เตรียมพบกับรถเมล์พลังงานไฟฟ้า ที่จะเริ่มวิ่งในเดือนสิงหาคมและตลอดปี 2565 รวม 1,250 คัน ปฏิรูปภาพลักษณ์รถเมล์ไทย ต้องแก้ไขปัญหาจราจร ลดมลพิษทางอากาศและเป็นมิตรเข้าถึงคนทุกคนกลุ่ม วางเส้นทางเชื่อมต่อระบบขนส่งมวลชนอื่น เตรียมคุมราคา 10 บาท ตลอดสาย 3 เดือนแรก
สำหรับรถเมล์ไทยในเขตกรุงเทพฯ เริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงหลังจากประกาศปฏิรูปรถเมล์ครั้งใหญ่ โยกหน้าที่ให้กรมการขนส่งทางบกเป็นผู้รับผิดชอบพิจารณาคัดเลือกผู้ประกอบการแทนขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ (ขสมก.)
ทั้งนี้จากปัญหาการให้บริการระบบการขนส่งด้วยรถโดยสารประจำทางในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลที่ยังไม่ตอบสนองความต้องการของประชาชน ทั้งในด้านคุณภาพความปลอดภัย จำนวนรถที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการ ขาดการเชื่อมโยงกับระบบการขนส่งรูปแบบอื่นที่ก่อให้เกิดปัญหาการร้องเรียนเกี่ยวกับการให้บริการมาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ที่มีสาเหตุหลักมาจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงไม่สมบูรณ์ของเครื่องยนต์
กระทรวงคมนาคม โดย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ดำเนินการตามนโยบายรัฐบาล สนับสนุนให้เกิดการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในระบบขนส่งสาธารณะ และเร่งแก้ไขปัญหาการให้บริการระบบการขนส่งด้วยรถโดยสารประจำทางมาอย่างต่อเนื่อง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ส่วนทางกรมการขนส่งทางบกรายงานว่า ได้ดำเนินการคัดเลือกผู้ประกอบการขนส่งตามแผนการปฏิรูปรถโดยสารประจำทาง โดยผู้ประกอบการขนส่งจะเริ่มนำรถใหม่มาให้บริการ ซึ่งจะทำให้ประชาชนได้ใช้บริการรถโดยสารประจำทางที่เป็นรถปรับอากาศรูปแบบใหม่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าที่สามารถให้บริการผู้โดยสารที่ใช้ Wheel Chair ติดตั้งและใช้เครื่องบันทึกข้อมูลการเดินทางของรถ (GPS) ติดตั้งและใช้ระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ (E-Ticket System) ติดตั้งระบบ CCTV เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร เส้นทางการเดินรถที่ครอบคลุม เชื่อมต่อกับระบบขนส่งมวลชนทุกระบบ ตอบโจทย์การเดินทาง และเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
อีกทั้งยังช่วยลดปัญหาการจราจร และปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 โดยจะเริ่มเดินรถในเดือนสิงหาคม 2565 จำนวน 5 เส้นทาง ได้แก่
และในเดือนกันยายนจนถึงปลายปี 2565 จะสามารถทยอยนำรถใหม่มาให้บริการในเส้นทางต่าง ๆ ได้ครบทั้ง 77 เส้นทาง จำนวน 972 คัน และยังมีผู้ประกอบการขนส่งรายที่ได้รับใบอนุญาตไปก่อนหน้านี้ จำนวน 278 คัน รวมจำนวนทั้งสิ้น 1,250 คัน และในส่วนของเส้นทางการเดินรถโดยสารทั้งหมด 237 เส้นทางในกรุงเทพมหานครจะดำเนินการเปลี่ยนเป็นรถ EV ให้ครบทั้งหมดในระยะต่อไป
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้มอบนโยบายให้กรมการขนส่งทางบกเจรจากับผู้ประกอบการขนส่งให้พิจารณาลดอัตราค่าโดยสารให้กับประชาชนผู้มีรายได้น้อย ทั้งนี้ ได้รับรายงานจากกรมการขนส่งทางบกภายหลังเจรจากับผู้ประกอบการขนส่งแล้วทราบว่า บริษัทได้พิจารณาจัดเก็บค่าโดยสาร ที่ราคา 10 บาท ตลอดสาย เป็นเวลา 3 เดือน เป็นอย่างน้อย สำหรับประชาชนผู้เดินทางซึ่งเป็นผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และในระยะต่อไปบริษัทได้มีการวางแผนเพื่อลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางในแต่ละวันของพี่น้องประชาชน โดยการจัดทำตั๋วรายวันซึ่งจะสามารถเชื่อมต่อการเดินทางภายในระบบรถโดยสารเอง และต่อเนื่องไปยังระบบการขนส่งสาธารณะอื่น ๆ
นอกจากนี้ สำหรับพนักงานขับรถและผู้ประจำรถของผู้ประกอบการรายเดิมที่ได้รับผลกระทบจากการออกใบอนุญาตประกอบการให้กับผู้ประกอบการรายใหม่ ได้มอบหมายให้กรมการขนส่งทางบกรวบรวมรายชื่อพนักงานหรือลูกจ้างของผู้ประกอบการรายเดิม และประสานขอความร่วมมือผู้ประกอบการขนส่งรายใหม่พิจารณารับพนักงานและลูกจ้างดังกล่าวเข้าเป็นพนักงานต่อไป