svasdssvasds

เดส์ชองส์ : ผู้มีโอกาสกวาดทุกอย่าง แชมป์โลก-แชมป์ยูโร ในฐานะนักบอล-โค้ช

เดส์ชองส์ : ผู้มีโอกาสกวาดทุกอย่าง แชมป์โลก-แชมป์ยูโร ในฐานะนักบอล-โค้ช

ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ : ผู้ชายที่มีโอกาสกวาดทุกอย่าง ในโลกฟุตบอล ทั้ง แชมป์โลก-แชมป์ยูโร ทั้งในฐานะนักบอลและโค้ช ถ้าหากฝรั่งเศส จบที่ตำแหน่งแชมป์ในยูโร 2024

"ตราไก่" ฝรั่งเศส เปิดสนามยูโร 2024 ด้วยชัยชนะเหนือออสเตรีย 1-0 แน่นอนว่า ฝรั่งเศส ในยุคที่มี คิลิยัน เอ็มบัปเป้ ยังคงเล่นได้ตามมาตรฐาน และเก็บชัยชนะได้ นั่นทำให้ ฝรั่งเศส อยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ได้ลำบากนักในการลุ้นเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายต่อไป

หากจะลองมาวิเคราะห์มองในมุมลึกสำหรับทีม "ตราไก่" นั้น ทีมชาติฝรั่งเศส ในยุค 10 กว่าปีหลังนี้ นับตั้งแต่ ถ่ายเลือดใหม่หลังจากจบยูโร 2012 ถือว่าอยู่ในระดับแนวหน้าของโลกเสมอมา , โดยผู้ชายที่เป็นเบื้องหลังความสำเร็จ และ ความแข็งแกร่งของทีมชาติฝรั่งเศส คงหนีไม่พ้น "ดิดิเยร์ เดส์ชองส์" กุนซือของเลส์ เบลอส์ 

ในความเป็นจริงแล้ว หากจะลองไล่เลียง อดีตรายชื่อนักเตะฝรั่งเศส ที่เป็นขวัญใจมหาชนนั้น , ชื่อของ "ดิดิเยร์ เดส์ชองส์" อาจจะอยู่ในลำดับท้ายๆ เพราะแฟนบอลทั่วไปอาจจะมองไปถึง นักเตะที่ลีลาพลิ้วไหว และ โดดเด่นในการยิงประตู ในสมัยก่อนมาเป็นอันดับแรก อย่างเช่น ยุค 80s - มิเชล พลาตินี่ , ยุค 90s - อีริก คันโตน่า , ฌอง ปิแอร์ ปาแป็ง , ยุค 2000s อย่างเธียร์รี่ อองรี , เดวิด เทรเซเกต์ , หรือความคลาสสิก จาก ซีเนอดีน ซีดาน 

อย่างไรก็ตาม ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ กุนซือทีมชาติฝรั่งเศส คนปัจจุบัน สมัยที่เป็นนักฟุตบอลที่โลดแล่นในฟลอร์หญ้า ตอนนั้นเขาจัดเป็นนักเตะฝีเท้าดีคนหนึ่ง แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะชื่นชอบสไตล์การเล่นของเขา อาทิ อีริก คันโตน่า อดีตเพื่อนร่วมทีมชาติที่เคยบรรยายถึงเดส์ชองส์ไว้เมื่อปี 1996 ว่า 

“เขาติดทีมมาได้เพราะทุ่มเทเต็มร้อย แต่ก็ไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่าคนหิ้วถังน้ำ เพราะนักเตะแบบเขาหาได้ทั่วไปทุกมุมถนน” 

ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ : ผู้มีโอกาสกวาดทุกอย่าง แชมป์โลก-แชมป์ยูโร ทั้งในฐานะนักบอลและโค้ช Credit ภาพ Getty Images

แม้จะดูเป็นเชิงลบ แต่ในคำแซวของ อีริก คันโตน่า นั้น มันก็มีความเป็นจริงในแง่ดีซ่อนอยู่ เพราะเดส์ชองส์ เป็นคนที่เล่นเพื่อทีม เป็นตัวคุมสมดุลในแดนกลางให้กับทีม 

และหลังจากที่ เดส์ช็องส์ โดนแซว เขาร่วมคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก กับยูเวนตุส ในปี 1996  เป็นแชมป์ยุโรปหนที่ 2 ของเขาต่อจากปี 1993 (กับมาร์เซย) เดส์ชองส์จึงแขวะกลับก็องโต้ ว่า “จะมีนักเตะดาดๆ ที่หาได้ตามมุมถนนสักกี่คนที่คว้าแชมป์ยุโรป 2 สมัยล่ะ?” 

โดยในระดับทีมชาติฝรั่งเศสนั้น , ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ ติดทีมชาติฝรั่งเศส 103 ครั้ง ได้สวมปลอกแขนกัปตันนำทีมคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 1998 ต่อด้วยแชมป์ยูโร 2000 ในอีก 2 ปีถัดมาด้วย นั่นหมายความว่า ในฐานะนักเตะ เขาได้มาทั้งแชมป์โลกและแชมป์ยูโร 

ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ : ผู้มีโอกาสกวาดทุกอย่าง แชมป์โลก-แชมป์ยูโร ทั้งในฐานะนักบอลและโค้ช Credit ภาพ Getty Images

ส่วนในบทบาทของการเป็นกุนซือทีมชาติฝรั่งเศสนั้น , เขาเข้ามาคุมทีมชาติฝรั่งเศส หลังจากโลรองต์ บล็องก์ ก้าวลงจากตำแหน่ง หลังจบยูโร 2012  ,ดิดิเยร์ เดส์ช็องส์ ก็คุมทีมต่อจากนั้น ทันที  เขามีคุณสมบัติโดดเด่นของเขาคือความเป็นผู้นำ และทักษะการบริหารคน และสุดท้ายไปถึงตำแหน่งแชมป์โลก 2018 บนแผ่นดินรัสเซียด้วย 

ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ : ผู้มีโอกาสกวาดทุกอย่าง แชมป์โลก-แชมป์ยูโร ทั้งในฐานะนักบอลและโค้ช Credit ภาพ Getty Images

ณ เวลานี้ ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ เพิ่งกลายคนที่ 3 ที่สามารถคว้าแชมป์โลกได้ทั้งในฐานะนักเตะ และกุนซือ ต่อจาก มาริโอ ซัลกาโล่ [บราซิล 1958, 1962 (นักเตะ) – 1970 (กุนซือ)] และ ฟร้านซ์ เบคเค่นบาวเออร์ [เยอรมันตะวันตก 1974 (นักเตะ) – 1990 (กุนซือ)] 

และ ในยูโร 2024 ครั้งนี้ , ถ้าหาก ฝรั่งเศส ไปไกลจนถึงตำแหน่งแชมป์ยูโรได้  , เดส์ชองส์ จะกลายเป็นคนแรก ที่กวาดหมดทุกอย่าง ทั้งแชมป์โลก - แชมป์ยูโร ใน 2 ฐานะทั้งนักฟุตบอลและโค้ช 

สำหรับ ช่วงชีวิตของ ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ นั้น เขามายืนอยู่หน้าประตูประวัติศาสตร์แล้ว เท่านี้ก็ถือว่าได้รับการยอมรับมากๆ แล้ว ... ไม่ว่าทัวร์นาเมนต์นี้ เขาจะจบที่ตำแหน่งคุมทีมชาติแล้วเป็นแชมป์ได้หรือไม่  เขาคือบุคคลที่เป็นประวัติศาสตร์ไปแล้ว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง


 

related