนและคนชายขอบ รวมทั้งคนพื้นเมืองและผู้หญิง ต้องทนทุกข์ทรมานจากการกระทำของคนรวย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แม้ว่าประเทศที่ร่ำรวยมีส่วนสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมากที่สุด แต่ก็เป็นประเทศที่ยากจนกว่าที่ต้องแบกรับภาระที่เกี่ยวกับสภาพอากาศมากที่สุด
ในฐานะผู้ชมของ Princess Mononoke เราได้รับการสนับสนุนให้ก้าวข้ามการแบ่งขั้วของ "เรากับพวกเขา" ความคิดซึ่งช่วยให้กลุ่มที่มีอำนาจมากขึ้นสามารถแยกตัวออกจากผู้ที่ไม่มี หรือแม้แต่ลดทอนความเป็นมนุษย์โดยสิ้นเชิง งานของมิยาซากิเป็นบทเรียนในการแสวงหาสิ่งที่เหมือนกันภายใน สิ่งที่เชื่อมโยงเรามากกว่าสิ่งที่แบ่งแยก และใช้สิ่งเหล่านี้เพื่อจินตนาการถึงสังคมที่ยุติธรรมและเท่าเทียมกันมากขึ้นที่อาศัยอยู่อย่างกลมกลืนกับธรรมชาติ
โปเนียว ธิดามหาสมุทรผจญภัย (Ponyo On The Cliff By The Sea)
โปเนียว เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับปลาทองวิเศษที่ติดอยู่ในเศษขยะที่ถูกกวนโดยเรือประมงลากอวนขนาดใหญ่ และได้รับการช่วยเหลือจากเด็กชายตัวเล็กๆคนหนึ่งชื่อ โซสึเกะ (Sosuke) เดิมทีปลาทองวิเศษตัวนี้เป็นลูกของเจ้าสมุทรที่พลัดหลงมาได้โซสึเกะช่วยไว้ โซสึเกะได้รับบาดเจ็บนิดหน่อยปลาทองจึงได้เลียนิ้วของเขา หลังจากนั้นเธอก็กลายร่างมาเป็นมนุษย์เด็กตัวเล็กๆ เพราะได้รับเลือดจากมนุษย์ ทั้งคู่ได้ทำความรู้จักกันและโซสึเกะตั้งชื่อให้เธอว่าโปเนียว และทั้งสองก็ตกหลุ่มรักกันตามประสาเด็กๆ
อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงของโปเนียวทำให้เกิดความไม่สมดุลในโลกธรรมชาติ พายุรุนแรงโหมกระหน่ำ น้ำท่วมหมู่บ้านโซสึเกะ และคุกคามพ่อแม่ของเขา ดวงจันทร์เข้ามาใกล้โลกมากขึ้น ความรักของโซสึเกะและโปเนียวถูกทดสอบเมื่อชะตากรรมของโลกแขวนไว้อย่างสมดุล
ข้อความด้านสิ่งแวดล้อมของ Ponyo ชัดเจน: ต้องเคารพความสมดุลทางธรรมชาติของโลก ความงดงามของมหาสมุทรที่เต็มเปี่ยมไปด้วยชีวิต ควบคู่ไปกับความอัปลักษณ์ของมลภาวะ พ่อมดขี้โมโหของโปเนียว เกลียดชังมนุษย์เพราะทิ้งขยะลงทะเลทำให้ทะเลสกปรก
แต่ความเกลียดชังสิ้นสุดลงที่นั่น ในที่สุด ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ได้เผยความร่าเริงแบบเด็กๆ โดยเน้นที่ความสัมพันธ์ระหว่างโปเนียวและโซสึเกะ งานศิลปะมีความสดใสและโดดเด่น โดยมีภาพที่เป็นธรรมชาติ เช่น โปเนียวแข่งบนยอดคลื่นที่มีรูปร่างคล้ายปลายักษ์
สตูดิโอจิบลิยังทำเรื่องราวอีกมากมายที่น่าสนใจเพียบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความรัก เรื่องความทรงจำวัยเก่า เรื่องการผจญภัย ชีวิตที่ว้าวุ่นติดอยู่ห้วงภวังของความผิดหวังที่ไม่จำเป็นต้องผู้ใหญ่เท่านั้นที่สามารถดูได้ บางเรื่องได้แฝงควมสดใสเพื่อเด็กๆสามารถเข้าถึงได้ด้วย พร้อมความสนุกของเรื่องอีกมากมายที่รอให้เราเข้าไปค้นหา
ที่มาข้อมูล
https://www.inverse.com/culture/studio-ghibli-environmental-themes
https://blogs.sierraclub.org/greenlife/2009/09/movie-review-friday-ponyo.html
https://www.acmi.net.au/stories-and-ideas/my-neighbour-totoro-studio-ghibli-acmi-legacy-2018/
https://muse.jhu.edu/article/614508/pdf
เครดิตภาพ
https://chrome.google.com/webstore/detail/ponyo-themes-new-tab/oifdaihlieaimkgamkidephajoblnjhj/reviews?hl=th