มีด้วยเหรอ ลงทุนคริปโตโดยไม่ต้องลงแรง ไม่ต้องศึกษา ไม่ต้องส่องกราฟ?

เมื่อเดือนมกราคม 2565 รายงาน Digital 2022 Global Overview โดย We Are Social และ Hootsuite เผยข้อมูลว่า คนไทยมีสัดส่วนการถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลต่อจำนวนประชากรผู้ใช้อินเทอร์เน็ตอายุ 16 - 64 ปี อยู่ที่ 20.1% สูงสุดเป็นอันดับหนึ่งของโลก!

ถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลมากและยังโดนโกงหนักมาก

อย่างที่เรารับรู้กันว่า การลงทุนมีความเสี่ยง ซึ่งความเสี่ยงด้านสินทรัพย์ดิจิทัลนั้นสูงกว่าการเทรดหุ้นแบบดั้งเดิม เนื่องจากตลาดนี้มีความผันผวนสูง และมีเทคโนโลยีหลากหลายอยู่เบื้องหลัง 

ถึงอย่างนั้น ก็มีผู้คนจำนวนมากกระโดดเข้ามาลงทุนคริปโต เพราะมองว่าเป็นช่องทางรวยเร็ว กอปรกับมีโค้ชด้านการเทรดคริปโตเกิดขึ้นมากมายที่กระตุ้นให้ลงทุนด้วยการเผยแพร่คลิปรถหรู ภาพบ้านหลังใหญ่อลังการ ทำให้ตลาดคริปโตเป็นช่องทางรวยทางลัด

และด้วยข้อจำกัดด้านการใช้งานเครื่องมือต่างๆ ด้านกฎระเบียบที่มีการบังคับใช้ กับความไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ ผู้ลงทุนบางส่วนจึงสูญเงินไปกับ การโอนผิดๆ ถูกๆ, โดนคนกลางที่ช่วยจัดการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (P2P) โกง, โดนโค้ชหรือนักต้มตุ๋นหลอกให้ตายใจก่อนหลอกเอาเงิน, โดนแฮกเนื่องจากไม่ได้ป้องกันหรือไม่มีความรู้ด้าน Cyber Security เพียงพอ ฯลฯ 

Merkle Capital x TrueMoney เกมการลงทุนที่ Win ทั้งคู่

เนื่องจากช่องทางลงทุนที่เชื่อถือได้ยังมีให้เลือกไม่มากนักในประเทศไทย เมอร์เคิล แคปปิตอล (Merkle Capital)  ผู้ให้บริการจัดการลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลผ่านกลยุทธ์ ซึ่งเป็นรายแรกที่ได้รับอนุญาตให้เป็น ผู้จัดการเงินทุนสินทรัพย์ดิจิทัล จาก ก.ล.ต. ได้สำเร็จ

ที่ผ่านมา เมอร์เคิลให้บริการนักลงทุนที่เปย์หลัก 3 แสนขึ้นไป เมื่อร่วมมือกับ ทรูมันนี่ (TrueMoney) ผู้ให้บริการด้านการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์และผู้ให้บริการทางการเงินแบบดิจิทัลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปิดพอร์ตลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลผ่านแอป e-Wallet ของทรูมันนี่เอง โดยสตาร์ทที่ขั้นต่ำ 3,000 บาท ไม่ว่าจะลงทุนในกองทุน Bitcoin, Blockchain, Metaverse และหลังจากนั้นก็จะมีผู้เชี่ยวชาญนำไปบริหารจัดการต่อ

เป็นอีกช่องทางการลงทุนที่คนไทยเข้าถึงได้สะดวกขึ้น บริษัทก็สามารถทำตลาดในระดับที่แมสขึ้น ด้วยจุดขายที่ว่า ลงทุนคริปโตแบบง่ายๆ เทรดไม่เป็นก็ลงทุนคริปโตได้ในแบบที่มีผู้เชี่ยวชาญจัดการให้

ในด้านความร่วมมือระหว่าง เมอร์เคิล แคปปิตอล กับ ทรูมันนี่ อัครเดช เดี่ยวพานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมอร์เคิล แคปปิตอล จำกัด กล่าวว่า ถือเป็นมิติใหม่ของการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล เนื่องจากเป็นครั้งแรกที่เปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลผ่านแพลตฟอร์มอีวอลเล็ต และมีคนบริหารจัดการเงินลงทุนต่อ ไม่ต้องส่องกราฟหรือติดตามราคาขึ้นลงด้วยตัวเอง

งานนี้ เมอร์เคิล แคปปิตอล ปลดล็อกจากการทำตลาดระดับไฮเอนด์ลงมาที่ระดับแมส ซึ่งไม่ใช่แค่แมสธรรมดา เพราะการเลือกจับมือกับ ทรูมันนี่ ซึ่งมีผู้ใช้งานแอปพลิเคชันในปัจจุบันมากกว่า 24 ล้านราย เท่ากับว่า เมอร์เคิล สามารถเข้าถึงลูกค้าใหม่เป็นวงกว้าง และที่สำคัญ เป็นลูกค้าที่ผ่านการยืนยันตัวตนเพื่อใช้แอปในการใช้จ่ายมาแล้วระดับหนึ่ง

แพลตฟอร์มทางเลือกของมือใหม่ นักเทรดมือเป็นระวิง รวมถึงคนขี้เกียจศึกษา?

อัครเดชกล่าวถึงสาเหตุที่พาธุรกิจเข้าสู่ตลาดแมสว่า ก่อนหน้านี้ เมอร์เคิลเล็งเห็นว่ายังมีคนอีกจำนวนมากที่มีความสนใจเกี่ยวกับการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล

"เพียงแต่ยังไม่ได้เริ่มเนื่องจากไม่คุ้นเคยและคิดว่าเป็นเรื่องยากที่จะทำความเข้าใจ ทำให้ไม่รู้ว่าต้องเริ่มต้นอย่างไร หรือคิดว่าไม่มีเวลาดูตลาดเพราะมูลค่าคริปโตนั้นมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา 

"เราจึงเพิ่มทางเลือกในการลงทุนคริปโต ทั้งสำหรับนักลงทุนมือใหม่และนักลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลทั่วไปที่ต้องการกระจายการลงทุนมายังสินทรัพย์ดิจิทัลในแบบที่มีผู้เชี่ยวชาญจัดการให้ โดยเมอร์เคิลมีทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ในการบริหารจัดการลงทุนด้านนี้อยู่แล้ว ก็จะช่วยให้นักลงทุนรายย่อยเข้าถึงการลงทุนในรูปแบบที่ไม่ซับซ้อนและปลอดภัย"

มาที่ฝั่งผู้ให้บริการ ทรูมันนี่ วอลเล็ต ธัญญพงศ์ ธรรมาวรานุคุปต์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัด กล่าวถึงแนวคิดเรื่องการให้บริการด้านการลงทุนว่า 

“แอสเซนด์ มันนี่ ต้องการช่วยให้ทุกคนเข้าถึงนวัตกรรมทางการเงินและชีวิตที่ดีขึ้น ที่ผ่านมาเราจับมือพันธมิตรชั้นนำเพื่อเปิดให้บริการทางการเงินและการลงทุนอันหลากหลาย ด้วยมุ่งหวังให้คนไทยที่อยากลงทุนแต่ติดข้อจำกัดในด้านต่างๆ สามารถเข้าถึงการสร้างความมั่นคงทางการเงินและการลงทุนได้ง่ายๆ ผ่านแอปพลิเคชันทรูมันนี่ วอลเล็ต ไม่ว่าจะเป็นการฝากเงิน ลงทุนในกองทุนรวม การจองซื้อหุ้นกู้"

ธัญญพงศ์อธิบายความเปลี่ยนแปลงของตลาดการลงทุน และการเข้าถึงผู้สนใจลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลรายย่อยว่า

“ก่อนหน้านี้ ผู้ที่สนใจและมีศักยภาพในการลงทุนคริปโตและเทรดเองมักเป็นกลุ่มคนที่มีเงินออมเยอะและมีรายได้สูง เนื่องจากต้องมีเวลาในการศึกษาและติดตามการเปลี่ยนแปลงราคาของสินทรัพย์ได้ตลอด 

"ทรูมันนี่ จึงจับมือกับเมอร์เคิล แคปปิตอล ศึกษาความต้องการของผู้ที่สนใจลงทุนด้านสินทรัพย์ดิจิทัลเพื่อออกแบบแพลตฟอร์มและช่วยขยายโอกาสให้ผู้ที่สนใจทั่วไปสามารถเปิดพอร์ตลงทุนคริปโตในแบบที่มีผู้เชี่ยวชาญดูแลผ่านแอปพลิเคชันทรูมันนี่ วอลเล็ต ง่ายๆ ใน 5 นาที และใช้เงินลงทุนเริ่มต้นแค่ 3,000 บาท"

ปิดท้ายด้วยตัวเลขคาดการณ์ว่า จะมีผู้ใช้บริการไม่ต่ำกว่า 200,000 ราย ภายในสิ้นปีนี้

แม้จะมีแพลตฟอร์มใหม่ๆ มาช่วยให้การลงทุนง่ายขึ้น แต่สิ่งที่อยากฝากไว้สำหรับมือใหม่หรือมือสมัครเล่นที่ต้องการลงทุนคริปโตแบบลดเสี่ยงและปลอดภัยมากขึ้น อย่างน้อยๆ ควร 1) ศึกษารายละเอียดและแนวโน้มของสกุลเงินดิจิทัลที่สนใจ 2) เรียนรู้การใช้เครื่องมือหรือแพลตฟอร์มที่เกี่ยวข้อง และ 3) เลือกใช้ช่องทางลงทุนที่เชื่อถือได้หรือผ่านการตรวจสอบโดยสถาบัน/องค์กรที่ได้รับการยอมรับ ตามความสามารถหรือข้อจำกัดของตัวเองว่า แบกรับความเสี่ยงได้มากน้อยแค่ไหน

——————————————————————————
ติดตามข่าว ไอที เทคโนโลยี นวัตกรรม ธุรกิจดิจิทัล สำหรับไลฟ์สไตล์ในโลกยุคใหม่ได้ที่สปริงนิวส์ www.springnews.co.th