Lonely Planet จัดอันดับ 10 จุดหมายปลายทางน่าไปในปี 2022 หมู่เกาะคุก เพชรน้ำหนึ่งที่ซ่อนอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิกใต้ ตามด้วยนอร์เวย์ในแถบสแกนดิเนเวีย และเกาะสวรรค์มอริเชียสในมหาสมุทรอินเดีย
ในปี 1973 สองสามีภรรยาชาวอังกฤษอย่าง โทนี่และมอรีน วีลเลอร์ ได้ตีพิมพ์หนังสือแนะนำการท่องเที่ยว ที่มีชื่อว่า "Across Asia on The Cheap" ตอนนั้นพวกเขาทั้งสองใครจะรู้ว่า หนังสือแนะนำเที่ยวแบบเรียบง่ายที่พวกเขาตีพิมพ์ จะนำไปสู่รากฐานหนังสือนำเที่ยวทั่วโลกที่มีชื่อว่า Lonely Planet
เกือบ 50 ปีต่อมา Lonely Planet อาณาจักรคู่มือการเดินทางของพวกเขายังคงดำเนินต่อไป
การท่องเที่ยวทั่วโลกหยุดชะงักไปเกือบ 2 ปี จากการแพร่ระบาดของโควิด19 ทำให้การเดินทางข้ามประเทศเป็นเรื่องลำบาก แต่การมาถึงของวัคซีนทำให้ประเทศต่างๆ เริ่มกลับมาเปิดประเทศอย่างช้าๆ ความหวังที่จะได้เดินทางไปรอบโลกอีกครั้งเริ่มมีแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ และคาดว่าในปี 2022 โลกจะกลับมาเชื่อมต่อกันอีกครั้ง ไม่ใช่ผ่านหน้าจอแต่ในชีวิตจริง
หนังสือ Lonely Planet's Best in Travel 2022 อัดแน่นไปด้วยอัญมณีที่ซ่อนตัวอยู่ ทั้งทะเลทรายในโอมานไปจนถึงน้ำทะเลสีฟ้าสดใสของเบลีซ
ในปีนี้ Lonely Planet ได้ไฮไลต์ 10 อันดับประเทศที่น่าไปมากที่สุดในปี 2022
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
10. อียิปต์ (Egypt)
อียิปต์เป็นที่ตั้งของหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก อย่าง ปิรามิดแห่งกิซ่า และอย่าคิดว่าคำว่า "เก่า" จะมีความหมายเหมือนกันกับคำว่า "น่าเบื่อ" ด้วยระวัติศาสตร์มากกว่า 4,500 ปี แต่เรายังคงเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับสิ่งมหัศจรรย์ทางสถาปัตยกรรมเหล่านี้ทุกปี ตัวอย่างในประเด็น: Pyramid of Dozer ที่มีความสูง 63 เมตร ซึ่งเป็นกลุ่มที่เก่าแก่ที่สุดในกลุ่มนี้เปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมเมื่อปีที่แล้ว
9. มาลาวี (Malawi)
ด้วยพื้นที่ราวหนึ่งในห้าของประเทศไทย ด้วยพื้นที่ประมาณ 118,500 ตร.กม. (ประเทศไทย ประมาณ 513,120 ตร.กม.) ทำให้บางครั้งมาลาวีอาจถูกเพื่อนบ้านที่ใหญ่กว่าอย่างโมซัมบิกและแทนซาเนียบดบัง แต่มาลาวีเองก็มีสมบัติล้ำค่าอย่าง ทะเลสาบมาลาวี ที่ใหญ่เป็นอันดับเก้าของโลก พร้อมวิวที่สวยงาม และที่พักล้อมรอบริมทะเลสาบ นอกจากนี้มาลาวีเองยังถูกเรียกว่าแดนอุ่นหัวใจแห่งแอฟริกา "Warm Heart of Africa"
8. เนปาล (Nepal)
แทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะพูดถึงเนปาลโดยไม่พูดถึงยอดเขาเอเวอเรสต์ แต่ประเทศหิมาลัยแห่งนี้ยังมีข้อเสนออีกมากมายสำหรับนักเดินทางที่ไม่ได้ปีนเขาที่สูงที่สุดในโลก ในพื้นที่ห่างไกลของมัสแตง (ซึ่งหมายถึง "ที่ราบอันอุดมสมบูรณ์") นักเดินป่าสามารถสำรวจทะเลทรายที่ราบสูง ที่พักโฮมสเตย์ตลอดเส้นทางสุดอบอุ่นหัวใจกับชาวบ้าน รับประทานอาหารเนปาลจานพิเศษ เช่น กาแฟกับเนยจามรีและโมโมที่เสิร์ฟแบบ "โคเธ่" - กึ่งทอดครึ่ง กึ่งนึ่งครึ่ง
7. โอมาน (Oman)
ใครหลายคนอาจคิดว่านอร์เวย์เป็นประเทศหนึ่งเดียวในโลกที่มี "ฟยอร์ด" (Fjords) ใช่หรือไม่ คงต้องคิดใหม่อีกที ประเทศโอมานในเมืองมูซันดัมเองก็มีฟยอร์ดที่สวยงามเช่นเดียวกัน ภูเขาที่สูงถึง 2,000 เมตร ติดกับช่องแคบฮอร์มุซ รังสรรค์ฉากหลังที่งดงามสำหรับผืนน้ำแคบๆ แต่นั่นไม่ใช่ทั้งหมดที่โอมานมีให้ ภายในทริปเดียวกันนี้ คุณยังจะได้สัมผัส "The Empty Quarter" ทะเลทรายอันกว้างใหญ่ที่โอมานพบกับเยเมน ซาอุดีอาระเบีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ นั่นคือสี่ประเทศในคราวเดียว และคุณไม่จำเป็นต้องเตรียมเสื้อคลุม
6. แองกวิลลา (Anguilla)
แม้ว่าแองกวิลลาในเชิงเทคนิคแล้วจะไม่ใช่ประเทศ เป็นเพียงเกาะในทะเลแคริบเบียน แดนขึ้นของประเทศอังกฤษ ความงดงามของทะเลสีอะความารีน ชายหาดสาธารณะ 33 แห่ง รวมถึงโรงแรมและอาหารที่น่าทึ่ง ตลอดจนมาตรการควบคุมโควิด19 ที่มีความรับผิดชอบของสาธารณสุข
5. สโลวีเนีย (Slovenia)
แม้ที่ผ่านมา สโลวีเนียอาจดูไม่โดดเด่นท่ามกลางยุโรปตะวันออก แต่สโลวีเนียมีทั้งบอลข่าน ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และอัลไพน์ ด้วยขนาดประเทศที่ไม่ใหญ่ จึงมั่นใจได้ว่านักท่องเที่ยวจะสามารถเดินทางไปได้ครบทั้งประเทศในระยะเวลาอันสั้น ตั้งแต่ "ทะเลสาบเบลด" (Bled Lake) อันตระการตาไปจนถึงเมืองหลวงที่คึกคัก "ลูบลิยานา" (Ljubljana) นอกจาก Lonely Planet ที่สังเกตเห็นประเทศเล็กๆ นี้ในยุโรปตะวันออกแล้ว ในปีนี้มิชลินไกด์ได้มอบดาวให้กับร้านอาหารเจ็ดแห่งในสโลวีเนียอีกด้วย
4. เบลีซ (Belize)
ต้องการสำรวจซากปรักหักพังของชาวมายัน ? ว่ายน้ำในน้ำทะเลสีฟ้าใส ? และดูสัตว์ป่าที่น่าทึ่ง ? ประเทศเบลีซเป็นคำตอบของทั้งหมดนี้ และอื่นๆ ที่มากยิ่งกว่านี้ หากกำลังรอให้ออสเตรเลียเปิดพรมแดน ลองเปลี่ยนจุดหมายเป็นเบลีซแทน องค์การยูเนสโกขึ้นทะเบียนมรดกโลก ให้แก่เบลีซแบร์ริเออร์รีฟ หรือ ระบบสำรองแนวปะการังเบลิซ และไม่ต้องกังวลว่าการสื่อสารจะเป็นปัญหา เพราะ เบลีซนั้นใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก
3. มอริเชียส (Mauritius)
หลายคนอาจไม่เคยได้ยินชื่อเกาะสวรรค์แห่งนี้ หรือหากเคยได้ยินก็คงสงสัยว่าแล้วเกาะสวรรค์แห่งนี้อยู่ที่ไหน เกาะมอริเชียสตั้งอยู่ในมหาสมุทรอินเดีย ห่างจากมาดากัสการ์ไปทางตะวันออกประมาณ 1,100 กม. นี่คือเหตุผลที่ควรไปเยือนเกาะสวรรค์แห่งนี้ โรงแรมสามและสี่ดาวราคาถูก อาหารที่ถูกปาก กีฬาทางน้ำมากมาย การเดินป่าบนภูเขา ล่าสัตว์ ดูนก รีสอร์ทหรู เมืองหลวงเก่าอาณานิคม และเป็นหนึ่งในสวนพฤกษศาสตร์ที่ดีที่สุดในโลก หากใครชื่นชอบสถานบันเทิงยามค่ำคืน มอริเชียสก็เป็นคำตอบที่ดี ด้วยบาร์ริมหาดที่สวยงาม
2. นอร์เวย์ (Norway)
นอร์เวย์อยู่ในรายชื่อประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลกอย่างสม่ำเสมอ และนั่นไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ หากคุณได้ไปเยือนหนึ่งในประเทศที่อยู่เหนือสุดของโลกแห่งนี้ คุณจะพบกับความงามของธรรมชาติ ไม่ใช่กรงขังในป่าคอนกรีตเหมือนเมืองใหญ่ๆ ทั่วโลก เมื่อคุณได้อยู่กับธรรมชาติ โดยเฉพาะธรรมชาติที่สวยงามและมีความเฉพาะตัวอย่างนอร์เวย์แล้วคุณย่อมมีความสุขอย่างแน่นอน นอร์เวย์มี "ฟยอร์ด" (Fjords) ที่สวยงาม และ Bøkeskogen ป่าบีชที่อยู่เหนือสุดของโลก อยู่ห่างจากเมืองหลวงออสโลประมาณ 2 ชั่วโมง คุณจึงสามารถสัมผัสเมืองและประเทศได้อย่างง่ายดายในวันเดียวกัน
1. หมู่เกาะคุก (Cook Islands)
ไม่ต่างจากเกาะสวรรค์มอริเชียส ที่หมู่เกาะคุกอาจจะไม่คุ้นหูสำหรับใครหลายคน แต่หมู่เกาะคุกเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่พนักงาน Lonely Planet ปรารถนาจะไปมากที่สุด "ราโรทองกา" (Rarotonga) เมืองหลวงของหมู่เกาะคุก เป็นประตูสู่สถานที่สวยงามอีก 14 เกาะ ในแปซิฟิกใต้ มีอะไรให้ทำบ้าง ? หมู่เกาะคุกเต็มไปด้วยกิจกรรมทางน้ำเป็นหลัก เช่น ดำน้ำตื้น ดำน้ำลึก และตกปลา รวมไปถึงการเยือนและชมชุมชนชาวเมารีพื้นเมืองในหมู่บ้าน "เต วารา นุย" (Te Vara Nui)