ดูดไขมัน ช่วยลดน้ำหนักได้หรือไม่? อันตรายไหม? ดูดไขมันที่ไหนดี? ก่อนจะดูดไขมันต้องรู้เรื่องอะไรบ้าง ในบทความนี้มีคำตอบ
ปัจจุบันการดูดไขมันเป็นที่นิยมกันมากขึ้น เนื่องจากผู้คนเริ่มหันมาใส่ใจและดูแลรูปร่างของตนเอง การดูดไขมันจึงเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยปรับเปลี่ยนรูปร่างของเราให้ได้สัดส่วนอย่างรวดเร็ว มีหลายคนที่อยากดูดไขมันแต่ก็ยังไม่ทราบข้อมูลที่แท้จริงว่า การดูดไขมันคืออะไร? ช่วยอะไรได้บ้าง สรุปแล้วการดูดไขมันอันตรายจริงไหม? ในบทความนี้ Amara Clinic จะมาพามาหาคำตอบเกี่ยวกับการดูดไขมัน และข้อควรรู้ต่างๆ ว่าถ้าอยากมีหุ่นดีด้วยการดูดไขมัน ต้องทำอย่างไรบ้าง
สารบัญบทความ
การดูดไขมัน คือ?
การดูดไขมัน (Liposuction) คือการศัลยกรรมรูปแบบหนึ่งที่ช่วยลดจำนวนไขมันส่วนเกินบริเวณต่างๆ บนร่างกายที่เกิดจากการสะสมไขมันเฉพาะที่ได้ เช่น บริเวณหน้าท้อง สะโพก ต้นขา ต้นแขน ก้น เหนียง เป็นต้น การดูดไขมันสามารถเห็นผลได้อย่างชัดเจนหลังทำ
ดูดไขมันดีไหม? สำหรับบุคคลที่มีปัญหาไขมันส่วนเกินเฉพาะที่หรืออยากให้สัดส่วนลดลง การดูดไขมันเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ปลอดภัยและมีความเสี่ยงน้อย ทั้งนี้การดูดไขมันควรเลือกโรงพยาบาลหรือคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีห้องผ่าตัดที่ปลอดเชื้อ และที่สำคัญต้องมีศัลยแพทย์หรือวิสัญญีแพทย์คอยดูแล ให้การรักษาทุกขั้นตอน รวมถึงให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด
ดูดไขมัน ช่วยอะไรได้บ้าง
ตำแหน่งใดบ้างที่ดูดไขมันได้
ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจก่อนว่า ส่วนที่เราสามารถดูดไขมันออกมาได้ คือไขมันใต้ชั้นผิวหนังเท่านั้น ซึ่งไขมันในชั้นผิวหนังนี้เป็นตัวการที่ทำให้เราอ้วนขึ้นหรือผอมลง ซึ่งในแต่ละคนก็จะมีไขมันสะสมตามจุดต่างๆ แตกต่างกันไป สำหรับการดูดไขมันสามารถทำได้เกือบทุกบริเวณที่มีไขมันส่วนเกินสะสมอยู่ใต้ชั้นผิวหนัง โดยบริเวณตำแหน่งที่สามารถดูดไขมันได้ มีดังต่อไปนี้
1. ดูดไขมันทั้งตัว
การดูดไขมันทั้งตัวควรอยู่ในการประเมินของแพทย์ เพราะการดูดไขมันทั้งตัวต้องใช้วิธีการคำนวณที่แตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล ซึ่งคนตัวเล็กและคนตัวใหญ่ก็จะมีปริมาณการดูดไขมันที่แตกต่างกัน โดยอันตรายของการดูดไขมันทั้งตัวจะขึ้นอยู่กับ ปริมาณของไขมันที่ดูดออกมา และปริมาณยาชาที่ใช้ ว่าเกินจากกำหนดหรือไม่
2. ดูดไขมันเหนียง/แก้ม
การดูดไขมันบริเวณใบหน้า เป็นบริเวณที่มีเส้นประสาทและเส้นเลือดอยู่เยอะมาก ระหว่างดูดไขมันจึงต้องใช้ความระมัดระวังสูง จึงควรทำกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น การดูดไขมันเหนียงและแก้มเหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาแก้มเยอะ หน้ากลม หรือมีเหนียงยาน ก้มหน้าไม่สุด รวมถึงคนที่มีปัญหาเรื่องผิวหย่อนคล้อย
3. ดูดไขมันต้นแขน
ก่อนการดูดไขมันต้นแขนควรให้แพทย์ประเมินทุกครั้งเพื่อหาสาเหตุของการมีแขนใหญ่ เช่น เกิดจากไขมันใต้ชั้นผิวหนัง แขนใหญ่เพราะกล้ามเนื้อ หรือเกิดจากผิวที่หย่อนคล้อย เป็นต้น หากแพทย์ประเมินแล้วว่าแขนใหญ่เพราะไขมันก็สามารถดูดไขมันต้นแขนได้
4. ดูดไขมันนมน้อย
ก่อนการดูดไขมันบริเวณนมน้อยต้องให้แพทย์ประเมินก่อนว่า นมน้อยที่เกิดขึ้นเกิดจากสาเหตุใด เกิดจากไขมันส่วนเกินหรือเกิดจากเต้านมส่วนเกิน ถ้านมน้อยเกิดจากไขมันก็สามารถดูดไขมันนมน้อยได้
5. ดูดไขมันแผ่นหลัง
การดูดไขมันแผ่นหลังเป็นตำแหน่งที่ดูดไขมันยากและเจ็บมาก เพราะบริเวณแผ่นหลังของเรามีไขมันไม่เยอะแต่มีพังผืด เลยทำให้มีโอกาสเสียเลือดค่อนข้างมาก การดูดไขมันแผ่นหลังนี้จึงเหมาะสำหรับวิธีวางยาสลบมากกว่าใช้ยาชา
6. ดูดไขมันหน้าท้อง
ดูดไขมันบริเวณหน้าท้องเป็นตำแหน่งที่คนนิยมมากที่สุด เพราะหลายๆ คนมักมีปัญหาไขมันสะสมหน้าท้อง ทั้งนี้ก่อนทำการดูดไขมันหน้าท้อง แพทย์จะประเมินก่อนว่าส่วนใหญ่เป็นไขมันใต้ชั้นผิวหนัง หรือไขมันในช่องท้องมากกว่ากัน สำหรับคนที่มีไขมันใต้ชั้นผิวหนังเยอะมากกว่าผลลัพธ์หลังดูดไขมันหน้าท้องจะเห็นชัดมากกว่าคนที่มีไขมันช่องท้องเยอะ
7. ดูดไขมันเอวเอส
การดูดไขมันเอวเอส หรือดูดไขมันเอวคอด คือการดูดไขมันตั้งแต่ช่วงเอวด้านหน้าไปจนถึงเหนือสะโพก แพทย์ที่ทำการดูดไขมันเอวเอสควรมีความเข้าใจในเรื่องของการออกแบบสัดส่วนด้วย เพื่อดีไซน์ช่วงเอวให้เหมาะกับก้นและแผ่นหลังของคนไข้
8. ดูดไขมันต้นขา
ก่อนการดูดไขมันต้นขาต้องให้แพทย์ประเมินก่อนว่า สาเหตุที่ทำให้ต้นขาใหญ่คืออะไร นอกจากนี้แพทย์ต้องรู้ว่าลักษณะขาของคนไข้เป็นอย่างไร เพื่อดูดไขมันต้นขาออกในปริมาณที่เหมาะสม เพราะถ้าดูดมากเกินไปก็มีโอกาสที่ขาจะเว้าแหว่งได้
9. ดูดไขมันน่อง
การมีปัญหาน่องใหญ่ส่วนมากมาจากกล้ามเนื้อ และมาจากไขมันส่วนเกินเป็นส่วนน้อย หากน่องใหญ่จากกล้ามเนื้ออาจจะต้องใช้การรักษาในรูปแบบอื่น เช่น การฉีดโบท็อกซ์ ทั้งนี้วิธีการรักษาจะขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์ด้วย
10. ดูดไขมันข้อเท้า
การดูดไขมันข้อเท้าเป็นตำแหน่งที่ดูดไขมันได้ยาก เพราะมีชั้นไขมันที่บางและต้องใช้อุปกรณ์พิเศษในการดูดไขมัน เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาไขมันสะสมที่ข้อเท้าเยอะ
ข้อดีและข้อจำกัดของการดูดไขมัน
ข้อดีของการดูดไขมัน
ข้อจำกัดและความเสี่ยงของการดูดไขมัน
ควรเลือกคลินิกแบบใดสำหรับดูดไขมัน
ดูดไขมันที่ไหนดี? ในปัจจุบันมีคลินิกดูดไขมันให้เลือกมากมาย ทำให้หลายคนเกิดคำถามขึ้นมาว่าควรเลือกสถานที่ดูดไขมันอย่างไรดีให้ปลอดภัย ทาง Amara Clinic ได้รวบรวม 6 วิธีการเลือกคลินิกดูดไขมันไว้ดังนี้
1.ตรวจสอบความเชี่ยวชาญของแพทย์
แพทย์ที่จะทำการดูดไขมันให้เราต้องมีใบประกอบวิชาชีพ สามารถตรวจสอบรายชื่อแพทย์ได้จากแพทยสภา แพทย์ต้องมีความชำนาญในการดูดไขมัน และมีการให้คำแนะนำที่น่าเชื่อถือ อย่างไรก็ตามการเข้าไปปรึกษาแพทย์โดยตรงจะทำให้เรารู้วิธีการประเมินความรู้ ความเชี่ยวชาญ และความน่าเชื่อถือของแพทย์ได้
2. เช็คดูภาพรวมของคลินิกดูดไขมัน
เมื่อพบคลินิกดูดไขมันที่น่าสนใจ เราควรดูภาพรวมคลินิกเบื้องต้นก่อนว่าเป็นอย่างไร เช่น สถานที่ตั้ง บรรยากาศภายในคลินิก คลินิกมีการแสดงใบอนุญาตการจัดตั้งสถานพยาบาลที่ตรวจสอบได้ หากดูดไขมันแบบวางยาสลบผู้ที่ให้ยาสลบต้องเป็นวิสัญญีแพทย์เท่านั้น ความสะอาดและการป้องกันเชื้อโรค การให้ข้อมูลที่ไม่โฆษณา โอ้อวด หรือกล่าวอ้างเกินจริง มีราคาที่เหมาะสม เป็นต้น
3. ตรวจสอบเครื่องดูดไขมัน และอุปกรณ์ที่ใช้
เครื่องดูดไขมันและอุปกรณ์อื่นๆ ที่ใช้ แต่ละแบบ แต่ละรุ่นล้วนมีข้อดี ข้อเสียแตกต่างกันไป ยิ่งเป็นเครื่องรุ่นใหม่ก็จะมีการนำเอาเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ จึงทำให้เราได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า ปลอดภัยกว่า โดยสิ่งที่ต้องตรวจสอบเกี่ยวกับเครื่องดูดไขมันและเครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ คือ ความทันสมัย เครื่องต้องเป็นเครื่องแท้ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานแล้ว
4. ห้องผ่าตัดดูดไขมันต้องได้มาตรฐาน ปลอดภัย และปลอดเชื้อ
ห้องผ่าตัดเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามสำหรับการดูดไขมัน โดยเฉพาะการดูดไขมันแบบวางยาสลบ เพื่อให้ระหว่างการดูดไขมันปลอดภัย ปลอดเชื้อ และไม่เป็นอันตรายระหว่างผ่าตัด ซึ่งห้องผ่าตัดที่เหมาะสมกับการดูดไขมันคือ ห้องผ่าตัดมาตรฐานคลีนรูม (Cleanroom) ที่มีระบบ Positive Pressure เท่านั้น
5. ความใส่ใจและบริการที่ดี ทั้งก่อนและหลังทำ
การบริการคนไข้ทั้งเจ้าหน้าที่ในคลินิก และความใส่ใจของแพทย์เป็นสิ่งที่จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับคลินิก โดยคลินิกดูดไขมันที่ดีควรให้ข้อมูลและคำแนะนำอย่างครบถ้วน ตอบอย่างเต็มใจ มีบริการดูแลที่ดีก่อนทำและหลังทำ
6. มีรีวิวจากผู้ใช้บริการจริง
การตรวจสอบคลินิกที่น่าเชื่อถืออีกหนึ่งวิธีคือ การดูรีวิวจากผู้ใช้บริการจริง โดยคลินิกควรแสดงภาพก่อนและหลังทำเปรียบเทียบในมุมเดียวกัน มีรีวิวให้ดูทุกสัดส่วน ไม่ว่าจะเป็น ต้นแขน ต้นขา หน้าท้อง เป็นต้น มีรีวิวทั้งคนตัวเล็กและคนตัวใหญ่ รวมถึงภาพที่แสดงไม่ควรผ่านการปรับแต่งรูปหรือรีทัชรูปเกินความเป็นจริง
Amara Clinic เราคือศูนย์ดูดไขมัน เติมไขมัน ปรับรูปร่าง และกระชับสัดส่วนเฉพาะทาง มีห้องผ่าตัดที่ได้มาตรฐานด้านความปลอดเชื้อ เลือกใช้เครื่องมือและเทคโนโลยีที่ทันสมัย เราให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและผลลัพธ์เป็นที่สุด เราพร้อมดูแลอย่างเต็มที่ในทุกขั้นตอน โดยทีมแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ที่มากประสบการณ์ พร้อมรางวัลการันตีมากมาย ให้ Amara Clinic เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่จะช่วยเปลี่ยนแปลงรูปร่างให้กับคุณ
วิธีการเตรียมตัวก่อนดูดไขมัน
ผลลัพธ์การดูดไขมัน
ผลลัพธ์หลังจากดูดไขมันขึ้นอยู่กับรายละเอียดหลังทำของแต่ละบุคคล เช่น สภาพร่างกาย วิธีการดูแลรักษาหลังทำ มีการยกกระชับสัดส่วนร่วมด้วยหรือไม่ ปริมาณไขมันที่นำออก ฝีมือและเทคนิคของแพทย์ เครื่องดูดไขมันที่เลือกใช้ การดูแลตนเองหลังดูดไขมัน รวมถึงการติดตามอาการ เป็นต้น
โดยสัปดาห์ที่ 4-8 หลังดูดไขมันสัดส่วนจะเริ่มเข้าที่ ถ้าคนไข้ดูดไขมันหน้าท้อง หรือ ดูดไขมันเอวเอส บริเวณหน้าท้องก็จะเริ่มแบนเรียบ เริ่มมีสัดส่วน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดตัวก่อนทำด้วย หากคนไข้มีผิวที่ย้วยมาก อาจจะเห็นผลในช่วงหลังสัปดาห์ที่ 8 หรือประมาณ 2 เดือน
ดูดไขมัน คำถามที่พบบ่อย
ดูดไขมันน้ำหนักลดไหม?
การดูดไขมันไม่ได้ทำให้น้ำหนักลดลง เนื่องจากน้ำหนักของมวลไขมันและกล้ามเนื้อไม่เท่ากัน แม้จะมีขนาดใหญ่เท่ากันแต่มีน้ำหนักที่แตกต่างกัน ไขมันจะมีน้ำหนักเบามาก แต่กล้ามเนื้อจะมีน้ำหนักมาก ทำให้การดูดไขมันไม่ส่งผลต่อน้ำหนักนั่นเอง แต่ในบางกรณีที่ดูดไขมันทั้งตัวหรือดูดไขมันหลายตำแหน่ง รวมถึงมีปริมาณไขมันมากอาจทำให้น้ำหนักลดลงได้
ดูดไขมันอันตรายไหม?
ดูดไขมันอันตรายไหม? ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าไปมาก ทำให้การดูดไขมันในปัจจุบันมีความเสี่ยงน้อยลง และมีความปลอดภัยมากขึ้น หากเลือกดูดไขมันกับสถานพยาบาลที่ถูกต้องตามกฎหมาย ได้มาตรฐาน มีห้องผ่าตัดที่ปลอดเชื้อ มีเครื่องดูดไขมันที่ดี และมีที่แพทย์ชำนาญเฉพาะทาง
ผู้ชายดูดไขมันได้ไหม?
ดูดไขมันผู้ชายสามารถทำได้ทุกตำแหน่ง ไม่ว่าจะเป็นการดูดไขมันหน้าท้อง ดูดไขมันต้นขา ดูดไขมันเหนียง แต่ข้อจำกัดของผู้ชายส่วนใหญ่คือ ผู้ชายมักมีปัญหาไขมันในช่องท้องหรือกล้ามเนื้อมากกว่าไขมันใต้ชั้นผิวหนัง ในผู้ชายบางเคสจึงไม่สามารถดูดไขมันออกมาได้ แพทย์จึงแนะนำให้รักษาด้วยวิธีการอื่นแทน เช่น การออกกำลังกาย ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน การฉีดลดกล้ามเนื้อ เป็นต้น
ดูดไขมันเจ็บไหม?
ดูดไขมันเจ็บไหม? ความเจ็บในการดูดไขมันขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ต้องการดูดไขมัน อย่างการดูดไขมันแผ่นหลังก็จะเจ็บมากกว่าตำแหน่งอื่น ส่วนประเภทเครื่องดูดไขมันที่เลือกใช้ ปริมาณของไขมัน วิธีระงับความเจ็บปวด ความหนักเบาของมือแพทย์ รวมถึงเทคนิคและฝีมือของแพทย์ ก็มีผลกับความเจ็บด้วยเช่นกัน
สรุปเรื่องดูดไขมัน
การดูดไขมันในปัจจุบันเป็นเรื่องที่ไม่น่ากลัวอย่างที่ใครหลายคนคิด เทคโนโลยีและอุปกรณ์ทางการแพทย์มีความก้าวหน้าและทันสมัยมากขึ้น ตัวเครื่องดูดไขมันมีให้เลือกมากมาย ได้มาตรฐานและผ่านการรองรับ มีการนำพลังงานต่าง ๆ เข้ามาช่วยสลายไขมัน การเจ็บตัวน้อยลง
สำหรับใครที่มีปัญหาไขมันสะสมเฉพาะจุดหรืออยากปรับสัดส่วน การดูดไขมันก็จะเป็นตัวเลือกที่ดีในการปรับรูปร่าง ทั้งนี้ก่อนการเข้ารับการดูดไขมันควรศึกษาดูคลินิกที่น่าเชื่อถือ รวมทั้งแพทย์ต้องเชี่ยวชาญด้วย เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีต่อร่างกายของเรา