บมจ.ประกันภัยไทยวิวัฒน์ ได้ก้าวสู่ก้าวใหม่ในปีที่ 74 พร้อมได้เน้นย้ำแนวคิด Beyond Insurance เป็นมากกว่าประกันภัย เดินหน้าสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อความยั่งยืนคืนสู่สังคม เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ประกันรถเปิดปิด "รถติดไม่คิดเบี้ย" เน้นเข้าใจ Pain Point ของลูกค้าในทุกมิติ ต่อยอดความสำเร็จและเพิ่มประสบการณ์ใช้งานที่มากกว่าแบบไร้รอยต่อ คืนชั่วโมงความคุ้มครองลูกค้าขณะรถติดให้อัตโนมัติ พร้อมส่งต่อสิ่งดีๆคืนสู่สังคม
เชื่อเหลือเกินว่ามนุษย์เราต้องการความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สิน ดังนั้นจึงต้องมีการทำประกันภัยไว้เพื่อสร้างความยั่งยืน และให้จัดการความเสี่ยงทั้งในชีวิตและทรัพย์สินของเรา เพราะ..หากคนไทยมีความมั่นคงในการดำเนินชีวิตแล้ว ก็จะมีความพร้อมในการทำสิ่งดีๆและสามารถส่งต่อให้กับผู้อื่นภายในสังคมด้วยเช่นกัน ประกันภัยไทยวิวัฒน์ คืออีกหนึ่งฟันเฟืองที่ยังคงเดินหน้า เป็นมากกว่าประกันภัย สร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อความยั่งยืนคืนสู่สังคม
โดยปัจจุบัน บมจ.ประกันภัยไทยวิวัฒน์ ได้ก้าวสู่ก้าวใหม่ในปีที่ 74 พร้อมได้เน้นย้ำแนวคิด Beyond Insurance เป็นมากกว่าประกันภัย เดินหน้าสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อความยั่งยืนคืนสู่สังคม เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ประกันรถเปิดปิด "รถติดไม่คิดเบี้ย" เน้นเข้าใจ Pain Point ของลูกค้าในทุกมิติ ต่อยอดความสำเร็จและเพิ่มประสบการณ์ใช้งานที่มากกว่าแบบไร้รอยต่อ คืนชั่วโมงความคุ้มครองลูกค้าขณะรถติดให้อัตโนมัติ พร้อมส่งต่อสิ่งดีๆคืนสู่สังคม
พร้อมกันนี้ได้ชูแคมเปญ “Thaivivat Caring Forward คิดเผื่อเพื่อสังคม และได้เชิญชวนลูกค้าประกันภัยรถยนต์ ขับรถปลอดภัย ได้สิทธิ์ลดหย่อนภาษี โดยประกันภัยไทยวิวัฒน์มอบเงินบริจาคในนามของผู้เอาประกันภัยแก่มูลนิธิเพื่อสังคม ล่าสุดผนึกพันธมิตรมอบเงินบริจาค คิกออฟ 1 ล้านบาท กับงานคอนเสิร์ตการกุศล Thaivivat Caring Forward โดยศิลปินชั้นนำ คุณนภ พรชำนิ และ คุณแสตมป์ อภิวัชร์ สร้างการมีส่วนร่วมในการแบ่งปันเพื่อสังคมที่ดีกว่า
พามาฟังมุมมองจากผู้บริหาร อย่าง “นายจีรพันธ์ อัศวะธนกุล” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ประกันภัยไทยวิวัฒน์ จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านนวัตกรรมประกันภัย เล่าให้ฟังว่า ประกันภัยไทยวิวัฒน์ อยู่คู่กับคนไทยมาแล้วกว่า 7 ทศวรรษ และได้มุ่งมั่นที่จะเป็นหลักประกันที่มั่นคงของคนไทย พร้อมทั้งตระหนักถึงความสำคัญในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ที่จะเติบโตควบคู่ไปพร้อมกับสังคมไทย เพื่อให้คนไทยเข้าถึงการประกันภัยได้ง่ายขึ้น
ทั้งนี้ได้เดินหน้าแผนการดำเนินงานผ่านวิสัยทัศน์ “คิดเผื่อเพื่อทุกชีวิต” ในทุกสถานการณ์และทุกความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น เพราะเราเชื่อว่าการประกันภัยเป็นส่วนหนึ่งที่จะสามารถสร้างความยั่งยืนให้กับสังคมเพื่อจัดการความเสี่ยงทั้งในชีวิตและทรัพย์สิน เมื่อคนไทยมีความมั่นคงในการดำเนินชีวิตแล้ว ก็จะมีความพร้อมในการทำสิ่งดีๆและสามารถส่งต่อให้กับผู้อื่นภายในสังคมด้วย
อย่างไรก็ตามในโอกาสก้าวสู่ปีที่ 74 จึงเป็นอีกก้าวที่สำคัญที่เราจะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับสังคมไทยไปอีกขั้น ด้วยการพัฒนาและออกแบบผลิตภัณฑ์ รวมถึงการบริการที่มีความยืดหยุ่นและเข้าใจผู้บริโภคในทุกมิติเพื่อให้สอดรับวิถีชีวิตและความต้องการเฉพาะบุคคล (Personalized) เพื่อให้คนไทยสามารถเลือกผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความต้องการ และวิถีชีวิตของตนเองได้อย่างแท้จริง รวมถึงได้รับความคุ้มครองที่เพียงพอและเหมาะสมกับตนเอง
ขณะที่ นายเทพพันธ์ อัศวะธนกุล รองกรรมการผู้อำนวยการ กล่าวว่า ยังคงมุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์และการบริการให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค อีกทั้งยังมุ่งเติมเต็มการใช้ชีวิตและความต้องการที่หลากหลายของแต่ละบุคคลด้วยการนำ InsurTech มาใช้เพื่อยกระดับบริการและสร้างประสบการณ์ประกันภัยแห่งอนาคต ทั้งกลุ่ม Motor และ Non-Motor ให้เข้าถึงง่าย ใช้งานสะดวก และคุ้มค่า ครอบคลุมทุกลักษณะการใช้งานที่แตกต่าง โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ประกันรถเปิดปิด กับแนวคิด จอดรถไว้ไม่ขับ ไม่ต้องจ่ายค่าประกัน ไม่ว่าจะขับมาก ขับน้อย หรือไม่ค่อยได้ขับก็ประหยัดสูงสุดถึง 80% เพื่อให้คนไทยเข้าถึงการประกันภัยมากที่สุด
“วันนี้บริษัทฯ ยังคงให้ความสำคัญกับการเดินหน้าสร้างสรรค์ประสบการณ์ใหม่ๆให้กับผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง จึงพัฒนาต่อยอดประกันรถเปิดปิดกับฟีเจอร์ใหม่“รถติดไม่คิดเบี้ย”เป็นครั้งแรกของประเทศไทย ที่คิดเผื่อเพื่อผู้บริโภคไปอีกขั้น สร้างความแฟร์คืนความคุ้มค่าที่มากกว่า นอกจากประกันรถเปิดปิด จะให้ลูกค้าจ่ายเบี้ยตามที่ขับแล้ว ยังคืนชั่วโมงความคุ้มครองกรณีรถติดให้อัตโนมัติ” นายเทพพันธ์ กล่าว
ขณะเดียวกันจะยังคงคอนเซ็ปต์การใช้งานง่าย และสะดวกผ่านอุปกรณ์ TVI Connect สร้างประสบการณ์ที่ดีแบบไร้รอยต่อให้กับผู้ใช้งานโดยไม่ต้องทำอะไรต่างไปจากเดิม ระบบก็สามารถคำนวณเวลาในช่วงรถติด คืนให้ลูกค้าได้อย่างแม่นยำ หลังจากนั้นจะทำการคืนชั่วโมงความคุ้มครองสูงสุด 2 ชั่วโมง/วัน ให้ลูกค้าอัตโนมัติ ตรวจสอบได้ผ่านแอปพลิเคชัน Thaivivat
สำหรับลูกค้าที่อยากทราบที่มาของแนวคิดการคืนชั่วโมงความคุ้มครองประกันรถเปิดปิดขณะรถติดนั้น ผู้บริหารเล่าว่า บริษัทได้เล็งเห็นความสำคัญของความคุ้มค่าที่ลูกค้าจะได้รับเป็นหลัก เนื่องจากขณะรถติด ความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นก็ลดลง โอกาสการเกิดอุบัติเหตุก็มีน้อย เช่นเดียวกับจอดรถไว้ไม่ได้ขับ ก็ไม่จำเป็นต้องเสียค่าเบี้ยประกัน ดังนั้นเพื่อเป็นการคืนความคุ้มค่าให้กับลูกค้าและมอบประสบการณ์ที่ดียิ่งกว่า บริษัทฯ จึงไม่คิดเบี้ยประกันขณะรถติดแต่ยังให้ความคุ้มครองครบตลอด 24 ชั่วโมง ตามแผนประกันที่ลูกค้าเลือก
นอกจากนี้เนื่องในโอกาสก้าวสู่ปีที่ 74 ประกันภัยไทยวิวัฒน์ ยังคิดเผื่อเพื่อสังคม และเพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสังคมแห่งการแบ่งปัน และส่งเสริมการขับรถปลอดภัย จึงได้จัดแคมเปญ “Thaivivat Caring Forward คิดเผื่อเพื่อสังคม”ภายใต้คอนเซ็ปต์ Beyond Insurance for a Better Society มากกว่าประกันภัยคืนสู่สังคม ด้วยการเชิญชวนลูกค้าประกันภัยรถยนต์ ทำความดี ขับรถปลอดภัย เพียงแค่ทำประกันภัยรถยนต์แล้วไม่มีการเคลมที่เป็นฝ่ายผิด
นอกจากลูกค้าจะได้รับส่วนลดประวัติดีในปีถัดไปแล้ว บริษัทฯ ยังจะมอบเงินบริจาคในนามของผู้เอาประกันภัยให้กับมูลนิธิหรือองค์กรเพื่อสาธารณกุศลเพื่อช่วยเหลือสังคม พร้อมได้รับสิทธิ์ลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามเงื่อนไขของสรรพากรอีกด้วย โดยลูกค้าสามารถเลือกบริจาคให้กับมูลนิธิในโครงการฯ ได้แก่ โครงการเงินทุนฉุกเฉินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ สภากาชาดไทย, มูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์, มูลนิธิยุวพัฒน์, มูลนิธิกระจกเงา, กองทุนอาคารเฉลิมพระเกียรติฯ มูลนิธิโรงพยาบาลเด็ก และมูลนิธิเดอะวอยซ์ (เสียงจากเรา) ตามความต้องการของตนเองได้ผ่านการลงทะเบียนที่แอปพลิเคชัน Thaivivat
สำหรับลูกค้าประกันภัยไทยวิวัฒน์ ผู้ถือกรมธรรม์ชั้น 1 ทั้งแบบรายปีทั่วไปและแบบประกันรถเปิดปิด ที่สนใจเข้าร่วมโครงการฯ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.thaivivat.co.th และสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ได้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567 ถึง 31 มีนาคม 2568 นี้ ผ่านแอปพลิเคชัน Thaivivat
นับได้ว่า 74 ปี ที่ประกันภัยไทยวิวัฒน์อยู่คู่กับคนไทยเป็นมากกว่าประกันภัย ได้คิดเผื่อ เพื่อสังค พร้อมเดินหน้าสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อความยั่งยืนคืนสู่สังคม ภายใต้แนวคิด Beyond Insurance