โลก Metaverse เป็นเรื่องใกล้ตัวมากขึ้น แม้ตอนนี้จะยังไม่เป็นรูปเป็นร่างเท่าที่ควร แต่มันมาแน่ แล้วเราจะเตรียมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้อย่างไร ? 10 อาชีพที่จะรองรับ Metaverse ภายในปี 2030
จำปี 2016 ได้ไหม ? กับกระแส Pokemon GO ที่แพร่ระบาดไปทั่วโลก และหลายคนรู้สึกว่าเราอยู่ในจุดสุดยอดของการปฏิวัติเทคโนโลยีความเป็นจริงเพิ่มเติม (Augmented Reality: AR) จนถึงปัจจุบันนี้ 2022 สิ่งนี้ยังไม่เกิดขึ้นจริง แต่เทคโนโลยีเหล่านี้ก็กลับกลายเป็นประเด็นอีกครั้ง เมื่อ Facebook เปลี่ยนชื่อเป็น Meta พร้อมกับการลงทุนอย่างเต็มที่เพื่อที่จะสร้างโลกแห่งอนาคตอย่าง Metaverse เพื่อให้เราทุกคนดื่มด่ำอย่างเต็มที่กับโลกดิจิทัล
แม้วันนี้โลก Metaverse อาจยังดูเลือนลางแทบเป็นไปไม่ได้ในความเป็นจริง แต่เทคโนโลยีก็พัฒนาตัวเองอย่างรวดเร็ว นอกจากที่ Meta จะลงทุนในเทคโนโลยี AR ก็ยังมีอีกหนึ่งเทคโนโลยีอย่างความเป็นจริงเสมือน (Virtual Reality: VR) และลงทุนสร้างซูเปอร์คอมพิวเตอร์ AI ที่เร็วที่สุดในโลกเป็นของตัวเองอีกด้วย
ปล่อยให้เรื่องการพัฒนาเทคโนโลยีเหล่านั้นเป็นหน้าที่ของเหล่าบิ๊กเทค แล้วเรามาเตรียมความพร้อมสำหรับ Metaverse ที่กำลังใกล้เข้ามาสำหรับตัวเองดีกว่า จะมีอาชีพไหนบ้างที่เหมาะกับการรองรับ Metaverse ที่กำลังมาแรง
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง :
1. นักวิทยาศาสตร์วิจัย Metaverse
นักวิทยาศาสตร์ด้านการวิจัย AR และ VR ได้กลายเป็นส่วนสำคัญของมหาวิทยาลัยชั้นนำและบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่อยู่แล้ว แต่เนื่องจาก Metaverse กำลังเป็นแนวคิดที่ถูกยอมรับมากขึ้นอย่างช้า ๆ แน่นอนว่าเราต้องการมันสมองมากขึ้นสำหรับงานนี้
งานของนักวิทยาศาสตร์วิจัย Metaverse ไม่ใช่เพียงแค่ปั้นโมเดลสิ่งของต่าง ๆ ในโลกความเป็นจริงไปสู่โมเดลดิจิทัล แต่นักศาสตร์วิจัย Metaverse จะต้องสร้างทุกสิ่งให้ลงลึกถึงหลักทฤษฎีเพื่อให้ Metaverse ใกล้เคียงกับความเป็นจริงมากที่สุด เพื่อการใช้งานที่ซับซ้อน ใน เกม , โฆษณา , การควบคุมคุณภาพในโรงงาน , ดูแลสุขภาพ, DeFi และ ฯลฯ
เมื่อ Metaverse มีความใกล้เคียงโลกความเป็นจริงมาก ในท้ายที่สุด Metaverse ก็จะหลุดจากโลกความเป็นจริง แต่ต้องผ่านด่านเหล่านี้ไปให้ได้ก่อน ทั้ง การสร้างวัตถุให้มีเทกเจอร์และคุณสมบัติให้เหมือนกับความเป็นจริง เพื่อนำไปต่อยอดสู่การสร้างฉาก สร้างภาพ 3 มิติ เมื่อสร้างขึ้นมาแล้วก็ต้องสามารถถ่ายภาพแบบ 3 มิติ เข้าไปแทรกในภาพได้เหมือนกับโฮโลแกรม การวัดระยะด้วยระบบคอมพิวเตอร์ หรือ การกะระยะจากสายตา , การประมาณสถานะ , ฟิวชั่นเซ็นเซอร์ , การทำแผนที่ และอีกมากมาย
เตรียมความพร้อมที่จะเป็นนักวิทยาศาสตร์วิจัย Metaverse ได้อย่างไร : รับปริญญาเอกด้านการเรียนรู้เชิงลึก คอมพิวเตอร์วิทัศน์ คอมพิวเตอร์กราฟิก หรือภาพคอมพิวเตอร์
2. นักวางแผน Metaverse
ไม่ต่างจากโลกความเป็นจริง Metaverse ต้องการทิศทาง แล้วใครละที่จะมานำทางให้ถ้าไม่ใช่ นักวางแผน Metaverse เพื่อรีดความสามารถของ Metaverse ออกมาให้มากที่สุด รวมถึงการปรับใช้ฟังก์ชันต่าง ๆ ให้มีความเหมาะสม
เมื่อซีอีโอกำหนดวิสัยทัศน์และกลยุทธ์สำหรับการสร้างและการเติบโตของรายได้ของธุรกิจใน Metaverse นักวางแผนเหล่านี้จะต้องเข้ามาขับเคลื่อนเพื่อให้เป็นไปตามกลยุทธ์ที่วางไว้ รวมไปถึงการพิสูจน์แนวคิดตลอดจนนำร่องสู่การใช้งานจริง เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจ
เตรียมความพร้อมที่จะเป็นนักวางแผน Metaverse ได้อย่างไร : มีประสบการณ์การจัดการมาหลายปี ความรู้เกี่ยวกับรูปแบบการตลาดและธุรกิจของ HW/SW/SaaS/PaaS และแนวคิดในการเป็นผู้ประกอบการที่ยอดเยี่ยม
3. ผู้พัฒนาระบบนิเวศ Metaverse
กว่าที่ Metaverse จะสำเร็จเป็นรูปร่าง ไม่ใช่แค่เรื่องของการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อให้เกิดขึ้น แต่ในโลกความเป็นจริงทั้งหมดจะต้องถูกสร้างระบบนิเวศที่เหมาะสมสำหรับ Metaverse ด้วย ทั้ง เซนเซอร์ , ซีพียู , GPU , กระบวนการรู้จักลูกค้า (KYC) , บิ๊กดาต้า , การผลิตไฟฟ้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม , การประมวลผลแบบเอดจ์ , กฎหมาย , ระเบียบข้อบังคับ และอีกเยอะแยะ เพราะโลกนี้ซับซ้อน และการทำให้เป็นดิจิทัลมากขึ้น ไม่ใช่เรื่องง่าย
นักพัฒนาระบบนิเวศ Metaverse จะรับผิดชอบในการประสานงานของคู่ค้าและรัฐบาลเพื่อให้แน่ใจว่าฟังก์ชันต่าง ๆ ที่สร้างขึ้นจะเป็นไปได้ในวงกว้าง สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่พวกเขาจะต้องมุ่งเน้นคือการทำงานร่วมกัน เพื่อให้แน่ใจว่าลูกค้า Metaverse สามารถใช้ไอเท็มเสมือนของพวกเขาในประสบการณ์ที่แตกต่างกัน ไม่ใช่แค่จมอยู่ในโลกเสมือนและไม่สามารถนำออกมาอวดในโลกแห่งความเป็นจริงได้
เตรียมความพร้อมที่จะเป็นนักพัฒนาระบบนิเวศ Metaverse ได้อย่างไร : มีประสบการณ์ในภาครัฐ/ล็อบบี้มาหลายปีและมีความเข้าใจอย่างถ่องแท้เกี่ยวกับอุตสาหกรรม Extended Reality (XR) ที่กำลังเติบโต
4. ผู้จัดการความปลอดภัย Metaverse
แน่นอนว่าทุกอย่างย่อมมีสองด้าน อินเทอร์เน็ตดีอย่างไร อินเทอร์เน็ตก็มีโทษและไม่ปลอดภัย Metaverse เองก็เช่นกัน และใครที่กำลังอ้างว่า Metaverse ดีและปลอดภัยกว่า นั่นเป็นคำโกหกอย่างแน่นอน ประเด็นคือเราจะทำอย่างไรให้มั่นใจได้ว่า Metaverse จะปลอดภัยแหละเหมาะกับทุกคนมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อให้ไม่เกิดสิ่งร้าย ๆ ขึ้นกับตัวเองหรือคนรอบตัว
ความเป็นส่วนตัว การตรวจสอบ ID ในโลก ชุดหูฟังที่ปลอดภัย เซ็นเซอร์ที่เพียงพอ เราต้องการบุคลากรที่สามารถให้คำแนะนำและกำกับดูแลสิ่งเหล่านี้ได้ในระหว่างการออกแบบ จนไปถึงการผลิตจำนวนมาก เพื่อให้แน่ใจว่าโลกดิจิทัลของเราปลอดภัยและตรงตามหรือเกินกว่าข้อกำหนดด้านความปลอดภัยที่บังคับใช้ ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ นอกจากนี้จะต้องทำการป้องกันไม่ให้นำ Metaverse ไปใช้ในทางที่ผิด
เตรียมความพร้อมที่จะเป็นผู้จัดการความปลอดภัย Metaverse ได้อย่างไร : มีปริญญาวิศวกรรมศาสตร์และเครื่องใช้ไฟฟ้า/ประสบการณ์การผลิต
5. ผู้ผลิตฮาร์ดแวร์สำหรับ Metaverse
Metaverse ไม่ใช่เพียงการเขียนโค้ดต่าง ๆ แต่ยังจะต้องอาศัยอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์อีกมาก ซึ่งปัจจุบันก็มีชุดหูฟังที่มีทำให้เห็นภาพใน Metaverse ได้ ซึ่งต่อไปจะพัฒนาไปการสัมผัสสิ่งของใน Metaverse หรือการถูกสัมผัสกลับมา ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องอาศัยเซนเซอร์จำนวนมาก หรือการจำลองสถานการณ์ที่เกิดขึ้นใน Metaverse จนคุณสัมผัสได้ในโลกแห่งความเป็นจริง เช่น ความร้อน แรงเฉื่อย แรงที่มาตกกระทบ กฎฟิสิกส์ต่าง ๆ การทำแผนที่ และโลคัลไลเซชัน
ฮาร์ดแวร์ทั้งหมดนี้ เพื่อการสร้าง Metaverse ที่เชื่อมโยงกับโลกแห่งความเป็นจริงที่สมบูรณ์แบบ ซึ่งมีราคาสูงลิ่วและซับซ้อน และจะยิ่งยากมากขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อความสมจริงที่สุด ความท้าทายคือจะทำอย่างไรให้อุปกรณ์เหล่านี้มีราคาถูกและปลอดภัยเพื่อให้คนส่วนมากเข้าถึง Metaverse ได้
เตรียมความพร้อมที่จะเป็นผู้ผลิตฮาร์ดแวร์สำหรับ Metaverse ได้อย่างไร : มีโรงงานที่สามารถสร้างอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภคที่ซับซ้อนได้
6. นักเล่าเรื่อง Metaverse
เนื่องจากประสบการณ์ด้านเศรษฐกิจและแนวคิดเรื่อง Gamification ยังคงดำเนินต่อไป เราจึงขอให้ประสบการณ์ความเป็นจริงที่ขยายออกไปของเรามีโครงเรื่องที่ยอดเยี่ยมที่อาจเรียนรู้บทเรียนที่ยิ่งใหญ่ได้ เราต้องการที่จะหัวเราะ เราอยากจะร้องไห้ เราต้องการที่จะเรียนรู้ เราต้องการเห็นสิ่งประหลาดเล็กน้อยในโลกดิจิทัล นี่คือที่มาของนักเล่าเรื่อง Metaverse
Metaverse ก็ไม่ต่างจากเกม ทุกคนต่างต้องการประสบการณ์ดี ๆ เนื้อเรื่องที่ลึกซึ้ง และหาไม่ได้จากในชีวิตจริง ไม่ใช่ว่าผู้คนจำนวนมากเล่นเกมเพื่อหลีกหนีจากความน่าเบื่อหน่ายในชีวิตประจำวันของพวกเขาหรอกหรือ ? Metaverse ก็เป็นเครื่องมือที่เหมาะสมในการมอบโลกแห่งจินตนาการที่ล้ำหน้ายิ่งกว่าเกมไม่ใช่เหรอ?
เตรียมความพร้อมที่จะเป็น นักเล่าเรื่อง Metaverse : มีวิชาเอกด้านวรรณกรรมกับ Marketing Minor เริ่มต้นอาชีพของคุณที่บริษัทเกม แล้วเปลี่ยนไปใช้ Tech
7. ผู้สร้างโลก
เมื่อเราสร้างสถาปัตยกรรม ฮาร์ดแวร์ และโครงเรื่องแล้ว เรายังคงต้องสร้างโลกทั้งใบ เพราะ Metaverse ไม่ใช่แค่แผนที่แผ่นเดียว แต่เชื่อมต่อกันเป็นโลกทั้งใบ ซึ่งจะต้องใช้ทักษะหลายในการออกแบบโลกทั้งใบ จะต้องคิดล่วงหน้าถึงสิ่งที่จะต้องเผชิญ
ผู้สร้างโลกจะต้องพิจารณากฎและจริยธรรมด้วย เมื่อ Metaverse ให้ความรู้สึกเหมือนจริง จะฆ่าใครในนั้นได้ไหม ? ก่ออาชญากรรม ? สงคราม ? คำถามเหล่านี้จะต้องมีคำตอบ
วิธีที่จะเป็นผู้สร้างโลก: เป็นครึ่งนักรบ-กวี ครึ่งกราฟิกดีไซเนอร์ เก่งในมายคราฟก็ไม่เสียหายอะไร
8. ผู้เชี่ยวชาญด้านการบล็อกโฆษณาใน Metaverse
แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียทำเงินได้อย่างไร ? พวกเขาขายโฆษณา และแน่นอนว่า Metaverse เองก็จะไม่ต่างกัน เต็มไปด้วยโฆษณา ซึ่งมันน่ารำคาญไหม ? และทีนี้มันจะตามหลอกหลอนคุณไปทั่วโลกอย่างแท้จริง
เพราะฉะนั้นผู้เชี่ยวชาญด้านการบล็อกโฆษณาจะเข้ามาทำหน้าที่ ป้องกันคุณจากความน่าเบื่อหน่ายจากโฆษณาเหล่านั้น ซึ่งน่าจะมาในลักษณะของปลั๊กอินเหมือนกับ AdBlock Plus หรือไม่ก็คงต้องจ่ายค่าซับสคริปชัน
จะเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการบล็อกโฆษณาใน Metaverse ได้อย่างไร : มีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการเข้ารหัสและเข้าถึงซอร์สโค้ดของ Metaverse
9. ผู้เชี่ยวชาญความปลอดภัยทางไซเบอร์ในโลก Metaverse
Metaverse เป็นเป้าหมายที่สมบูรณ์แบบสำหรับการโจมตีทางไซเบอร์และการฉ้อโกง อวตารที่ถูกแฮ็ก การโจรกรรม NFT การรั่วไหลของข้อมูลไบโอเมตริก/สรีรวิทยา (รูปแบบคลื่นสมอง ใครๆ ก็ตาม) หูฟังที่ถูกแฮ็ก ความเป็นไปได้สำหรับสิ่งที่ผิดพลาดนั้นแทบจะนับไม่ถ้วน
นี่คือเหตุผลที่เราต้องการผู้เชี่ยวชาญความปลอดภัยทางไซเบอร์ในโลก Metaverse ผู้ที่จะบล็อกการโจมตีในแบบเรียลไทม์ และจะรับรองว่ากฎหมายและโปรโตคอลได้รับการพิจารณาใหม่และแก้ไข และอาจถึงขั้นคิดค้นขึ้นเพื่อรวมความเสี่ยงทั้งหมดของ Metaverse
จะเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ของ Metaverse ได้อย่างไร : มีพื้นฐานในการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์เป็นประจำและ/หรือปริญญาด้านกฎหมายที่มีความโน้มเอียงทางเทคโนโลยี
10. ผู้ฝึกงานที่ไม่ได้รับค่าจ้าง
อาจฟังดูเป็นเรื่องตลก แต่เหล่าผู้ฝึกนี่แหละจะเป็นฐานสำหรับการสร้าง Metaverse พวกเขาจะมีหน้าที่ในการเขียนโค้ดสำหรับหิน ดิน ทราย ต้นไม้ และอีกหลากหลายที่เป็นรายละเอียดปลีกย่อยต่าง ๆ ที่โลก Metaverse ต้องการ
และเราควรคารวะการเสียสละของพวกเขา รวมไปถึงควรจ่ายเงินให้พวกเขา