SHORT CUT
จับตาเลือกตั้งซ่อมเขต 8 นครศรีธรรมราช ศึกในซัดกันเองระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล เบียดกันมาระหว่างพรรคภูมิใจไทยและพรรคกล้าธรรม
การเมืองไทยหลังเทศกาลสงกรานต์ยังคงคุกรุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเลือกตั้งซ่อมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) เขต 8 จังหวัดนครศรีธรรมราช ที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันที่ 4 พฤษภาคม 2568 หลังศาลฎีกามีคำพิพากษาเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง (ใบแดง) ของนางมุกดาวรรณ เลื่องสีนิล สส.พรรคภูมิใจไทย พร้อมตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 10 ปี จากกรณีซื้อเสียง การเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพียงการหาผู้แทนคนใหม่ แต่ยังเป็นการ เปิดศึกระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันเอง ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นตามมารยาททางการเมือง ทำให้สนามเลือกตั้งแห่งนี้เป็นที่จับตามองอย่างยิ่ง
สำหรับการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.นครศรีธรรมราช เขต 8 ในครั้งนี้ มีผู้สมัครลงชิงชัยทั้งหมด 6 คน จาก 6 พรรคการเมือง
เป็น สามีของนางมุกดาวรรณ เลื่องสีนิล สส.ที่ถูกเพิกถอนสิทธิ พรรคภูมิใจไทยในฐานะแชมป์เก่าจึงส่งนายไสวลงสมัครรับเลือกตั้งแทน โดยมี นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ในฐานะผู้นำทัพภาคใต้ของพรรค ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ นายพิพัฒน์ได้ขึ้นเวทีปราศรัยเน้นย้ำภารกิจหลักในการเพิ่มรายได้ให้ประชาชนผ่านการส่งเสริมอาชีพอิสระและการใช้ทรัพยากรท้องถิ่น รวมถึงการทำงานร่วมกับ นายก อบจ. นครศรีธรรมราช เพื่อพัฒนาพื้นที่และดึงงบประมาณสู่ท้องถิ่น คำมั่นสัญญาของนายไสวคือ “ไสว จริงใจ ไปต่อ”
เป็น อดีต สส. นครศรีธรรมราช 9 สมัย และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ถือเป็น เจ้าของพื้นที่เดิม พรรคประชาธิปัตย์มั่นใจว่าจะสามารถคว้าชัยชนะในครั้งนี้ โดยมี นายชวน หลีกภัย อดีตหัวหน้าพรรค และ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคคนปัจจุบัน ลงพื้นที่ช่วยหาเสียงอย่างเข้มข้น นายชินวรณ์ได้โพสต์ถึงความเหนื่อยล้าในการหาเสียงครั้งนี้ แต่ยังคงมุ่งมั่นด้วยอุดมการณ์และความดี นอกจากนี้ นายชินวรณ์ยังได้ ออกมาเปิดเผยถึงข้อมูลการทุจริตการเลือกตั้ง โดยกล่าวหาว่ามี 2 พรรคการเมืองจ่ายเงินให้หัวคะแนนหลักหมื่นบาท เพื่อซื้อเสียงคนละ 1,000 บาท พร้อมเรียกร้องให้ กกต.จับตาเรื่องนี้ กลยุทธ์หลักของนายชินวรณ์คือการเดินเท้าเคาะประตูบ้าน
เป็นผู้สมัครจากพรรคฝ่ายค้าน จบการศึกษาระดับปริญญาเอกด้านวิศวกรรม และมีประสบการณ์ทำงานทั้งในวงการวิชาการและการเมือง เคยเป็นอนุกรรมาธิการในสภาผู้แทนราษฎร
เป็น อดีตสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.จ.) และได้ทำพื้นที่ในนามพรรคกล้าธรรมมาสักระยะหนึ่งแล้ว ที่สำคัญคือ เป็นลูกเขยของนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ พรรคกล้าธรรมได้รับการสนับสนุนจาก ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า ซึ่งเตรียมนำทัพใหญ่มาช่วยปราศรัย นักวิเคราะห์มองว่าการเข้ามาของพรรคกล้าธรรมทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้ "ไม่ธรรมดา" และกลายเป็น สงครามตัวแทนระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคภูมิใจไทย แม้ว่าพรรคเพื่อไทยจะไม่ได้ส่งผู้สมัครโดยตรงก็ตาม นอกจากนี้ยังมีกระแสข่าวว่า ส.ส. จากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) อาจย้ายไปซบพรรคกล้าธรรม ซึ่งพรรคพลังประชารัฐเองก็ประกาศว่าจะไม่ส่งผู้สมัครในการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ โดยให้เกียรติพรรคเดิม
สถานการณ์การแข่งขันในครั้งนี้จึงมีความน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นการ แข่งขันกันเองระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลถึง 3 พรรค คือ พรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคกล้าธรรม ซึ่งปกติแล้วพรรคร่วมรัฐบาลมักจะหลีกเลี่ยงการส่งผู้สมัครแข่งขันกันเองในลักษณะนี้ การที่พรรคเพื่อไทยไม่ส่งผู้สมัคร แต่พรรคกล้าธรรมซึ่งมีความใกล้ชิดกันลงแข่งขัน ทำให้เกิดการมองว่าเป็นการต่อสู้ระหว่างขั้วการเมืองอย่างเงียบๆ ยิ่งไปกว่านั้น ความสัมพันธ์ในครอบครัวของผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์และพรรคกล้าธรรมก็เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่น่าจับตามอง
การเลือกตั้งซ่อม สส.นครศรีธรรมราช เขต 8 ในวันที่ 4 พฤษภาคม 2568 จึงเป็นสนามการเมืองที่เต็มไปด้วยความเข้มข้นและน่าติดตาม ไม่ว่าจะเป็นการ รักษาเก้าอี้ของพรรคภูมิใจไทย โดยส่งทายาททางการเมืองลงแข่งขัน การ ทวงคืนพื้นที่ของพรรคประชาธิปัตย์ โดยอดีต สส.มากประสบการณ์ หรือการ แจ้งเกิดของพรรคกล้าธรรม ที่ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มการเมืองที่น่าสนใจ การแข่งขันที่ดุเดือดระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล และข้อกล่าวหาเรื่องการซื้อเสียง ล้วนเป็นปัจจัยที่จะส่งผลต่อผลการเลือกตั้งครั้งนี้
ผลการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ไม่เพียงแต่จะตัดสินว่าใครจะเป็นผู้แทนคนใหม่ของชาวนครศรีธรรมราช เขต 8 แต่ยังอาจ ส่งสัญญาณถึงความสัมพันธ์และเสถียรภาพของพรรคร่วมรัฐบาล รวมถึง แนวโน้มทางการเมืองในอนาคต ได้อีกด้วย คอการเมืองและประชาชนทั่วไปจึงไม่ควรพลาดที่จะติดตามความเคลื่อนไหวและผลการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้อย่างใกล้ชิด
อ้างอิง
นครศรีธรรมราช / การเมือง1 / การเมือง2 / Nation /