svasdssvasds

ยุคน้ำมันแพง! เลือกเติมน้ำมันอย่างไร ให้คุ้มและประหยัดที่สุด

ยุคน้ำมันแพง! เลือกเติมน้ำมันอย่างไร ให้คุ้มและประหยัดที่สุด

เมื่อสถานการณ์ทำให้น้ำมันราคาสูงขึ้น แต่ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะใช้รถ มาเช็ควิธีในการเลือกเติมน้ำมันให้คุ้มค่าและประหยัดค่าใช้จ่ายที่สุด

เบื้องต้นการใช้รถยนต์ก็อาจจะดูจากคู่มือ และตรงฝาถังได้ ว่ารถยนต์และเครื่องยนต์ของเรารองรับน้ำมันแบบไหนบ้าง แต่หากเรามีความรู้ว่าน้ำมันออกเทนแบบไหนควรใช้ในช่วงไหน

น้ำมันเบนซิน 95 

เป็นน้ำมันที่รถเบนซินใช้ได้ทุกคัน เบนซิน 95 เป็นน้ำมันที่เผาไหม้ได้ดีที่สุด และป้องกันเครื่องยนต์ได้ดีที่สุด การเผาไหม้สมบูรณ์ และทำให้สมรรถนะการขับขี่ดี ซึ่งสังเกตได้ว่า รถยนต์เก่าที่ต้องการรักษาเครื่องยนต์มักนิยมใช้น้ำมันเบนซิน 95 แต่ข้อเสียก็คือราคาสูงเช่นกัน

แก๊สโซฮอลล์ 95 

เป็นน้ำมันเบนซินที่ผสมกับเอทานอลหรือเอทิลแอลกอฮอลล์ ที่ต้องสังเกตคือ หากรถไม่มีระบุว่าใช้ได้ก็ไม่ควรจะใช้ เพราะอาจกัดกร่อนเครื่องยนต์ได้ แต่ไม่เหมาะกับรถที่จอดทิ้งไว้นานๆ เพราะจะระเหยและทำให้น้ำมันเสียได้

แก๊สโซฮอลล์ 91 

เป็นน้ำมันเบนซินที่ตอบสนองได้ดีรองจากแก๊สโซฮอลล์ 95 และหากรถระบุว่าสามารถเติม 91 ได้ รถคันนั้นจะสามารถเติมได้ทั้ง เบนซิน 95 และแก๊สโซฮอลล์ 95 ซึ่งน้ำมันชนิดนี้ก็ไม่เหมาะกับรถจอดทิ้งไว้นานเช่นกัน เพราะระเหยง่าย

แก๊สโซฮอลล์ E20

พูดง่ายๆก็คือ เบนซิน 80 : เอทานอล 20 ได้เป็นน้ำมัน E20 ควรเช็คก่อนว่ารถยนต์รองรับได้หรือไม่ หากไม่มีระบุ ห้ามเติมน้ำมันชนิดนี้เด็ดขาด แต่ถ้าเติมได้ น้ำมันชนิดนี้แทบจะทดแทนน้ำมัน 95 ได้เลยในราคาที่ถูกกว่า แต่ก็ไม่เหมาะกับรถจอดเช่นกัน

แก๊สโซฮอลล์ E85 

หลักการเดิม แต่เปลี่ยนสัดส่วน เบนซิน 15: เอทานอล 85 ซึ่งน้อยคันที่จะรองรับน้ำมันประเภทนี้ แต่ถ้าหากรองรับก็จะได้น้ำมันที่ถูกและประหยัดที่สุด สมรรถนะใกล้เคียง 95 แต่จะวิ่งระยะทางได้น้อยลง สังเกตว่ามีการซื้อกล่องแต่งรถยนต์เพื่อจูนให้เติมน้ำมัน E85 กัน 


 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

น้ำมันดีเซล

น้ำมันดีเซลจะช่วยให้มีแรงบิดรอบสูง กำลังดีกว่า มักใช้ในรถบรรทุก รถกระบะ รถบัส และรถใหม่ๆก็หันมาใช้เทคโนโลยีดีเซลกันบ้างแล้ว 

ดีเซล B7

ชื่อ B7 มาจากสัดส่วนของไบโอดีเซลที่อยู่ในน้ำมันดีเซล ซึ่งน้ำมันดีเซล B7 จะมีไบโอดีเซลอยู่ 6.6 – 7.0% ซึ่งจะเหมาะกับรถเก่า รถยุโรป ใครที่ต้องการรักษาเครื่องยนต์ก็แนะนำให้ใช้ B7

เช่น  Benz, Hyundai, Tata, Bmw, Honda, Mazda, Audi เป็นต้น

ดีเซล B10 

B10 ก็ตามหลักการเดียวกับ B7 สัดส่วนไบโอดีเซลผสมอยู่ในน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 9 – 10% ซึ่งจะเหมาะกับรถรุ่นใหม่ๆ เช่น Toyota, Izusu, Nissan, Ford, Chevrolet, Mitsubishi เป็นต้น


 

สรุปข้อมูลเหล่านี้ก็จะทำให้คุณทราบว่า รถของคุณเหมาะกับน้ำมันแบบไหน เช่น

รถใช้งานทุกวัน

แนะนำทำให้เติมแก๊สโซฮอลล์ต่างๆได้ตามที่คู่มือรถแนะนำ เช่น แก๊สโซฮอลล์ 95 91 E20 E85 ตามที่รถรองรับ ส่วนของน้ำมันดีเซลก็เลือกตามรุ่นและปีของรถที่เหมาะสมได้เลย

รถจอดนานและไม่ได้ใช้งานทุกวัน หรือรถสะสม

แนะนำให้เติมเบนซิน 95 เพราะระเหยช้า และสามารถรักษาเครื่องยนต์ได้ดี เพราะหากคุณเติมแก๊สโซฮอลล์ก็จะทำให้น้ำมันระเหยไปไว และเมื่อคุณต้องการจะใช้น้ำมันอาจลดไปเหลือน้อยก็เป็นได้

รถที่ต้องการใช้ความเร็ว 

แน่นอนการใช้เบนซิน 95 ที่ค่าออกเทนสูงสุด จะช่วยรีดกำลังเครื่องได้ดีที่สุด

แต่การเลือกใช้น้ำมัน E85 สามารถช่วยให้รีดสมรรถนะกำลังของเครื่องและประหยัดอีกด้วย แต่ก็น้อยรุ่นที่จะสามารถเติมได้ ก็สามารถลองหาข้อมูลเรื่องการโมดิฟายให้เครื่องยนต์คุณสามารถเติม E85 ได้เช่นกัน

รถที่ต้องเดินทางต่างจังหวัด

แนะนำให้ใช้น้ำมันแก๊สโซฮอลล์ 91 หรือ 95 ตามสมรรถนะที่ต้องการ หากคุณใช้ความเร็วสูง ก็จำเป็นต้องเติม 95 แต่หากคุณขับสบายๆไม่รีบร้อน 91 ก็จะช่วยคุณประหยัดได้ดี และหากรถคุณเติม E20 ได้ก็ถือว่าดีมากๆสำหรับทั้งสมรรถนะและความประหยัดในด้านราคา

เมื่อคุณจับหลักได้แล้วว่าคุณใช้รถยนต์สไตล์ไหน การขับขี่แบบไหน และรถของคุณรองรับอะไรบ้าง การเติมน้ำมันของคุณก็จะเป็นเรื่องที่วางแผนได้ และช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้เป็นอย่างดี 


 

related