ผู้ว่าฯแม่ฮ่องสอน ยอมรับทหารผลักดันผู้อพยพพม่ากลับจริง หลังประเมินสถานการณ์ในเมียนมาไม่รุนแรง ขณะที่เคเอ็นยู ยิงเฮลิคอปเตอร์พม่าตก 1 ลำ และมีการปะทะกันอย่างหนัก ได้รับบาดเจ็บ ก่อนถูกส่งมารักษาตัวที่โรงพยาบาลสบเมย
เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2563 นายสิธิชัย จินดาหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า ฝ่ายความมั่นคงทางทหารประเมินสถานการณ์ชายแดนนอกประเทศแล้ว จึงให้ผู้อพยพที่เข้ามาอยู่ในเขตชายแดนไทย กว่า 2,000 คนกลับเข้าไปอยู่ในเขตประเทศเมียนมาก่อน โดยทางฝ่ายผู้อพยพยินยอมที่จะเดินทางกลับสู่บ้านเรือนเดิมของตน
แหล่งข่าวผู้นำระดับสูงของกองกำลังกะเหรี่ยงคะยา (KNPP:Karenni National Progressive Party) กล่าวว่า ได้รับรายงานจากสมาชิกกองกำลังกะเหรี่ยงอิสระ (เคเอ็นยู) ว่าเมื่อวานที่ผ่านมา ทหารเคเอ็นยูสามารถยิงเฮลิคอปเตอร์ของทหารเมียนมาตก 1 ลำ พร้อมจับนักบินและทหารได้อีก 8 นาย โดยทราบข้อมูลได้แค่นี้เนื่องจากวันนี้ยังไม่สามารถติดต่อกับสมาชิกของเคเอ็นยูได้
ขณะเดียวกันแหล่งข่าวกลุ่มไทยใหญ่ (SSA:Shan State Army) แจ้งว่าในพื้นที่เขตเคเอ็นยู ยังคงมีการสู้รบอย่างหนัก และกรณีเครื่องบินทหารเมียนมาปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ ต่อราษฎรกะเหรี่ยงที่บ้านแม่สะเกิบ ทำให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มนับร้อยราย
ในวันเดียวกัน เวลา 12.00 น.เจ้าหน้าที่ทหารพราน กองร้อย ทพ.3606 ฐานฯ แม่สามแลบ ได้ให้ความช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกกับผู้ป่วยที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการสู้รบในเมียนมาร์ จำนวน 7 คน ดังนี้
1.นายซอโด้เนโซ อายุ 15 ปี 2.นายซอครอง อายุ 37 ปี 3.นายซอลาเตร อายุ 48ปี 4.น.ส.นอเอสะตะ อายุ 18 ปี 5.น.ส.นอมือเกรอ อายุ 25 ปี 6.นางนอแบทู อายุ 60 ปี 7.นางเชอคึมู อายุ 31 ปี โดยมีรถพยาบาลของโรงพยาบาลสบเมย อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน จำนวน 6 คัน มารอรับและส่งไปรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลสบเมย
อย่างไรก็ตาม ที่บ้านแม่สามแลบ ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ราษฎรไทยยังคงวิตกต่อสถานการณ์ ที่เกิดขึ้นตามแนวชายแดน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
-ไทยเตรียมรับมือ ผู้อพยพข้ามประเทศจากฝั่งพม่า พร้อมมาตรการป้องโควิด19