หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) ผลักดันพัฒนานวัตกรรม 5G – AI เพื่อใช้กับการป้องกันอาชญากรรมและรักษาความปลอดภัยพื้นที่สาธารณะของกรมตำรวจ
ที่โรงแรมเอเซีย กรุงเทพมหานคร สถาบันวิจัยและนวัตกรรมดิจิทัล มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ได้ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการด้านการศึกษา วิจัยและพัฒนานวัตกรรม 5G และระบบปัญญาประดิษฐ์ AI เพื่อกิจการงานตำรวจ ซึ่งนำร่องด้วยแพลตฟอร์ม 5G-AI ในการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่สาธารณะ ที่เป็นความร่วมมือระหว่างภาคการศึกษา ได้แก่ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และโรงเรียนนายร้อยตำรวจ กับภาคเอกชนไทยคือ บริษัท พอยท์ ไอที คอนซัลทิ่ง จำกัด และภาคเอกชนประเทศเกาหลีใต้ ประกอบด้วย Hanwha Techwin (ประเทศไทย) บริษัท ฟาโตส จำกัด (FATOS) และ บริษัท อินโนเดป อิงค์ (InnoDep Inc) ในการวิจัยและพัฒนานวัตกรรม และถ่ายทอดเทคโนโลยีองค์ความรู้ เพื่อติดตามและป้องกันการเกิดอาชญากรรม สร้างความปลอดภัยในพื้นที่สาธารณะให้กับประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ
โดยในความร่วมมือครั้งนี้ มีการร่วมสนับสนุนทุนการทดสอบมาตรฐานการใช้งานจริงจาก บพข. ภายใต้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยมี รศ. ดร.สิรี ชัยเสรี ผู้อำนวยการ บพข. ผศ.ดร.วรรณรัช สันติอมรทัต ประธานคณะอนุกรรมการ แผนงานกลุ่มดิจิทัลแพลตฟอร์ม บพข. ศ.พล.ต.ต. ดร.ชัชนันท์ ลีนะเติมพงษ์ คณบดีตำรวจศาสตร์ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ และ ผศ. ดร.วศิน สุวรรณรัตน์ รองอธิการบดีวิทยาเขตหาดใหญ่ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เข้าร่วมลงนามในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในครั้งนี้
รศ. ดร.สิรี ชัยเสรี ผู้อำนวยการ บพข. ได้กล่าวถึงบทบาทของ บพข. ในฐานะผู้ประสานความร่วมมือนานาชาติว่า “การสร้างความร่วมมือกับเครือข่ายนานาชาติเป็นกลไกหนึ่งในการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ตามแพลตฟอร์มการพัฒนาเครือข่ายความร่วมมือนานาชาติ (Global Partnership) เพื่อการพัฒนา ววน. ของประเทศ ซึ่ง บพข. ได้เข้ามาทำหน้าที่เป็นผู้เชื่อมโยงให้เกิดความร่วมมือในรูปแบบเครือข่ายที่มีการทำงานร่วมกับภาคการศึกษา สถาบันวิจัย ภาครัฐ และภาคเอกชน ของไทยและต่างประเทศ ในการทำงานวิจัยและสร้างนวัตกรรมที่เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ที่ผ่านการทำงานร่วมกันระหว่างเครือข่ายความร่วมมือระดับนานาชาติ ในรูปแบบของกระบวนการเลือกรับเทคโนโลยีจากต่างประเทศ และ/หรือ การถ่ายทอดวิทยาการและเทคโนโลยีที่พัฒนาในประเทศให้กับต่างประเทศที่ต้องการ เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้แก่ภาคเอกชนไทยในการนำผลงานวิจัยและนวัตกรรมเข้าสู่ตลาดนานาชาติได้ อันจะนำไปสู่การเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศในระดับนานาชาติ ลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน เกิดประโยชน์ทั้งในเชิงเศรษฐกิจและสังคม”
ผศ. ดร.วรรณรัช สันติอมรทัต ประธานคณะอนุกรรมการ แผนงานกลุ่มดิจิทัลแพลตฟอร์ม บพข. ได้กล่าวเสริมว่า “เราได้มีการทำงานร่วมกับทีมวิศวกรของบริษัท พอยท์ ไอที คอนซัลทิ่ง จำกัด (ผู้ร่วมสนับสนุนทุนวิจัย) เพื่อติดต่อประสานงานกับผู้บริหารของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จนได้ข้อสรุปในการจัดทำพื้นที่ Sandbox ร่วมกับหน่วยปฏิบัติงานด้านการรักษาความปลอดภัยของประเทศ ซึ่งก็คือตำรวจ โดยใช้พื้นที่ของโรงเรียนนายร้อยตำรวจ สามพราน จังหวัดนครปฐม เป็นจุดนำร่องส่วนกลาง และคาดหวังในการจะขยายผลดึงระบบจากพื้นที่อื่น ๆ ในประเทศเชื่อมต่อกับส่วนกลาง ในที่นี้ได้วางพื้นที่เป้าหมายที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นพื้นที่โดยรอบและรอยต่อกับระบบของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ซึ่งขณะนี้เราได้มีการวางแผนทดสอบประสิทธิภาพของการทำงานของ PSU AI smart security platform ร่วมกับเทคโนโลยีของภาคเอกชนประเทศเกาหลีใต้ ได้แก่ บริษัท Hanwa Techwin บริษัท Innodep และบริษัท FATOS โดยกำหนดให้มีรูปแบบของการตรวจจับป้ายทะเบียนจุดเข้าออกพื้นที่ ตรวจจับใบหน้า ติดตามวัตถุ (Tracking) ค้นหาเป้าหมาย (Searching) และแสดงผลของการติดตามวัตถุบนแผนที่ที่มีความละเอียดสูง ซึ่งจะเป็นฟังก์ชันพื้นฐานของแพลตฟอร์มสำหรับการรักษาความปลอดภัยที่จะนำไปสู่เชิงพาณิชย์”
การลงนามข้อตกลงความร่วมมือในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของความคืบหน้าใน “โครงการพัฒนาความร่วมมือนวัตกรรมเมืองอัจฉริยะ ความร่วมมือระหว่างเกาหลีและไทย ในด้านระบบชาญฉลาดสำหรับการรักษาความปลอดภัย” ที่ได้รับการสนับสนุนทุนวิจัยจาก บพข. โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนากระบวนการสร้างความร่วมมือระหว่างนักวิจัยและเอกชนจากประเทศเกาหลีใต้และไทยสนับสนุนการนำนวัตกรรมร่วมไปสู่ตลาดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และดำเนินการเชื่อมต่อระบบที่เกิดขึ้นจากนวัตกรรมของทั้งสองฝ่าย (เกาหลีใต้และไทย) ทดสอบในพื้นที่เมืองอัจฉริยะ รวมทั้งต่อยอดนวัตกรรมดิจิทัลปัญญาประดิษฐ์ระบบรักษาความปลอดภัยนักท่องเที่ยวสำหรับเมืองอัจฉริยะร่วมกับเทคโนโลยีจากประเทศเกาหลีใต้