คดีหุ้นสื่อไอทีวี พิธา ศาลตัดสิน 24 มกราคม 2567 ผลจะรอดหรือไม่รอด?
จับตา คดีหุ้นสื่อไอทีวี พิธา ศาลตัดสิน 24 มกราคม 2567 ผลจะรอดหรือไม่? ถ้าศาลตัดสินว่าไม่ผิด พิธายืนยัน เดินหน้าทำหน้า สส.ต่อทันที
จุดเริ่มเริ่มคดี พิธา ถือหุ้น ITV ?
เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2566 เมื่อ นิกม์ แสงศิริมาวิณ ผู้สมัคร สส.กทม พรรคภูมิใจไทย โพสต์ข้อความผ่านโซเชียล ว่ามีนักการเมืองบางคนจะโดนคดีหุ้นสื่อ พร้อมโชว์ภาพประกอบเป็นรูป “รายงานการประชุมผู้ถือหุ้น ITV ประจำปี 2566”
ต่อมา 10 พฤษภาคม 2566 เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ พรรคพลังประชารัฐ เดินทางร้อง กกต. ให้ตรวจสอบ พิธา ว่าขาดคุณสัมบัติลงสมัครเลือกตั้ง สส. จากกรณีถือหุ้น ITV จำนวน 42,000 หุ้น นอกจากนี้ iTV ยังมีการส่งงบการเงินระบุประเภทธุรกิจเป็นสื่อโทรทัศน์
จากนั้นก็มีการตรวจสอบพบความผิดปกติในรายงานประจำปี 2566 มีเนื้อหาไม่ตรงกับบันทึกการประชุม แล้วก็ตามที่ทุกคนรู้ พิธา ลาออกจากหัวหน้าพรรคก้าวไกล และวันที่ 24 มกราคมนี้ ศาลรัฐธรรมนูญก็มีนัดอ่านคำวินัจฉัย ตอน 14.00 น.
หลักฐาน 6 ข้อทำให้ พิธา รอดคดีหุ้น ITV ได้
- ไม่มีใบอนุญาตคลื่นความถี่ เนื่องจาก ITV ถูกรัฐบาลไทยแจ้งยกเลิกสัญญาตั้งแต่ พ.ศ.2550
- ภายหลังมีการออก พ.ร.บ.องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย ก่อให้เกิด “สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส” ส่งผลให้ไอทีวีต้องเลิกประกอบกิจการโทรทัศน์ รวมถึงยังมีคดีพิพาทเกี่ยวกับค่าเสียหายในศาลปกครองกับรัฐบาลไทยด้วย
- คิมห์ ประธานการประชุมผู้ถือหุ้นไอทีวี ยืนยันต่อศาลว่าไอทีวีไม่มีพนักงาน ไม่มีรายได้จากการทำสื่อ ไม่มีการทำสื่อ และยังไม่มีแผนจะทำสื่อ และถ้ายึดตามคำวินิจฉัยของศารัฐธรรมนูญก่อนหน้านี้ก็ไม่น่าเป็นห่วง เพราะศาลเคยเห็นว่าหากไม่มีรายได้จากการทำสื่อก็ไม่ถือเป็นสื่อ
- ไม่มีหลักฐานจดแจ้งการพิมพ์ จึงไม่อาจเป็นผู้ประกอบกิจการหนังสือพิมพ์ หรือสิ่งพิมพ์อื่นได้
- ไม่มีใบอนุญาตประกอบกิจการภาพยนตร์ วีดิทัศน์ และสื่อโฆษณา จึงไม่อาจประกอบกิจการดังกล่าวได้
- ศาลปกกครองสูงสุดเคยชี้ว่าไอทีวีไม่ปรากฏหลักฐานการดำเนินการสื่อวิทยุโทรทัศน์แล้ว
โอกาสที่ "พิธา" จะรอดมีมากน้อยขนาดไหน ?
ศาลจะพิจารณาจากคดีถือหุ้น ITV ทั้งหมด 3 หัวข้อ
- พิธา ถือหุ้นจริงไหม ? หรือเป็นแค่ผู้จัดกการมรดกตามที่มีการชี้แจงไปก่อนหน้านี้
- ITV ยังเป็นสื่ออยู่หรือไม่ ?
- การถือหุ้น ITV 42,000 หุ้น หรือ 0.0035 % จะเข้าข่ายครอบงำสื่อหรือไม่ ?
ถ้าศาลพิจารณาแล้วเข้าข่ายทั้ง 3 ข้อ พิธา ก็จะมีความผิดว่าขาดคุณสมบัติ แล้วอาจมีคนนำการพิจารณาครั้งนี้ ไปยื่นเรื่องให้ศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งอาจทำให้ พิธา ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง
แต่ถ้าศาลพิจารณาแล้วไม่เข้าข่ายทั้ง 3 ข้อ พิธาจะรอดจากคดีถือหุ้น ITV และตามที่ พิธา เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่าถ้ารอด จะเดินหน้าทำหน้าที่ สส.ต่อทันที
ลุ้นคดี แก้มาตรา 112 ?
ถึงแม้ว่าพิธาจะรอดจากคดีถือหุ้น ITV แต่วันที่ 31 มกราคม ศาลมีนัดอ่านคำวินัจฉัยคดี แก้ไขมาตร 112
ที่พรรคก้าวไกล ใช้หาเสียงช่วงก่อนเลือกตั้ง ซึ่งถ้าศาลพิจารณาแล้วว่าผิด กรรมการบริหารพรรคก้าวไกล ก็อาจถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองได้ หรือถ้าหนักกว่านั้น พรรคก้าวไกลก็อาจจะถูกยุบพรรคได้ด้วยเช่นกัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
