รู้หรือเปล่า ทุกวันพฤหัสบดีที่ 2 ของเดือนตุลาคมทุกปี จะเป็นวันสายตาโลก และในปีนี้ตรงกับวันที่ 14 ตุลาคม ซึ่งจัดตั้งโดยองค์การอนามัยโลก (WHO, World Health Organization) เพราะอยากให้ทุกคนตระหนักถึงความสำคัญของดวงตา และคอยตรวจเช็คสุขภาพของกวงตาอย่างสม่ำเสมอ
ผู้คนทั่วโลกกว่า 2.2 พันล้านคน หรือเกือบครึ่งหนึ่งของโลกมีความบกพร่องทางสายตา และความบกพร่องนี้ควรได้รับการดูแล ปกป้อง หรือจำเป็นต้องหลีกเลี่ยงสิ่งที่อาจก่อให้เกิดเป็นอันตรายต่อดวงตา สิ่งที่ปราศจากความพยายามและความเร่งด่วนในการตระหนัก มีการคาดการณ์ว่าจะมีผู้คนที่สูญเสียการมองเห็น (ตาบอด) มีจำนวนทั้งสิ้น 115 ล้านคนภายในปี 2050 และยากที่จะหลีกหนีพ้น
ในแต่ละปี ทั่วโลกจะสูญเสียเงินหมุนเวียนไป 3 แสนล้านปอนด์ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ หนึ่งหมื่นสามพันล้านบาท เนื่องจากใช้ไปกับกลุ่มคนที่มีความบกพร่องทางสายตาและคนตาบอด แต่โดยเฉลี่ยแล้ว ในทุกๆโปรแกรมของโครงการ Sightsavers ในแอฟริกาและเอเชีย ผู้คนต้องซื้อแว่นสายตา 1 คู่ในราคาเพียง 2-4 ปอนด์ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 90-180 บาท วิธีแก้ปัญหาง่ายๆที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าจะนำไปสู่การเพิ่มศักยภาพด้านรายได้อย่างมีนัยสำคัญ และจะสามารถช่วยชีวิตของใครหลายคนได้
การมีอยู่ของการรณรงค์จึงเป็นการสร้างความตระหนักอย่างหนึ่งให้ผู้คนได้รับรู้ และส่งเสริมให้ไปตรวจสุขภาพสายตามากขึ้น แน่นอนว่าในประเทศไทยเอง การจะมีแว่นสักคู่หนึ่ง หรือการซื้อคอนแทคเลนส์นั้นมีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น ในความเป็นจริงของราคาตลาดบ้านเรา เพราะผู้เขียนเองก็เป็นกลุ่มคนที่ความบกพร่องทางสายตา (สายตาสั้น) จึงทราบมาว่าราคาแว่นในตลาดมีราคาที่ถูกจริง แต่ก็มักไม่ได้ประสิทธิภาพมากนัก ส่วนแว่นที่มีคุณภาพขึ้นมาหน่อยหรืออยู่ตามห้างสรรพสินค้าและมีแบรนด์จะมีราคาที่ค่อนข้างสูง ขึ้นอยู่กับกำลังซื้อของผู้คน แต่จะดีกว่าถ้าหากคุณไม่มีปัญหาทางสายตาเลย เราจึงอยากให้คุณดูแลสุขภาพดวงตาของตนเองเสมอ และหลีกเลี่ยงการใช้งานที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อดวงตาได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
"ลูทีน" ตัวช่วยดีๆ สำหรับดวงตา ดูแลสุขภาพ สายตาไม่เสื่อมตามอายุ
คิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ใส่รองเท้าสานกับสูท ทั่วโลกจับตาปัญหาสุขภาพ
Psyjai (ใส่ใจ) แชทบอทที่เป็นผู้ช่วยเหลือด้านสุขภาพจิต ทุกข์ เครียด ทักมา!
10 ตุลาคม World Mental Health Day ขอให้วันนี้เป็นวันสุขภาพจิตที่ดีของทุกคน
ในปัจจุบันมีเทคโนโลยีมากมายผุดขึ้นมา เพื่อบ่งบอกถึงความก้าวหน้าของนวัตกรรม แต่ในทางกลับกันมันก็บ่งบอกถึงอัตราของปัญหาที่เพิ่มขึ้น จึงต้องมีตัวช่วย จึงขอยกตัวอย่างนวัตกรรมเทคโนโลยีด้านดวงตาใหม่ๆจาก Silicon Valley จากผู้เชี่ยวชาญด้านจักษุแพทย์ Dr. Peter A. Karth จากมหาวิทยาลัย Stanford ได้เขียนบทความรวบรวมนวัตกรรมทางสุขภาพเอาไว้ ในด้านของดวงตา จะมี 6 อย่างด้วยกันคือ
- คอนแทคเลนส์ที่สามารถวัดระดับน้ำตาลได้
- AI ที่สามารถตรวจและวินิจฉัยโรคตาได้
- เครื่องมือถ่ายภาพขั้วประสาทตาและจุดรับภาพ ด้วยสมาร์ทโฟน
- การวัดสายตาและสั่งซื้อคอนแทคเลนส์ผ่านแอปพลิเคชัน
- การทำให้ประชุมออนไลน์สามารถร่วมกันช่วยเหลือคนที่มีปัญหาเรื่องการมองเห็น
- การใช้ Virtual reality และ Augmented reality ช่วยแก้ปัญหาด้านสายตา (อุปกรณ์สวมศีรษะ, VR)
แต่สิ่งสำคัญที่จะทำให้เราไม่ต้องพึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้เลยคือการถนอมดวงตาของเรา เป็นวิธีการป้องกันการเกิดความบกพร่องของดวงตา โดยเฉพาะช่วงนี้ที่ทั้งเด็กนักเรียน นักศึกษา วัยทำงาน มักจะได้ Work From Home กันบ่อยๆ ทำให้เราต้องใช้สายตาไปกับหน้าจอคอมพิวเตอร์มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการประชุมออนไลน์ เรียนออนไลน์และการทำงานหน้าจอคอมนานขึ้น Spring News จึงนำวิธีบำรุงสายตามาฝากผู้อ่านทุกคนกัน
ยังมีอีกหลายวิธีที่จะถนอมดวงตาของเรา เพราะดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ โลกใบนี้ต้องการให้คุณออกไปสำรวจ ได้ออกไปเห็นสิ่งมหัศจรรย์และความสวยงามในทุกมุมทั่วโลกอยู่
#Sightsaver #วันสายตาโลก
ที่มาข้อมูล Sightsaver.org และ รักษ์ตา.com