svasdssvasds

วิเคราะห์บอล ไทย - จีน ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก 2026 : ทำไมมีกัปตันทีม 2 คน เจ-อุ้ม

วิเคราะห์บอล ไทย - จีน ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก 2026 : ทำไมมีกัปตันทีม 2 คน เจ-อุ้ม

วิเคราะห์บอล ไทย - จีน ที่ทีมชาติไทยจะมีกัปตันทีมชาติ 2 คน ทั้ง "เมสซี่เจ" ชนาธิป สรงกระสินธ์ และ ธีราทร บุญมาทัน ในเกมฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย ในการดวลกับจีน และ สิงคโปร์

วิเคราะห์ ทีมชาติไทย - จีน ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสอง ในวันที่ 16 พฤศจิกายน 2566 , โดยก่อนเกม มีประเด็นร้อนในโลกออนไลน์เช่นกัน  กับการประกาศแต่งตั้งตำแหน่ง "กัปตันทีม" 2 คน ทำหน้าที่กันคนละนัด ระหว่าง  "เมสซี่เจ" ชนาธิป สรงกระสินธ์ และ ธีราทร บุญมาทัน

โดย การประกาศแต่งตั้ง 2 กัปตัน ในการที่ทีมชาติไทย จะลงทำศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือกโซนเอเชีย รอบ 2  โดยนัดแรก ไทยดวลจีน ที่ราชมังคลาฯ วันที่ 16 พฤศจิกายน 2566 อุ้ม ธีราทร บุญมาทัน จะเป็นหัวหน้าทีมก่อน , ส่วนเกมไปเยือน สิงคโปร์  วันที่ 21 พฤศจิกายน 2566 เวลา 19.00 น. , เมสซี่เจ ชนาธิป สรงกระสินธ์ จะทำหน้าที่ เดินนำเพื่อนๆ น้องๆ "ช้างศึก" ลงดวล คู่ปรับแห่งย่านอาเซียน

สำหรับ ประเด็นการแต่งตั้ง กัปตันทีมชาติ 2 คน นั้น อาจทำให้แฟนบอลเกิดความสงสัยขึ้นเล็กๆ ว่า ทีมชาติไทย ทั้งที่กำลังจะเจอศึกใหญ่ ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก  ทำไม ไม่ยอมฟันธงไปเลย ว่าใครจะเป็น "ผู้นำ" ที่แท้จริงฯ ? 


“ผมก็ไม่รู้จะพูดอะไรดี เป็นทางที่เขาแต่งตั้งมาแล้ว อยู่ที่ทางผู้ใหญ่เห็นชอบ หรืออยู่ที่ว่าโค้ชจะให้ใครเป็นกัปตัน มันก็เป็นเรื่องธรรมดาของฟุตบอล ผมก็ไม่ต้องปลุกเร้าเพื่อนๆ อะไรขนาดนั้น เพราะทุกคนรู้ว่าจะเข้ามาอยู่ในทีมเพื่ออะไร” นี่คือความคิดเห็นของ  ธีราทร บุญมาทัน แบ็กซ้ายมันสมองเพชรจากสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด


อย่างไรก็ตาม หากจะมองว่า การแต่งตั้ง กัปตันทีมชาติ มากกว่า 1 คน ในศึกสำคัญๆ ที่ชี้เป็นชี้ตายนั้น เป็นเรื่องแปลกประหลาดหรือไม่ คงต้องบอกว่า "ไม่ใช่เรื่องแปลก และ ไม่ใช่เรื่องใหม่" อะไร เพราะในอดีต ทีมชาติบราซิล ทีมที่เคยเป็นแชมป์โลก 5 สมัย ก็เคยทำในลักษณะแบบนี้มาแล้ว ในฟุตบอลโลก 2018 บนดินแดนหมีขาวรัสเซีย

หากย้อนเข็มนาฬิกากลับไปเจาะโลกลูกหนัง ณ ปี 2018 ทีมชาติบราซิล ภายใต้การนำของ ติเต้ Tite ไม่มีการตั้ง "กัปตันทีมถาวร" แต่จะใช้การ โรเตชั่น หรือ หมุนเวียน ปลอกแขนหัวหน้าทีม ไปให้กับ นักเตะอาวุโสและนักเตะที่มาคาเร็กเตอร์ เป็นผู้นำของทีม , โดย ณ ตอนนั้น มาร์เซโล่ จะเป็นกัปตันทีมคนแรก , จากนั้น ก็จะหมุนเวียนไปให้ นักเตะซีเนียร์ คนอื่นๆ รับช่วงต่อ 

โดยในฟุตบอลโลก 2018 บราซิล "เซเลเซา" ใช้ มาร์เซโล่ เป็นกัปตันทีม ในเกมเปิดสนามพบเซอร์เบีย , จากนั้นใช้ ใช้ ธิอาโก้ ซิลวา เป็นกัปตันทีมในเกมดวลกับคอสตาริก้า , จากนั้น ปิดท้ายรอบแรก ใช้ เจา มิรานด้า เป็นกัปตันทีมในเกมเจอกับเซอร์เบีย 

รอบน็อกเอาท์ ฟุตบอลโลก 2018 บราซิลก็ยังใช้การหมุนเวียนหัวหน้าทีมต่อไป , โดยในรอบ 16 ทีมสุดท้าย เจอกับเม็กซิโก บราซิลกลับมาใช้  ธิอาโก้ ซิลวา เป็นกัปตันทีม อีกครั้ง , ส่วนรอบ 8 ทีมสุดท้าย ซึ่งในฟุตบอลโลก ครั้งนั้น บราซิลต้องยุติเส้นทางไว้ที่รอบนี้ ในการเจอกับ เบลเยียม , บราซิลเลือกใช้ เจา มิรานด้า เป็นกัปตันทีม , และหลังจากจบฟุตบอลโลก 2018 ได้ 2 เดือน บราซิล ถึงเลือก ตั้ง "เนย์มาร์" เป็นหัวหน้าทีมในเวลาต่อมา 

เนย์มาร์ เป็นกัปตันทีมชาติบราซิล หลังจากที่ก่อนหน้านั้น ติเต้ ใช้ การโรเตชั่นตำแหน่งนี้ ในช่วงฟุตบอลโลก 2018 Credit ภาพ Getty Image เนย์มาร์ เป็นกัปตันทีมชาติบราซิล หลังจากที่ก่อนหน้านั้น ติเต้ ใช้ การโรเตชั่นตำแหน่งนี้ ในช่วงฟุตบอลโลก 2018 Credit ภาพ Getty Image

จะเห็นได้ว่า ทีมชาติไทย ช้างศึก ณ เวลานี้  ก็อาจจะมีความคล้ายๆกับ ทีมชาติบราซิล ในช่วง ปี 2018 ที่มีนักเตะซีเนียร์ในทีม และได้รับการยอมรับหลายคน ทั้ง "เมสซี่เจ" ชนาธิป สรงกระสินธ์ และ ธีราทร บุญมาทัน , รวมถึง ธีรศิลป์ แดงดา อีกหนึ่งคน  

สำหรับ ตำแหน่งกัปตันทีมชาติไทยนั้น อาจจะดู ไม่ได้มี ดราม่า หรือ การแย่งชิงใดๆ ระหว่าง อุ้มกับเจ สามารถคุยกันได้  ไม่มีอะไรที่ขัดแย้งรุนแรงไฟท่วม , แต่กับบางทีมชาติ เรื่องตำแหน่งกัปตัน มันก็เป็นเรื่อง "คอขาดบาดตาย"  อาทิ เหตุการณ์ในทีมชาติเยอรมนี ช่วงฟุตบอลโลก 2010 ซึ่งก่อนหน้านั้น มิชาเอล บัลลัค เป็นกัปตันทีม แต่สุดท้ายเขามาบาดเจ็บก่อนทัวร์นาเมนต์ที่แอฟริกาใต้ ไม่นาน , ทำให้ โยอัคคิม เลิฟ ต้องเลือก ฟิลิป ลาห์ม เป็นหัวหน้าทีม แต่ก็สัญญาเอาไว้ว่า เมื่อไร ที่บัลลัค กลับมาจะได้ เป็น หัวหน้าทีมเหมือนเดิม ซึ่งภายหลังมิชาเอล บัลลัค หายเจ็บกลับมาแล้ว และพร้อมคืนสู่ทีมชาติ แต่ทว่า ตอนนั้น ลาห์ม กลับให้สัมภาษณ์ว่าเขาต้องการเก็บปลอกแขนกัปตันเอาไว้ต่อไป เขามีความสุขที่ได้เป็นผู้นำ (ซึ่งภายหลัง ลาห์มก็นำพาทีมชาติไปถึงแชมป์โลก 2014 ด้วย)

ตอนนั้น หลังจบฟุตบอลโลก 2010 โยอาคิม เลิฟ บุนเดสเทรนเนอร์  ก็ต้องกลับมาทบทวนเรื่องกัปตันทีมอีกครั้ง กล่าวคือ เขาจะยึดมั่นกับคำที่ตัวเองพูด แล้วให้ มิชาเอล บัลลัคเป็นกัปตันทีมตามเดิม หรือว่าจะเปลี่ยนมาใช้ลาห์มไปเลยในทัวร์นาเมนต์หน้า ทั้งยูโร 2012 และ ฟุตบอลโลก 2014

สุดท้าย ณ วันนั้น เลิฟ จึงตัดสินใจแก้ปัญหาด้วยการ ไม่เรียก มิชาเอล บัลลัคติดทีมชาติอีกเลย...ซึ่งนับเป็นเรื่องที่น่าเสียดายไม่น้อย ถ้าไม่มีบัลลัคในทีม เขาก็ไม่ได้ผิดคำพูด ที่ตัวเองให้ไป การยกให้ลาห์มเป็นกัปตันก็เข้าใจได้...

จะเห็นได้ว่ากับบางทีมชาติ ตำแหน่งกัปตันทีม มันก็สำคัญและมีคุณค่า แต่กับบางทีมชาติ มันก็อาจใช้เป็นเพียงสัญลักษณ์ของผู้นำ ที่หมุนเวียนกันได้...เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุด นั่นคือ ผลการแข่งขัน ให้ได้ตามที่ต้องการ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

related