หนัง Tick, Tick... Boom! รีวิว เรื่องย่อ ที่พูดถึงประเด็น ความฝัน ความทะเยอทะยาน เติมไฟชีวิต พร้อมกับการตั้งคำถาม ถึงจุดประสบความสำเร็จในชีวิต ที่ทำไม ต้องเอาตัวเลข 30 ปี มากำหนดว่า ต้องมีสิ่งต่างๆครบครัน ต้องได้ทำตามความฝัน แล้วการไปถึงฝัน มันต้องแลกอะไรในชีวิตมากมาย
ภาพยนตร์ Tick, Tick... Boom! ถือเป็นภาพยนตร์มิวสิคัล ดราม่า เรื่องล่าสุด ที่ Streaming ทาง Netflix ซึ่งกลายเป็นตัวเต็งหนึ่งในรางวัลใหญ่ ออสการ์ ปี 2022 โดยภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นผลงานการกำกับของ ลิน-เอ็มมานูเอล มิรานด้า (Lin-Manuel Miranda) และได้นักแสดงชั้นนำอย่าง แอนดรูว์ การ์ฟิลด์ (เจ้าของบท ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ จาก The Amazing Spider-Man) มาเป็นนักแสดงนำซึ่งต้องบอกเลยว่า เรื่องนี้ แอนดรูว์ การ์ฟิลด์ ต้องมีสิทธิ์ชิงนักแสดงนำชายออสการ์อย่างไม่ต้องสงสัย
.
สำหรับ หนัง Tick, Tick... Boom! แม้จะเป็นหนังมิวสิคัล แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไรในการเข้าถึง และสัมผัสเรื่องราว ชีวิตของ โจนาธาน ลาร์สัน Jonathan David Larson ซึ่งเป็นตัวละครเอกของเรื่อง โดยเขาทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟในนิวยอร์กไปด้วยในระหว่างที่เขียนผลงานที่เขาหวังว่าจะเป็นละครเพลงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเรื่องต่อไปของสหรัฐฯ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
Dont Look Up หนังที่พูดดาวหางพุ่งชนโลก วันสิ้นโลก และ #ผนงรจตกม
หนัง Spider-Man: No Way Home เปิดตัว 4 วัน ทำเงินสูงสุด US box office 2021 แล้ว
4KINGS อาชีวะ ยุค 90 เสียงเล่า ขอแค่ให้เข้าใจ "เด็กช่าง" เพราะทุกคนก็มีหัวใจ
สำหรับ หนัง Tick, Tick... Boom! แม้จะเป็นหนังมิวสิคัล แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไรในการเข้าถึง และสัมผัสเรื่องราว ชีวิตของ โจนาธาน ลาร์สัน Jonathan David Larson ซึ่งเป็นตัวละครเอกของเรื่อง โดยเขาทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟในนิวยอร์กไปด้วยในระหว่างที่เขียนผลงานที่เขาหวังว่าจะเป็นละครเพลงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเรื่องต่อไปของสหรัฐฯ
.
ภาพยนตร์เรื่องนี้ เป็นลักษณะการเล่าถึงอัตชีวประวัติชีวิตของ โจนาธาน ลาร์สัน ซึ่งในช่วงเวลาในยุคต้น 1990s ที่เขากำลังจะอายุ 30 ปีนั้น แต่ ณ เวลานั้นเขายังไม่ประสบความสำเร็จกับชีวิตใดๆเลย ต้องทำงานร้านอาหารเพื่อเลี้ยงชีพไปวันๆ ขณะที่อีกฟากหนึ่งของจิตวิญญาณ ก็มีความทะเยอทะยาน มีความฝันเต็มเปี่ยม ที่จะทำละครเวทีมิวสิคัล และทำทุกอย่างเพื่อจะได้เขียนบทละครให้ได้
.
ใน ช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อของความฝัน ในเวลาอายุใกล้ 30 ปี ของ โจนาธาน ลาร์สัน (แสดงโดย แอนดรูว์ การ์ฟิลด์) แบบนี้...มีอัตราเร่ง คือเสียงระเบิดเวลาแบบชื่อหนัง นั่นคือ Tick, Tick... Boom! ค่อยเป็นปัจจัยกดดันต่อเขาในการดำเนินชีวิต ที่ต้อง "รีบ" ประสบความสำเร็จ
ช่วงเวลาแบบนี้ มันเต็มไปด้วยคำถามมากมายกับชีวิตของตัวละครเอก ว่า "เราจะยอมแลกทุกอย่างที่มีในชีวิต กับสิ่งที่อยากจะเป็น อยากจะทำหรือไม่ ?
.
และการเดินตามความฝัน เดินตามทางอาชีพที่อยากจะเป็นนั้น ...เราทุกคนพร้อมแลก "สิ่งมีค่า" ในชีวิตหรือไม่ ?
.
นอกจากนี้ หนัง Tick, Tick... Boom! ยังสอดแทรกประเด็นความเหลื่อมล้ำของสังคมคนอเมริกันในช่วงต้นยุค 1990s ไว้ด้วย ยังพูดถึงปัญหาสังคมในช่วงเวลานั้น ที่โรคเอดส์ HIV เป็นโรคติดต่อและมีความร้ายแรงอย่างมากในยุคนั้น ซึ่งกลุ่มคน LGBTQ ก็เป็นกลุ่มคนที่ถูกโรค HIV พรากชีวิตไปจำนวนไม่น้อย
สิ่งสำคัญของหนังเรื่องนี้ ที่ทุกคนจะสัมผัสได้ คือ ต่อสู้และทำตามฝัน เมื่อชีวิตของคนเราเหมือนผูกเอาไว้กับเวลาที่นับถอยหลังตลอดมา ไม่ต่างกับมีระเบิดเวลาที่ผูกติดอยู่ มนุษย์จึงต้องดิ้นรนวิ่งวุ่นให้ทันกับเวลาที่ไล่หลัง...
.
และคนที่จะปลด ระเบิดเวลา เหล่านั้นได้...มันไม่ใช่ใครที่ไหน...นอกจากตัวเราเอง...
.
และความเจ็บปวดระหว่างทางฝัน มันไม่ได้บอกว่าให้ "หยุด" แต่ความเจ็บปวดมันบอกว่า "อย่ายอมแพ้" เพราะถ้าต่อสู้ มันก็จะเป็นเปลี่ยงแปลง ตัวตน ในที่สุด...
Credit : Youtube Netflix