ปทุมธานีเดือด บิ๊กแจ๊ส ลุยเขย่าการเมืองท้องถิ่นค่ายแดง

จังหวัดปทุมธานี แผ่นดินที่คลองรังสิตหล่อเลี้ยงชีวิตผู้คนมายาวนาน กำลังจะเผชิญหน้ากับการเลือกตั้งท้องถิ่นครั้งสำคัญในปี 2568 ท่ามกลางความเคลื่อนไหวทางการเมืองที่เข้มข้น หนึ่งในตระกูลที่ถูกจับตามองมากที่สุดคือ "หลีนวรัตน์" แห่งธัญบุรี บ้านใหญ่ผู้ทรงอิทธิพลทั้งในระดับท้องถิ่นและชาติ แต่ในศึกเลือกตั้งครั้งนี้ พวกเขากลับต้องเผชิญกับพายุลูกใหญ่ที่โหมกระหน่ำ อันเนื่องมาจากพฤติกรรมอื้อฉาวของทายาทคนเล็ก เรื่องราวนี้ไม่เพียงแต่สั่นคลอนฐานเสียงอันแข็งแกร่ง แต่ยังเป็นบทพิสูจน์สำคัญว่า อิทธิพลของ "บ้านใหญ่" จะสามารถต้านทานกระแสสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปได้หรือไม่!

ตระกูล "หลีนวรัตน์" เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะผู้กุมบังเหียนการเมืองในอำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานีมาอย่างยาวนาน สมาชิกในตระกูลหลายคนดำรงตำแหน่งสำคัญทั้งในเทศบาลและระดับจังหวัด บุคคลสำคัญในตระกูลนี้ ได้แก่ นายกฤษฎา หลีนวรัตน์ ("นายกเบี้ยว") ผู้เคยดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรีมายาวนาน และเป็นบิดาของ นายมนัสนันท์ หลีนวรัตน์ ("ฟลุ๊ค") อดีต ส.อบจ.ปทุมธานี ปัจจุบันเป็น สส.หนึ่งเดียวของพรรคเพื่อไทยในจังหวัดปทุมธานี รวมถึง นายสมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ ("พีช") บุตรชายคนเล็กที่กำลังก้าวเข้าสู่สนามการเมืองท้องถิ่น

อย่างไรก็ตาม ก่อนถึงวันเลือกตั้งที่ 11 พฤษภาคม 2568 ชื่อของ "หลีนวรัตน์" กลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้งในบริบทที่มืดมัว เมื่อ "พีช" สมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ ก่อเหตุขับรถ BMW ป้ายแดงปาดหน้ารถกระบะลุงป้าบนมอเตอร์เวย์ เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้กับสังคมอย่างกว้างขวาง และส่งผลกระทบโดยตรงต่อภาพลักษณ์ของตระกูล

หากไม่มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ "นายกเบี้ยว" กฤษฎา หลีนวรัตน์ ที่ตัดสินใจส่ง นางยุพเยาว์ หลีนวรัตน์ ("น้ำอ้อย") ภรรยา ที่เคยดำรงตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรีในสมัยที่ผ่านมา ลงสมัครชิงเก้าอี้นายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรีในนามกลุ่มธัญญก้าวหน้า พร้อมทั้งส่ง "พีช" สมิทธิพัฒน์ ลงสมัครสมาชิกสภาเทศบาล (สท.) เขต 2 เป็นครั้งแรก คงจะสบายใจหายห่วง

แม้ว่าในสนามเลือกตั้งนายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรีจะมีผู้สมัครถึง 4 คน แต่คู่แข่งที่ถูกจับตามองคือ นางสิริกัญญา เสาะแสวง ("เจ๊เล็ก ออโต้คาร์") จากกลุ่มรวมใจธัญบุรี ซึ่งเคยเป็น สท. และรองประธานสภาเทศบาลฯ มาก่อน อย่างไรก็ตาม ปฏิเสธไม่ได้ว่าปัจจัยสำคัญที่สุดในการเลือกตั้งครั้งนี้คือกระแสสังคมที่ถาโถมเข้าใส่ตระกูล "หลีนวรัตน์" จากกรณีของ "ลูกพีช"

ในอดีต ตระกูล "หลีนวรัตน์" เคยมีความใกล้ชิดกับ นายชาญ พวงเพ็ชร์ และเคยสังกัด "ค่ายสีน้ำเงิน" ก่อนที่จะย้ายมาอยู่ฝั่ง "สีแดง" สังกัดพรรคเพื่อไทยในช่วงการเลือกตั้ง สส. ปี 2566 ความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นนี้เห็นได้จากการที่นายกเบี้ยวและนายชาญเคยร่วมกันผลักดันให้ "ฟลุ๊ค" มนัสนันท์ ได้เป็น สส.ปทุมธานี และยังได้รับการสนับสนุนจากบุคคลสำคัญในพรรคเพื่อไทย เช่น นายทักษิณ ชินวัตร และนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ที่เคยเข้าร่วมงานบวชของ "พีช"

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ทางการเมืองในปทุมธานีก็มีความเปลี่ยนแปลงอย่างน่าสนใจ เมื่อ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ("บิ๊กแจ๊ส") นายก อบจ.ปทุมธานี ได้ก้าวขึ้นมามีบทบาทสำคัญในฐานะหัวหน้าทีมคนรักปทุม พ่วง "สีน้ำเงิน" เป็นออปชั่นเสริม โดยได้รับการสนับสนุนจาก นายเนวิน ชิดชอบ ถึงขั้นที่ "บิ๊กแจ๊ส" ได้รับมอบหมายให้เป็นแม่ทัพในการเลือกตั้งระดับเทศบาล แทนที่นายชาญ พวงเพ็ชร์ที่ย้ายไปสังกัดพรรคเพื่อไทย

แม้ว่ากลุ่มคนรักปทุมของ "บิ๊กแจ๊ส" จะไม่ส่งผู้สมัครนายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรีโดยตรง แต่การปรากฏตัวของผู้สมัครเบอร์ 2 นายสมชาติ ค้าทันเจริญ ที่ชูคำขวัญ "เปลี่ยน เพื่อพัฒนาธัญบุรีให้ยั่งยืน" และมีภาพถ่ายคู่กับ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ก็เป็นสิ่งที่น่าจับตามอง ยิ่งไปกว่านั้น การแข่งขันในเทศบาลนครรังสิต อำเภอธัญบุรี ที่ลูกชายของ "บิ๊กแจ๊ส" ร.ต.อ.ตรีลุพธ์ ธูปกระจ่าง ("โบว์ลิ่ง") ต้องป้องกันแชมป์จากคู่แข่งอย่าง นายเดชา กลิ่นกุสุม ที่ได้รับการสนับสนุนจากนายชาญ พวงเพ็ชร์ ก็ถูกมองว่าเป็นการต่อสู้ระหว่างขั้ว "สีน้ำเงิน" ของธูปกระจ่าง และ "สีแดง" ของกลิ่นกุสุม

สำหรับ "นายกเบี้ยว" กฤษฎา หลีนวรัตน์เอง ก็ต้องเผชิญกับแรงกดดันภายนอกอย่างหนัก นอกเหนือจากวิบากกรรมของลูกชาย เขายังอยู่ระหว่างการถูกคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ไต่สวนในคดีที่ถูกกล่าวหาว่าทุจริตช่วยนายชาญ พวงเพ็ชร์ในการเลือกตั้งนายก อบจ.ปทุมธานี ส่งผลให้เขาตัดสินใจไม่ลงสมัครนายกเล็กในสมัยนี้

การเลือกตั้งนายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรีในปี 2568 จึงเป็นการวัดใจคนสายคลองรังสิตอย่างแท้จริง ตระกูล "หลีนวรัตน์" ที่เคยครองความยิ่งใหญ่มาอย่างยาวนาน กำลังเผชิญกับบททดสอบครั้งสำคัญที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของพวกเขา ไม่เพียงแต่ต้องฝ่ากระแสสังคมที่โกรธเคืองจากพฤติกรรมของ "ลูกพีช" แต่ยังต้องเผชิญกับการท้าทายจากขั้วอำนาจใหม่ที่นำโดย "บิ๊กแจ๊ส" คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผลการเลือกตั้งในวันที่ 11 พฤษภาคมนี้ จะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า อิทธิพลของ "บ้านใหญ่แดงสายแข็ง" จะยังคงอยู่ หรือถึงคราวที่ต้องเปลี่ยนแปลงไปตามคลื่นลมทางการเมืองที่ผันผวนในปทุมธานี!

อ้างอิง

คมชัดลึก1 / คมชัดลึก2 / กรุงเทพธุรกิจ1 / กรุงเพทธุรกิจ2 / NationWeekend / การเมือง /